ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 (Mobile World Congress หรือ MWC 2023) หัวเว่ย (Huawei) ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลภาคอุตสาหกรรม (Industry Digital Transformation Summit) ครั้งที่ 5 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อกำหนดและจุดบกพร่องของประสิทธิภาพการจัดการเครือข่ายระดับองค์กร รวมถึงประสบการณ์การเชื่อมต่อ ความปลอดภัยของดาต้าเซ็นเตอร์ และพลังการประมวลผลแล้ว หัวเว่ยได้ตัดสินใจเปิดตัวโซลูชันขั้นสูงใหม่ ๆ สำหรับเครือข่ายที่เรียบง่าย โดยมีดาต้าเซ็นเตอร์เป็นรากฐานของเครือข่ายที่มั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ ๆ และปลดปล่อยพลังของนวัตกรรมดิจิทัล
ในการกล่าวเปิดงาน คุณเดวิด หวัง (David Wang) กรรมการบริหาร ประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐานไอซีที และประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “หัวเว่ยจะหยั่งรากลึกมากขึ้นในตลาดองค์กรและดำเนินการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อไป เราพร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีชั้นนำและเจาะลึกสถานการณ์การใช้งานรูปแบบต่าง ๆ เราจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมก้าวสู่ความเป็นดิจิทัล ช่วยให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เข้าถึงข้อมูลความรู้ทางธุรกิจ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ร่วมกัน”
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อก้าวสู่โลกอัจฉริยะยิ่งขึ้น
คุณบ็อบ เฉิน (Bob Chen) รองประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์หลักในหัวข้อ “เทคโนโลยีดิจิทัลนำทางสู่โลกอัจฉริยะ” (Digital Technology Leads the Way to the Intelligent World) โดยเขากล่าวว่า “อาร์คิมิดีส นักฟิสิกส์ชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่ กล่าวไว้ว่า “หาที่ให้ฉันยืน แล้วฉันจะเคลื่อนโลกให้ดู” เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเราในการช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล หัวเว่ยจะมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อ การประมวลผล คลาวด์ และเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ เราจะยังคงสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรม ขอให้เรามาร่วมกันสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างสมบูรณ์”
โซลูชันเครือข่ายเรียบง่าย: ผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 ส่วน สร้างรากฐานเครือข่ายที่มั่นคง
หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะช่วยองค์กรต่าง ๆ สร้างเครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะที่มีการทำงานร่วมกันของเครือข่ายกับคลาวด์ สถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และคุณสมบัติการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพดิจิทัลสูงสุดและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด เราจะทำงานร่วมกับลูกค้าต่อไปเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายยุคใหม่ที่พร้อมรองรับทุกอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น
- เครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะ: หัวเว่ยกำหนดนิยามใหม่ให้กับเครือข่ายแคมปัส และเปิดตัว CloudEngine S16700 ซึ่งเป็นอุปกรณ์คอร์สวิตช์ (core switch) ระดับองค์กรรุ่นใหม่ รวมถึง AirEngine 8771-X1T ซึ่งเป็นตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi 7 ระดับองค์กรรุ่นแรก พร้อมด้วยอุปกรณ์ 50G PON OLT และผลิตภัณฑ์เทอร์มินัลออปติคอลรุ่นแรก
- บริหารเครือข่ายสาขาอย่างง่ายดาย: หัวเว่ยเปิดตัวโซลูชันบริหารเครือข่ายสาขาแบบผสานรวมที่เรียบง่ายตัวแรกของอุตสาหกรรม
- อ็อปติกซ์แบบเดี่ยว (Single OptiX): หัวเว่ยเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์หน่วยบริการออปติคอล (OSU) แบบครบวงจรเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม
- คลาวด์แวน (Cloud WAN): หัวเว่ยกำหนดนิยามเครือข่ายคลาวด์แวนใหม่ล่าสุด และเปิดตัวเราเตอร์ซีรีส์ NetEngine 8000 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเราเตอร์อัจฉริยะครบวงจรแห่งยุคคลาวด์
โซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์: 4 ผลิตภัณฑ์และกลุ่มผลิตภัณฑ์แรกในอุตสาหกรรม ปลดปล่อยพลังแห่งนวัตกรรมดิจิทัล
หัวเว่ยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเป็นผู้นำการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ ๆ รวมถึงช่วยให้องค์กรต่าง ๆ รับมือกับภัยคุกคามที่ไม่แน่นอน รับประกันการบริการขั้นสูงสุด ให้พลังการประมวลผลขนาดใหญ่และหลากหลาย ตลอดจนทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ หัวเว่ยเปิดตัวโซลูชันการป้องกันดาต้าเซ็นเตอร์จากแรนซัมแวร์แบบหลายชั้นตัวแรกของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือของเครือข่ายกับการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ DC DR แบบรวมศูนย์ชุดแรกของอุตสาหกรรม ที่ประกอบด้วยโซลูชันการประสานงานการจัดเก็บข้อมูลและการเชื่อมต่อออปติคอล (SOCC) และ CloudEngine 16800-X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดาต้าเซ็นเตอร์สวิตช์ (DC switch) ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อพลังการประมวลผลที่หลากหลาย
สำหรับธุรกิจ SME หัวเว่ยได้เปิดตัว OceanStor Dorado 2000 และ OceanProtect X3000 ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลระดับเริ่มต้นรุ่นแรกของอุตสาหกรรมที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบแอคทีฟ-แอคทีฟ
ร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยแนวปฏิบัติชั้นนำของอุตสาหกรรม
คุณฮวน เดอ ดิออส นาวาร์โร กาบาลเลโร (Juan De Dios Navarro Caballero) สมาชิกสภาจังหวัดอาลิกันเต ประเทศสเปน กล่าวว่า “โซลูชันคลาวด์แฟบริก (CloudFabric) ที่ใช้เครือข่าย SDN ของหัวเว่ย และโซลูชันเครือข่ายแคมปัสไร้สาย (All-Wireless Campus Network) ทำให้เกิดเครือข่ายที่ทำงานอัตโนมัติ การบำรุงรักษาอัจฉริยะ และการเชื่อมต่ออย่างครอบคลุม โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้หน่วยงานรัฐในจังหวัดอาลิกันเตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณะที่ดีขึ้น จังหวัดเรามีการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็วขึ้น พร้อม ๆ กับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล”
คุณเฟท เบิร์น (Faith Burn) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของเอสคอม (Eskom) บริษัทพลังงานไฟฟ้าจากแอฟริกาใต้ ได้แบ่งปันวิธีการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของบริษัทและประสบการณ์เชิงปฏิบัติ โดยเธอเน้นว่าเอสคอมพยายามทำงานร่วมกับพันธมิตรที่สามารถช่วยให้บริษัทบรรลุวิสัยทัศน์ทางดิจิทัล “เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องหาพันธมิตรที่มีความสามารถเพื่อทำให้วิสัยทัศน์ทางดิจิทัลของเราเป็นจริง เอสคอมต้องการร่วมมือกับ OEM อย่างหัวเว่ย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้า เพื่อบรรลุความเป็นดิจิทัลอย่างสมบูรณ์”
คุณสตีเวน จู (Steven Zhu) ประธานฝ่ายการจัดการและการพัฒนาพันธมิตร กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน กระตุ้นให้พันธมิตรให้การสนับสนุนลูกค้าในเชิงรุก และร่วมกันให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี”
ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงลงทุนและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลก เพื่อผสานรวมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างลึกซึ้ง เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และเร่งให้เกิดโลกอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างคุณค่าใหม่
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2013034/image_986294_75150793.jpg
คำบรรยายภาพ – คุณเดวิด หวัง กรรมการบริหาร ประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐานไอซีที และประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวเปิดงาน
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2013035/image_986294_75152296.jpg
คำบรรยายภาพ – คุณบ็อบ เฉิน รองประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์หลัก