บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม หรือ ITEL โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน กำไรเติบโต 9% แตะ 191 ล้านบาท พร้อมเปิดงบการเงินไตรมาส 3/2566 กวาดรายได้ 754 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาส 3/2565 หนุน Backlog ปัจจุบัน 2,855 ล้านบาท พร้อมเล็งเห็นศักยภาพเติบโตใน Health Tech เข้าลงทุนใน “Global Lithotripsy Services Company Limited” หวังเสริมฐานให้แข็งแกร่ง ต่อยอดธุรกิจตามกลยุทธ์ New S-Curve
นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก ที่มีความเสถียรภาพสูงสุดทั่วประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,938 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 175 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากบริษัทฯ มีการเติบโตในทุกธุรกิจ และความต้องการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
สำหรับงบการเงินไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 754 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้ 772 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท โดยในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทฯ ได้มีรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงรายการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ Global Lithotripsy Services Company Limited โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 100% เบื้องต้นคาดจะเริ่มรับรู้รายได้ ในไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป
“ITEL เล็งเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจ Health Tech ตามกลยุทธ์ New S-Curve ที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้ จึงตัดสินใจเข้าลงทุนใน Global Lithotripsy Services Company Limited ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ ด้าน CT Scan / MRI Scan และยังเป็นบริษัทย่อยของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก Sodexo จากประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งบริษัทนี้ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 27 ปี รวมถึงยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทั้งการเติบโตด้านรายได้และกำไร รวมถึงกระแสเงินสดที่เป็นบวกตลอดเวลา บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต อีกทั้งยังสามารถขยายไปในพื้นที่ให้บริการอื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีการให้บริการส่วนนี้ได้อีกมาก” นายณัฐนัย กล่าว
นายณัฐนัย กล่าวเสริมอีกว่า “ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นให้บริการลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ และฐานลูกค้าเก่าอย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และต่อยอดความสำเร็จในการขยายบริการเพิ่มเติมตามแผนกลยุทธ์ New S-Curve และพร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี Digital Transformation ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมายกระดับการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ ให้สามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์เทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยอาศัยจุดแข็งจากโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพของโครงข่ายที่เหนือระดับ ทำให้เพิ่มศักยภาพการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า สร้างรายได้เติบโต และคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทได้มีการขยายการลงทุนไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ทางด้านสุขภาพ “Health Tech” โดยเล็งเห็นถึงอนาคตที่คนจะหันมาใส่ใจสุขภาพและการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยบริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัทใหม่ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและอยู่ในกิจการนี้มากว่า 10 ปี อีกทั้งบริษัทดังกล่าวยังมีรายได้ต่อเนื่องผ่านการทำสัญญากับลูกค้าเป็นรายปี ซึ่งสอดรับกับแผนธุรกิจในการที่จะเพิ่มรายได้ต่อเนื่องของบริษัทอีกด้วย”
ที่มา: ไออาร์ พลัส