Animoca Brands บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบล็อกเชนในฮ่องกง ผู้พัฒนาทรัพย์สินในโลกดิจิทัล และบริษัทในเครือ Bacasable Global Limited ผู้ดำเนินการพัฒนาและให้บริการ The Sandbox แพลตฟอร์มบล็อกเชนเกม เมตาเวิร์สที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาคอนเทนต์เกมได้ด้วยตัวเอง (UGC) ประกาศปิดดีลรับทุน $20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการประเมินมูลค่าบริษัทที่ $1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การระดมทุนในครั้งนี้นำโดย Kingsway Capital และ Animoca Brands พร้อมการสนับสนุนจาก LG Tech Ventures และ True Global Ventures
Yat Siu ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ Animoca Brands กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์และอนาคตของเนื้อหาคอนเทนต์เกมที่ผู้ใช้สร้างขึ้นของ The Sandbox อย่างต่อเนื่อง McKinsey คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 เมตาเวิร์สหรือโลกดิจิทัลเสมือนจริงจะเพิ่มมูลค่า $5 ล้านล้านให้กับเศรษฐกิจโลก และ The Sandbox จะเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเกมในยุคที่ให้ผู้ใช้ได้ครอบครองสิทธิ์ และเป็นสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างแท้จริง”
การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ และพันธกิจของ The Sandbox ในการสร้าง Creator Economy แบบกระจายศูนย์ ที่มีการขับเคลื่อนโดยไร้การควบคุมจากศูนย์กลาง Decentralized ในการพัฒนาและส่งเสริมคอมมูนิตี้นักพัฒนาเนื้อหาคอนเทนต์เกมด้วยตัวเอง (UGC) ทำให้ชุมชนนักพัฒนาสามารถมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการเติบโตของระบบนิเวศทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน The Sandbox และ The Sandbox DAO
Arthur Madrid CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง The Sandbox กล่าวว่า “Open Metaverse หรือ โลกบล็อกเชนเกม ทำให้นักพัฒนาสามารถเข้ามามีส่วนร่วม และสามารถถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินและคอนเทนต์เกมของตนเองในโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง พร้อมเข้าถึงผู้ใช้งานนับล้านบนโลกบล็อกเชนเกม The Sandbox ทำให้ภารกิจหลักของของเราคือการพัฒนาเครื่องมือเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์เกมและเทคโนโลยีที่ช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักสร้างสรรค์ทุกรูปแบบเข้ามามีส่วนร่วม”
Sebastien Borget COO และผู้ร่วมก่อตั้ง The Sandbox กล่าวเสริมว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งในการต้อนรับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์รายใหม่ที่สนับสนุนวิสัยทัศน์ และพันธกิจของเราในการพัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนเกม ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและครอบคลุมที่สุด”
ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา The Sandbox ได้ประกาศความสำเร็จ และอัพเดตการใช้งานของแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิดให้เจ้าของที่ดินกว่า 25,000 ราย ได้เปิดตัวคอนเทนต์เกม หรือ ประสบการณ์ต่างๆบน LAND ของพวกเขาสู่สาธารณะได้ มีการเปิด Marketplace บน Polygon Layer2 ที่ทำให้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มยอดธุรกรรมในการซื้อ-ขายให้กับกลุ่มนักพัฒนาในปัจจุบันก่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่ผู้ใช้ได้สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกันกว่า 11,000 รายการ และขายไปแล้วกว่า5แสนครั้ง ทำให้ The Sandbox กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่นำผู้ใช้ใหม่เข้าสู่โลก Web3 และ เมตาเวิร์ส
ปัจจุบัน The Sandbox มีพันธมิตรกว่า 400 รายกับแบรนด์ระดับโลกเช่น Lionsgate, Hellboy, Magnificent Century, Habbo, Care Bears, Space Invaders, Notorious BIG, Warner Music, Ubisoft, Snoop Dogg, Gucci และอื่นๆ อีกมากมาย The Sandbox มุ่งมั่นที่จะขยายโอกาสในการสร้างรายได้สำหรับนักสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล และนักพัฒนาเกมบนแพลตฟอร์ม The Sandbox โดยพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างสรรค์อย่าง Game Maker และ VoxEdit ให้ใช้งานได้ฟรี เครื่องมือเหล่านี้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้การสร้างเกมทำได้ง่ายดาย สะดวก และรวดเร็วขึ้น และ No-code พร้อมทั้งพัฒนารูปแบบการสร้างเกมที่หลากหลายเพื่อดึงดูดผู้เล่นใหม่เข้ามา โดยภายในปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวเวอร์ชัน Beta ที่หลายคนรอคอย