ผู้บริหารองค์กรธุรกิจคาดหวังให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการมีส่วนร่วมของพนักงาน
หลายคนคิดว่า Generative AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาใช้ถ้อยคำของตนเองเพื่อถามคำถามหรือสร้างข้อความก๊อปปี้และรูปภาพ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ทำได้ดีอย่างน่าทึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีศักยภาพที่เหลือเชื่อในการพลิกโฉมการทำงานของเรา ช่วยให้เราสามารถเข้าถึง บริโภค และใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆ ที่หลั่งไหลเข้าสู่อินบ็อกซ์และตกค้างอยู่ในคลังข้อมูล
เมื่อไม่นานมานี้ อะโดบีได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการรับรู้ของบุคลากรดิจิทัลที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI รวมถึงคุณประโยชน์ของเทคโนโลยีดังกล่าวในที่ทำงาน เราได้สำรวจความคิดเห็นของบุคลากรดิจิทัล 6,049 คนใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น ซึ่งครอบคลุมถึงพนักงานทั่วไปและผู้บริหารระดับสูงที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (รวมถึงเอกสารดิจิทัล) ในที่ทำงาน ข้อมูลจากการสำรวจเผยให้เห็นถึงการรับรู้และความมุ่งหวังของบุคลากรเหล่านี้เกี่ยวกับการที่ AI สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน โดยข้อมูลเชิงลึกจากการศึกษาที่สำคัญสามอันดับแรกมีดังต่อไปนี้:
1: AI เสริมศักยภาพให้แก่บุคลากรดิจิทัล
สำหรับบริษัทที่มีการปรับใช้เทคโนโลยีดังกล่าว พนักงานมองว่า AI เป็นพลังขับเคลื่อนที่สร้างสรรค์ ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (92%) กล่าวว่า AI ส่งผลดีต่อการทำงานของพวกเขา และมากกว่าหนึ่งในสี่ (26%) เรียก AI ว่าเป็น “ปาฏิหาริย์” นอกจากนี้ สองในสามกล่าวว่า AI ช่วยให้พวกเขาประหยัดเวลาได้อย่างแท้จริง และ 61% บอกว่า AI ช่วยให้พวกเขาทำงานได้รวดเร็วขึ้น
เกือบครึ่งหนึ่งของบุคลากรที่ตอบแบบสอบถาม (45%) กล่าวว่า AI ช่วยลดหรือกำจัดงานที่ซ้ำซากหรือน่าเบื่อหน่าย ขณะที่ 41% กล่าวว่า AI ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ดีขึ้น นอกจากนั้น มากกว่าหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถาม (36%) ที่ใช้ AI ในการทำงานกล่าวว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้ในอดีต
2: Generative AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเท่าทวีคูณ
Generative AI มีศักยภาพพิเศษในการเป็นตัวเพิ่มพลังถ้าหากเราเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถใช้ AI ได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส พนักงาน 90% เชื่อว่า Generative AI จะช่วยให้พวกเขาทำงานได้เร็วขึ้น ทั้งยังสามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ โดยใช้เวลาน้อยลง และลดเวลาในการทำงานที่ยุ่งยาก ซ้ำซาก หรือน่าเบื่อ นอกจากนี้ พนักงานในสัดส่วนที่เกือบเท่ากันกล่าวว่า Generative AI จะช่วยให้พวกเขาทำงานได้มากขึ้น (89%) และสร้างงานที่มีคุณภาพดีขึ้น (88%) และ 9 ใน 10 ของผู้บริหารองค์กรธุรกิจที่ตอบแบบสอบถามก็มีความเห็นแบบเดียวกันนี้
3: ผู้บริหารองค์กรธุรกิจมองว่าการยอมรับและการใช้งาน Generative AI เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ผู้บริหารองค์กรธุรกิจเกือบสี่ในห้า (79%) คาดหวังว่าพนักงานของพวกเขาจะใช้ Generative AI บ่อยครั้งในการทำงาน โดย 39% คาดหวังว่าพนักงานจะใช้ Generative AI เป็นประจำทุกวัน
ผู้บริหารองค์กรธุรกิจระดับโลกส่วนใหญ่ (76%) กล่าวว่าบริษัทของตนพร้อมที่จะนำเอา Generative AI มาใช้ในขั้นตอนการทำงาน จากผู้บริหารประมาณ 25% ที่กล่าวว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เกือบหนึ่งในสาม (35%) กล่าวว่าพวกเขาไม่มีมาตรการและระบบที่เหมาะสมสำหรับการรักษาความปลอดภัย การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการสร้างความน่าเชื่อถือ หรือพวกเขาไม่เข้าใจวิธีติดตั้งหรือใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ (34%)
เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์
ขณะที่ Generative AI ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น เราก็ได้ยินข้อกังวลใจเกี่ยวกับการที่ AI จะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ แน่นอนว่า Generative AI ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเราไปอย่างมาก แต่หากนำมาใช้อย่างรอบคอบแล้ว เทคโนโลยีนี้ไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการมีส่วนร่วมของพนักงาน
ปลดล็อคความฉลาด
ขณะที่การเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ดิจิทัลทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งานและเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้มีข้อมูลจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาเกินกว่าที่พวกเราส่วนใหญ่จะสามารถตรวจสอบและนำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม และสำหรับบริษัทต่างๆ ความท้าทายนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างทวีคูณ เพราะจะต้องจัดเก็บเอกสารจำนวนมหาศาลที่พวกเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ที่บริษัทเภสัชกรรมแห่งหนึ่งซึ่งจัดเก็บเอกสาร PDF หลายพันชุดที่ประกอบด้วยข้อมูลการวิจัยที่สำคัญและข้อมูลอื่นๆ ผู้บริหารคนหนึ่งให้ความเห็นว่า “มีความเป็นไปได้สูงที่ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง แต่เราไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง” ท้ายที่สุดแล้ว Generative AI จะช่วยให้พนักงานทุกคนและทุกบริษัทสามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกจากเอกสารเพื่อนำไปใช้ในการทำงานได้
ปรับแต่งประสบการณ์การทำงาน
หนึ่งในการประยุกต์ใช้งานที่น่าสนใจที่สุดของ Generative AI ในที่ทำงานก็คือ การสร้างประสบการณ์การทำงานแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น ทุกวันนี้ แทบทุกโซลูชั่นให้การตอบสนองแบบครอบจักรวาลโดยอ้างอิงจากข้อความคำสั่ง แต่ในอนาคต เอเจนต์ Generative AI จะมีประวัติการใช้งานของพนักงานแต่ละคน และจะได้รับการฝึกจากพนักงานแต่ละคนอย่างต่อเนื่องโดยใช้แหล่งข้อมูลที่ต้องการ เอเจนต์เหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของพนักงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของความรวดเร็วและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการและการทำงานของพนักงานอย่างแท้จริง
อนาคตที่น่าตื่นเต้น (และมีความรับผิดชอบ)
สำหรับผู้บริหารสายงานธุรกิจและเทคโนโลยีทั้งหมด มีประเด็นปัญหาด้านเทคนิค จริยธรรม และการดำเนินงานที่สำคัญที่เราจะต้องพิจารณาเมื่อเรานำเอา Generative AI เข้ามาใช้ในที่ทำงาน และแม้ว่าปัญหาเหล่านั้นอาจดูน่าหวาดหวั่น แต่การค้นหาแนวทางเชิงรุกที่เหมาะสมและมีความรับผิดชอบก็ถือเป็นทั้งโอกาสและหน้าที่ความรับผิดชอบของเรา เราควรเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ โดยใช้ Generative AI ในโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายได้อย่างเป็นรูปธรรม และควรร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้และพร้อมที่จะร่วมลงทุนเพื่อความสำเร็จ และที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่ามุ่งเน้นไปที่การลดค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว แต่ควรให้ความสำคัญกับโครงการที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับพนักงาน โดยเราเชื่อว่าการขยายศักยภาพของมนุษย์เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และมีความลึกซึ้งสำหรับ Generative AI และทุกๆ เทคโนโลยี