การ์ทเนอร์คาดดาต้าเซ็นเตอร์ เสี่ยงเผชิญวิกฤติด้านพลังงานภายในปี 2027

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อรองรับ AI กำลังสร้างความท้าทายครั้งใหญ่ด้านพลังงาน การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2027 ดาต้าเซ็นเตอร์จะเติบโตถึง 160% และ 40% ของดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับการใช้งาน AI จะประสบปัญหาการจำกัดการดำเนินงาน เนื่องจากข้อจำกัดด้านพลังงาน ส่งผลให้ราคาบริการคลาวด์อาจพุ่งสูงขึ้น 10-100 เท่า

หลายประเทศเริ่มระงับการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ โดยเฉพาะในยุโรป ไอร์แลนด์ และสิงคโปร์ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเกินกำลังการผลิตในท้องถิ่น การแก้ปัญหาระยะสั้นทำได้โดยการตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ใกล้แหล่งพลังงาน เช่น AWS ที่สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด 750MW ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเพนซิลเวเนีย

สำหรับประเทศไทย แม้ยังไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแผน PDP 2024 ที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) กำลังผลิตสูงสุด 300 เมกะวัตต์ต่อหน่วย

จอร์จ โลเปซ รองประธานนักวิเคราะห์ การ์ทเนอร์ แนะนำให้องค์กรเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติด้วยการ:

  • วางแผนการใช้พลังงานอย่างรอบคอบก่อนนำ AI มาใช้
  • พิจารณาทางเลือกใหม่ในการจัดหาพลังงาน
  • มองหาโอกาสสร้างรายได้จากบริการ AI เพื่อชดเชยต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
  • ตรวจสอบความพร้อมด้านพลังงานของผู้ให้บริการคลาวด์
  • เตรียมแผนสำรองในกรณีที่เกิดการขาดแคลนพลังงาน

การแข่งขันด้านเทคโนโลยีชิปและการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานจะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาระยะยาว แต่องค์กรจำเป็นต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้เพื่อรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะมาถึง