เปิดพันธกิจ เพาเวอร์บาย ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียวกับเป้าหมายสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน

เพาเวอร์บาย ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล ชู Green & Sustainable ตอกย้ำพันธกิจในการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรม ประกาศแผนพัฒนาที่ยั่งยืน 2 ด้าน ภายใต้คอนเซปต์ 2 Power คือ Power of Green – ด้านสิ่งแวดล้อม และ Power of Love – ด้านสังคม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พัฒนาสังคมให้น่าอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่จากรุ่นสู่รุ่น

นายวรวุฒิ พงศ์ชินภัค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “เพาเวอร์บาย ได้ตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) มาโดยตลอด ตามเจตนารมณ์ของ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการบริหารงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกมิติ ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนตามแนวทางของ ESG เพื่อสร้างคุณภาพชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อมที่ดี ภายใต้หลักธรรมาภิบาล อีกทั้งยังคำนึงถึงความคาดหวังและผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย คู่ค้าทางธุรกิจ ลูกค้า พนักงาน ที่อยู่ในห่วงโซ่ของการดำเนินธุรกิจอย่างรอบด้านอีกด้วย บริษัทฯ จึงได้โฟกัสกลยุทธ์การทำธุรกิจแบบยั่งยืน ด้วยการนำแนวคิด 2 Power มาเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนองค์กร ได้แก่

  1. Power of Green: ภารกิจรัก(ษ์)โลก
    • โครงการ Bye Bye e-Waste: ในฐานะที่เพาเวอร์บาย ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าไอที จึงได้เปิดจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Waste ที่ร้านเพาเวอร์บาย 40 สาขาทั่วไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไทยได้มีจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพาเวอร์บายได้ร่วมกับเอไอเอสในการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้นไปกำจัด และรีไซเคิลอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานสากล เป็นการช่วยกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่มีกว่า 60 ล้านตันทั่วโลก เพื่อก้าวสู่องค์กรที่จัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นศูนย์ (Zero e-Waste)
    • โครงการโซลาร์รูฟ: เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาที่คลังสินค้าของเพาเวอร์บาย นำพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยลดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 300 ตันต่อปี และสามารถประหยัดไฟฟ้าภายในคลังสินค้าได้ถึง 20% ต่อปี นอกจากนี้ยังยกเลิกการใช้ฟิล์มพลาสติกในการพันพาแลทสินค้าซึ่งเป็นวัสดุสิ้นเปลือง เปลี่ยนมาใช้ Nylon Belt ทดแทน ซึ่งเป็นวัสดุทนทานสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ช่วยลดขยะพลาสติกได้ถึง 2.8 ตันต่อปี
    • โครงการ e-Tax Invoice และ e-Receipt: รณรงค์ให้ลูกค้าร่วมสร้างพฤติกรรมรักษ์โลก Journey to Net Zero ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อซื้อสินค้าเพาเวอร์บายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน เพื่อช่วยลดการใช้กระดาษ
  2. Power of Love: ชีวิตดี สังคมน่าอยู่
    • โครงการ เก่าแลกใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า: โดยเพาเวอร์บายได้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ได้รับบริจาคมาจากลูกค้าส่งมอบให้กับมูลนิธิพระดาบส และโรงเรียนช่างเทคนิคในแต่ละภูมิภาคทั่วไทย เพื่อนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอนพัฒนาทักษะฝีมือด้านอาชีพให้กับนักเรียน เป็นโครงการที่ช่วยต่อยอดในด้านการเรียน ส่งเสริมอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนไทย ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ถูกซ่อมแซมจนสามารถใช้งานได้ปกติ ก็จะนำไปส่งต่อให้กับโรงเรียนหรือชุมชนที่ขาดแคลนเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
    • สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา: ที่ผ่านมาเพาเวอร์บายได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเสริมคุณภาพทางการศึกษาให้กับกลุ่มเด็กพิเศษ โดยได้มอบแทบเล็ตสำหรับเป็นสื่อการเรียนการสอน สร้างโอกาสให้เด็กกลุ่มนี้และคุณครูได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสาร สาระ เปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพาเวอร์บายเชื่อมั่นว่าการพยายามใส่เมล็ดพันธุ์ความคิดที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนทุกกลุ่ม จะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ที่ยั่งยืน และเด็กๆ จะเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ
    • การจ้างงานคนพิการ: อีกหนึ่งองค์ประกอบหลักของการพัฒนาความยั่งยืนคือ พนักงาน ซึ่งเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เพาเวอร์บายจึงมีนโยบายจ้างงานผู้พิการ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม เพื่อช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น

“พันธกิจทั้งหมดนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางและผลักดันให้ เพาเวอร์บาย ก้าวสู่องค์กรที่ยั่งยืน ภายใต้อีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ที่สมดุลย์และแข็งแรงต่อไป พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าผสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพในระยะยาวให้กับประเทศชาติต่อไป” นายวรวุฒิ กล่าวปิดท้าย

ที่มา: เพาเวอร์บาย