ผู้บริหาร “หัวเว่ย” ชูเทคโนโลยี UBB5.5G เพิ่มผลิตภาพดิจิทัลถึงขีดสุด

ในระหว่างการประชุมอัลตราบรอดแบนด์ (Ultra-Broadband Forum หรือ UBBF) ครั้งที่ 9 คุณเดวิด หวัง (David Wang) กรรมการบริหารของหัวเว่ย (Huawei) และประธานคณะกรรมการผู้จัดการธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานไอซีที ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “UBB5.5G เพิ่มผลิตภาพดิจิทัลถึงขีดสุด” (UBB5.5G Maximizes Digital Productivity) โดยบอกเล่าความเคลื่อนไหวล่าสุดและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมอัลตราบรอดแบนด์ ซึ่งในระหว่างการกล่าวปาฐกถาพิเศษนี้ คุณเดวิดได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่อัลตราบรอดแบนด์ (UBB) กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ การอัปเกรดเครือข่าย เร่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในวงกว้าง และเพิ่มผลผลิตทางดิจิทัลให้สูงสุด

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในเศรษฐกิจจริงในระดับที่ล้ำลึกยิ่งขึ้นนั้น กำลังเข้ามาผลักดันขีดความสามารถในการผลิตให้เพิ่มขึ้น ผลผลิตทางดิจิทัลที่ว่านี้กำลังกลายเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น คลาวด์, AI, 5G และ UBB ก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นที่พบเห็นในองค์กรและบ้านเรือนผ่านบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ พลิกโฉมทางดิจิทัลได้เร็วขึ้น และนำความบันเทิง ชีวิต และการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นมาสู่คนทั่วไป การนำบริการใหม่ ๆ เหล่านี้ไปใช้ยังช่วยเพิ่มความก้าวหน้าในด้านผลผลิตทางดิจิทัลอีกด้วย

คุณหวัง กล่าวว่า “เดิมทีนั้น เครือข่ายอัลตราบรอดแบนด์มักจะมุ่งไปที่การส่งมอบการเชื่อมต่อ จากนั้นเราก็เปลี่ยนไปยกระดับประสบการณ์ให้ดีขึ้น ในยุค 5.5G นั้น อัลตราบรอดแบนด์จะมุ่งปลดปล่อยประสิทธิภาพของบริการดิจิทัล เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงบริการดิจิทัลได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแบบใหม่นี้จะให้การเข้าถึงที่แพร่หลายในระดับ 10 กิกะบิต ด้วยการรับส่งแบบอัลตราบรอดแบนด์ที่ยืดหยุ่น และพลังการประมวลผลอันมหาศาลที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ข้อมูลแบบไฮเปอร์คอนเวอร์จ การเปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแบบใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยหัวเว่ยจะร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนวิวัฒนาการของ F5.5G และ Net5.5G รวมถึงอุตสาหกรรมอัลตราบรอดแบนด์ทั้งหมด เพื่อเพิ่มผลผลิตทางดิจิทัลให้สูงสุด”

คุณหวังอธิบายว่า การเพิ่มผลผลิตทางดิจิทัลให้สูงสุดนั้นจะต้องเอาชนะความท้าทายที่สำคัญ 3 ประการ ประการแรก อุตสาหกรรมจะต้องหาวิธีรองรับพลังการประมวลผลจำนวนมหาศาลที่จำเป็นต่อการให้บริการดิจิทัล ประการที่สอง จะต้องให้บริการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้และรองรับผู้ใช้จำนวนมากพร้อมกันได้ด้วย ประการที่สาม ทุกคนจะต้องเข้าถึงได้อย่างแพร่หลายและได้ประสบการณ์คุณภาพสูง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

นอกจากนี้ คุณหวังยังอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เครือข่ายอัลตราบรอดแบนด์ควรต้องอัปเกรดด้วย

ประการแรก การเข้าถึงในระดับ 10 กิกะบิตอย่างแพร่หลาย อาศัยการเร่งความเร็วบรอดแบนด์บนมือถือ บรอดแบนด์ภายในบ้าน เครือข่ายแคมปัสขององค์กร และบริการสายส่วนตัวขององค์กรเป็น 10 Gbps เพื่อให้ใช้งานบรอดแบนด์บนมือถือขนาด 10 กิกะบิตได้อย่างแพร่หลาย มอบเครือข่ายภายในบ้านขนาด 10 กิกะบิตที่ราบรื่นได้ทั้งบ้าน อัปเกรดการเชื่อมต่อวิทยาเขตขนาด 10 กิกะบิตสำหรับองค์กร และให้บริการสายส่วนตัวขนาด 10 กิกะบิตที่ยืดหยุ่นและปริมาณงานสูงได้ โดยการเชื่อมต่อคุณภาพสูงระดับ 10 กิกะบิตเหล่านี้ ทำให้บริการดิจิทัลพร้อมมอบประโยชน์ต่อผู้คนและองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกได้มากขึ้น

การเข้าถึง 10 กิกะบิตที่แพร่หลายยังจำเป็นต้องมีเครือข่าย Bearer แบบหลอมรวม เพื่อพัฒนาเป็นเครือข่ายการขนส่งคุณภาพสูงและยืดหยุ่น เครือข่าย IP และเครือข่ายเมโทรออปติคัลส่วนใหญ่จะต้องรองรับ 400G และพัฒนาต่อไปเป็น 800G ได้ ส่วนเครือข่ายแกนหลักยังต้องรองรับ 400G ด้วยความสามารถในการขนส่งที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะที่เครือข่ายแบบออปติคัลครอสคอนเนกต์ (OXC) ครบวงจรนั้น จะมอบประสบการณ์ที่เชื่อถือได้สำหรับบริการที่มีความอ่อนไหวต่อความหน่วง ปัจจุบัน เวลาแฝงที่ยอมรับได้สำหรับการเข้าถึง บริการเครือข่ายเมโทร และบริการเครือข่ายระดับชาติคือ 1 มิลลิวินาที, 5 มิลลิวินาที และ 20 มิลลิวินาที ตามลำดับ

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลแบบไฮเปอร์คอนเวอร์จยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ปลดปล่อยพลังการประมวลผล AI ได้อย่างเต็มที่ คุณหวังกล่าวว่า การใช้สถาปัตยกรรมไฮเปอร์คอนเวิร์จขั้นสูงจะทำให้เครือข่ายศูนย์ข้อมูล ตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลทั่วไป การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผลสมรรถนะสูง และการประมวลผล AI ได้ และเมื่อประกอบกับการเชื่อมต่อโครงข่ายความเร็วสูง 800GE แล้ว ก็จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างมาก โดยอัลกอริทึมแจ้งเตือนความแออัดและปรับสมดุลโหลดเครือข่ายนั้น จะช่วยสร้างเครือข่ายแบบไม่สูญเสียข้อมูลที่มี IOPS สูงขึ้น 85% พร้อมด้วยเครือข่ายคลัสเตอร์ AI ที่เพิ่มประสิทธิภาพการฝึกอบรมได้ 20%

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด จำเป็นต้องใช้โมเดลโทรคมนาคมขนาดใหญ่ เพื่อให้เครือข่ายมีความเป็นอิสระมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพด้วยตนเองได้ เครือข่ายปัจจุบันที่มีระบบอัตโนมัติและระบบดิจิทัลในระดับสูงคาดว่าจะมาพร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะใหม่ ๆ ซึ่งจะทำให้เครือข่ายมีความเป็นอิสระมากขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งโมเดลโทรคมนาคมขนาดใหญ่สามารถเร่งกระบวนการนี้ได้ เพื่อพัฒนาเครือข่ายขับขี่อัตโนมัติ (ADN) ในระดับ L4 ที่ขับเคลื่อนด้วยความตั้งใจและสนับสนุนการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพด้วยตนเองได้ โมเดลเหล่านี้ช่วยให้วิศวกรจัดการชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิมถึงสองเท่าอยู่แล้ว

คุณหวังเน้นย้ำว่า อัลตราบรอดแบนด์เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโต พร้อมเรียกร้องให้ผู้เล่นในระบบนิเวศทำงานร่วมกัน เพื่อให้การสนับสนุนนโยบายและเร่งสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ การประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาระบบนิเวศ คุณหวังกล่าวสรุปว่า การทำงานร่วมกันจะผลักดันอุตสาหกรรมอัลตราบรอดแบนด์ไปข้างหน้า โดยเพิ่มผลผลิตด้านดิจิทัลให้สูงสุด เพื่อให้ผู้คนและองค์กรต่าง ๆ ได้รับประโยชน์จากบริการดิจิทัลมากขึ้น

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2245961/Huwei_UBB.jpg

ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์