Google และ Sphere Entertainment Co. เผยความร่วมมือด้านเทคโนโลยี AI ครั้งสำคัญ เพื่อสร้างสรรค์โครงการ The Wizard of Oz at Sphere โดย Google ได้ขึ้นแท่นเป็นพันธมิตร AI อย่างเป็นทางการของ Sphere ในการนำภาพยนตร์คลาสสิกอมตะกลับมาสู่ผู้ชมในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความร่วมมือครั้งนี้ผสานรวมประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับกับเทคโนโลยี generative AI (gen AI) เช่นเดียวกับที่ The Wizard of Oz เคยพลิกโฉมวงการภาพยนตร์ด้วยเทคโนโลยีภาพสีเทคนิคคัลเลอร์เมื่อเกือบ 90 ปีที่แล้ว โครงการนี้จะใช้การทำงานด้านวิศวกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับการมีส่วนร่วมจากครีเอเตอร์ นักเขียนโปรแกรม ศิลปินวิชวลเอฟเฟกต์ และผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ นับพันคน
Google Cloud และ Google DeepMind ได้ร่วมมือกันนำโมเดล Gemini ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียด Veo 2 และ Imagen 3 มาใช้เพื่อยกระดับความคมชัดของภาพยนตร์ ขยายฉากพื้นหลัง และสร้างตัวละครที่มีอยู่เดิมในรูปแบบดิจิทัล ทำให้ตัวละครสามารถปรากฏบนจอเดียวกันได้แม้ว่าในอดีตจะไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ Sphere ยังใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Google Cloud ที่มีความสามารถในการปรับขนาดสูงเพื่อรองรับการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จำเป็นสำหรับโครงการนี้ ซึ่งได้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลไปแล้วถึง 1.2 เพตะไบต์
เจมส์ โดแลน ประธานบริหารและซีอีโอของ Sphere Entertainment กล่าวว่า “ด้วยพลังของ generative AI ร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานและความเชี่ยวชาญของ Google จะช่วยให้เราสามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ เราต้องการพันธมิตรที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดไปพร้อมกับทีมงานของเรา ซึ่ง Google คือบริษัทเดียวที่มีความสามารถในการตอบโจทย์นี้ได้ โดยเฉพาะการใช้งานบนจอ LED ที่มีความละเอียดสูงที่สุดในโลก”
ในขณะที่โทมัส คูเรียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Google Cloud มองว่าความร่วมมือนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการก้าวข้ามขีดจำกัดของ generative AI เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้ชม รวมถึงเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับวงการภาพยนตร์
The Wizard of Oz at Sphere มีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่ลาสเวกัส โดยจะนำเสนอภาพยนตร์คลาสสิกบนจอแสดงผลภายในขนาด 160,000 ตารางฟุต ผสานเทคโนโลยี AI ล่าสุดกับเทคนิควิชวลเอฟเฟกต์และภาพยนตร์แบบดั้งเดิม