รายงาน Ericsson Mobility เผย 5G อยู่ในช่วงขาขึ้น คาดในปี 2572 ยอดผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียพุ่งแตะ 550 ล้านราย

  • ยอดผู้ใช้บริการมือถือ 5G ทั่วโลกคาดว่าจะแตะ 3 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2572
  • ยอดการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะเพิ่มจาก 24 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือน เป็น 66 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือน ระหว่างปี 2566 ถึง 2572
  • ณ สิ้นปี 2572 เครือข่าย 5G จะเข้าถึงและครอบคลุมประชากรกว่า 85% ทั่วโลก

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2566 เกือบหนึ่งในห้าของการใช้บริการมือถือทั่วโลกจะเป็น 5G เนื่องจากการเติบโตนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงการฟื้นคืนสู่สภาพเดิม แม้ว่าจะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยังคงดำเนินต่อไปและความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ในบางตลาดก็ตาม ตามสถิติที่นำเสนอในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมียอดการสมัครใช้บริการมือถือ 5G รายใหม่ 610 ล้านรายในปี 2566 เพิ่มขึ้น 63% จากปี 2565 ส่งผลให้ยอดรวมทั่วโลกอยู่ที่ 1.6 พันล้านราย หรือมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 100 ล้านราย

รายงานล่าสุด ซึ่งเป็นฉบับที่ 25 เผยช่วงเวลาการคาดการณ์ทางสถิติใหม่ โดยเปลี่ยนจากปี 2571 เป็นปี 2572 โดยรายงานฉบับนี้ยังระบุชัดเจนว่าบริการ Enhanced Mobile Broadband (eMBB), Fixed Wireless Access (FWA), เกมและบริการอื่น ๆ ที่ใช้กับอุปกรณ์ AR/VR เป็นเคสการใช้งาน 5G ที่พบเห็นบ่อยที่สุดของผู้บริโภคที่ใช้ 5G เป็นกลุ่มแรก ๆ

ภาพรวมในระดับภูมิภาคยอดการสมัครใช้ 5G ในทวีปอเมริกาเหนือยังคงเติบโตแข็งแกร่ง โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2566 ภูมิภาคนี้จะมีอัตราการสมัครใช้บริการมือถือ 5G สูงที่สุดในโลกที่ 61% เช่นเดียวกับการเติบโตของการสมัครใช้บริการ 5G ในประเทศอินเดียก็แข็งแกร่งตลอดปี 2566 ซึ่งคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีการสมัครใช้ 5G เติบโตสูงถึง 11% ซึ่งนับเป็นเวลาสิบสี่เดือนหลังจากการเปิดตัวเชิงพาณิชย์

ในช่วงหกปีระหว่างสิ้นปี 2566 ถึง 2572 คาดว่าการสมัครใช้บริการ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 330% จาก 1.6 พันล้านรายเพิ่มเป็น 5.3 พันล้านราย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ 5G จะครอบคลุมพร้อมให้บริการแก่ประชากรทั่วโลกมากกว่า 45% และเพิ่มเป็น 85% ภายในสิ้นปี 2572 โดยคาดว่าทวีปอเมริกาเหนือและกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับจะมีอัตราการขยายตัวของ 5G ระดับภูมิภาคสูงสุด อยู่ที่ 92% ภายในสิ้นปี 2572 ตามมาด้วยยุโรปตะวันตกที่คาดว่าจะเข้าถึงที่ 85%

เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้างานด้านเครือข่ายของอีริคสัน กล่าวว่า “ด้วยจำนวนผู้ใช้ 5G ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 600 ล้านบัญชีทั่วโลกและเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคปีนี้ ทำให้เห็นได้ชัดว่าความต้องการการเชื่อมต่อประสิทธิภาพสูงนั้นยังเข้มข้นอยู่ การเปิดตัว 5G ยังคงดำเนินต่อไปและเรายังเห็นการนำเครือข่าย 5G แบบสแตนด์อโลนมาใช้เพิ่มมากขึ้น นำมาซึ่งโอกาสในการสนับสนุนแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่มีความต้องการมากขึ้นสำหรับทั้งผู้บริโภคและองค์กร”

ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเติบโตขึ้นสามเท่าระหว่างสิ้นปี 2566 ถึงสิ้นปี 2572 โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสามารถของอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้น คอนเทนต์เนื้อหาต่าง ๆ ที่ต้องใช้ดาต้าจำนวนมากเพิ่มขึ้น และเครือข่ายการใช้งานที่พัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ปีเตอร์ จอนส์สัน บรรณาธิการบริหารของรายงาน Ericsson Mobility Report กล่าวว่า “อัตราการเติบโตของการใช้ดาต้าในเครือข่ายมือถือ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชื่นชอบการใช้แอปพลิเคชันบรอดแบนด์มือถือที่พัฒนายกระดับไปอีกขั้นหนึ่ง แนวโน้มนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใช้ 5G มากขึ้น และมีเคสการใช้งานใหม่ ๆ เกิดขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้การใช้ดาต้าเน็ตเติบโตตามมากขึ้น เนื่องจากความคับคั่งของการใช้ดาต้าส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในอาคารซึ่งผู้คนมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในนั้น จึงมีความต้องการการขยายความครอบคลุมย่านความถี่กลาง 5G ทั้งในอาคารและนอกอาคารเพิ่มขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ 5G ที่ครอบคลุมในทุกสถานที่”

ย่านความถี่กลางสำหรับเครือข่าย 5G หรือ 5G Mid-Band ผสมผสานเอาความจุสูงและความครอบคลุมที่ดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการมอบประสบการณ์ 5G เต็มรูปแบบ ปัจจุบันความครอบคลุมของประชากรของย่านความถี่กลางสำหรับเครือข่าย 5G ทั่วโลกมีมากกว่า 40% เพิ่มขึ้นจาก 30% ในปี 2565 โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการใช้งานย่านความถี่กลางขนาดใหญ่ในอินเดีย และยังรวมถึงการใช้งานย่านความถี่กลางหลายแห่งในยุโรปด้วย

รายงานยังสำรวจการเชื่อมต่อไร้สายสำหรับภาคอุตสาหกรรมการผลิต เผย 5G ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตและการทำให้เกิดความคล่องตัวที่จำเป็นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมถึงการจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ

ไฮไลท์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ภายในสิ้นปี 2572 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะมียอดสมัครใช้บริการมือถือ 5G สูงประมาณ 550 ล้านราย นอกเหนือจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5G เบื้องต้นในภูมิภาคแล้ว ผู้ให้บริการเครือข่ายยังให้ความสำคัญกับการนำเสนอบริการที่หลากหลายสำหรับทั้งผู้บริโภคและองค์กร โดยการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า การขยายความครอบคลุมของเครือข่าย และการส่งเสริมการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเพื่อธุรกิจยังมีความสำคัญสูงสุดทั่วทั้งภูมิภาค

ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย และคาดว่าจะสูงถึงประมาณ 66 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือนในปี 2572 เพิ่มจาก 24 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือนในปี 2566 หรือเติบโต 19% ต่อปี

นายอิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การขยายความครอบคลุมเครือข่าย และการส่งเสริมการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเพื่อธุรกิจยังเป็นปัจจัยสำคัญลำดับต้น ๆ ของผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทย โดยอีริคสันพร้อมสนับสนุนผู้ให้บริการไทยเพื่อมอบประโยชน์ 5G อย่างเต็มประสิทธิภาพให้แก่ทั้งผู้บริโภคและองค์กรในประเทศไทย”

Ericsson Mobility Report ประจำเดือนพฤศจิกายน 2023 ยังมีบทความเชิงลึกอีก 3 บทความ ดังนี้

  • Large-scale 5G SA deployment to drive digital transformation in India.
  • Demand for indoor connectivity driving the need for enhanced performance.
  • 5G-enabled agility in gigafactories and green steel plants

นอกจากนี้อีริคสันยังเป็นเจ้าภาพจัดเว็บบินาร์ เผยข้อมูลรายงาน Ericsson Mobility Report ในเวลา 09.00 น. (ตามเวลาในยุโรป) และ 18.00 น. (ตามเวลาในยุโรป) ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน นี้ หากต้องการเข้าร่วม โปรดลงทะเบียนที่นี่

อ่านรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2023 (ลิงก์)

Ericsson Mobility Report เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญในอุตสาหกรรมสำหรับข้อมูลเครือข่าย ประสิทธิภาพ สถิติ และการคาดการณ์นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2554 โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกด้านเครือข่ายทั่วโลกของ Ericsson และพันธมิตร

ลิงก์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง:

Ericsson Mobility ReportEricsson Mobility Report Business Review editionEricsson 5GEricsson 4G and 5G Fixed Wireless Access

เกี่ยวกับอีริคสัน

อีริคสัน สนับสนุนผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในการสร้างมูลค่าสูงสุดจากการเชื่อมต่อ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุมเครือข่าย (Networks) ซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์ (Cloud Software and Services) เทคโนโลยีและโซลูชั่นเครือข่ายไร้สายระดับองค์กร (Enterprise Wireless Solutions and Technologies) และธุรกิจใหม่ ๆ (New Businesses) และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าให้มุ่งสู่ระบบดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพ และมองหารายได้รูปแบบใหม่ การลงทุนเพื่อพัฒนานวัตกรรมของอีริคสันได้มอบประโยชน์จากระบบโทรศัพท์และเครือข่ายเคลื่อนที่ให้แก่ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก อีริคสันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในกรุงสต็อกโฮล์ม และใน NASDAQ นครนิวยอร์ค ติดตามข้อมูลข่าวสารของอีริคสันได้ที่ www.ericsson.com