พรินซ์ รีเทล (Prince Retail) เครือร้านค้าปลีกและค้าส่งในเมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมการทำงานร่วมกันระหว่างข้อมูลและกระบวนการของบริษัทกับของซัพพลายเออร์ โดยใช้แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ “เวนเดอร์ลิงก์” (Vendor Link) ของอัลโกโนมี (Algonomy)
พรินซ์ รีเทล ใช้แพลตฟอร์มเวนเดอร์ลิงก์เพื่อช่วยให้มองเห็นกระบวนการต่าง ๆ ในซัพพลายเชนได้ชัดเจนมากขึ้น ตั้งแต่การสั่งซื้อ การขนส่งสินค้า ไปจนถึงการชำระเงิน โดยก่อนที่จะใช้แพลตฟอร์มนี้ กระบวนการดังกล่าวต้องทำแบบแมนนวลทั้งการโทรศัพท์ การส่งข้อความ อีเมล และแฟกซ์ ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพและบ่อยครั้งก็ก่อให้เกิดข้อผิดพลาด
แพลตฟอร์มเวนเดอร์ลิงก์เปิดโอกาสให้ผู้ขายเข้าถึงข้อมูลระบบขายหน้าร้าน (POS) ซึ่งช่วยวัดอุปสงค์ในร้านโดยมีการอ้างอิงพฤติกรรมของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่คำสั่งซื้อ ทำให้สามารถคาดการณ์ด้วยตัวเองเพื่อปรับปรุงการวางแผนจัดประเภทสินค้าและเตรียมสินค้าคงคลัง ด้วยเหตุนี้ พรินซ์ รีเทล จึงสามารถจัดสรรสินค้าคงคลัง/สต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำกำไรได้มากขึ้นในร้านค้าทุกสาขา รวมทั้งสามารถเลือกประเภทสินค้าที่จะทำโปรโมชันได้เหมาะสมมากขึ้น
พรินซ์ รีเทล ใช้แพลตฟอร์มเวนเดอร์ลิงก์เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ขายกับทีมงานจัดการสินค้าครอบคลุมทั้งการดำเนินงานและการทำธุรกรรม เช่น การจัดการคำสั่งซื้อ การจัดกำหนดการ และการชำระเงิน นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังช่วยให้แบ่งปันข้อมูลได้อย่างราบรื่น จึงวางแผนจัดโปรโมชันและกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
“จุดมุ่งหมายของเราคือการสร้างความโปร่งใสมากขึ้นและปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการทั่วทั้งระบบนิเวศซัพพลายเออร์ ซึ่งเวนเดอร์ลิงก์ก็ทำได้เกินความคาดหมายของเรา แพลตฟอร์มดังกล่าวได้สร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลระหว่างทีมงานภายในองค์กรและซัพพลายเออร์ของเรา ซึ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นในการทำงานประจำวัน” รินา จานีน โก (Rina Janine Go) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการจัดการสินค้า การตลาด และการจัดจำหน่ายของพรินซ์ รีเทล กล่าว
การใช้แพลตฟอร์มเวนเดอร์ลิงก์ช่วยให้พรินซ์ รีเทล ประหยัดเวลาในกระบวนการสั่งซื้อเป็นอย่างมาก และไม่ต้องประสบปัญหาลืมส่งคำสั่งซื้อของร้านค้าทั้งหมดอีกต่อไป โดยข้อผิดพลาดจากการทำงานแบบแมนนวลที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ถูกขจัดไปหมด และมีเวลามากขึ้นในการจัดกิจกรรมเพิ่มมูลค่าต่าง ๆ นอกจากนี้ การมองเห็นกระบวนการชำระเงินอย่างชัดเจนยังเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับผู้ขาย ช่วยให้สามารถติดตามการชำระเงินและปรับปรุงกำหนดการจัดส่งสินค้าได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน การแบ่งปันข้อมูลยังช่วยให้กิจกรรมส่งเสริมการขายส่วนใหญ่ของผู้ขายได้รับการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและสร้างผลกระทบมากขึ้น เนื่องจากสามารถติดตามประสิทธิภาพของตนเองและประสิทธิภาพของคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ พรินซ์ รีเทล ยังสิ้นเปลืองทรัพยากรน้อยลงในการจัดโปรโมชันและกิจกรรมต่าง ๆ ขณะที่สินค้าคงคลังล้นสต็อกเพราะผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคลื่อนไหวหรือโปรโมชันที่ไม่ได้ผลก็ลดลงเช่นกัน ส่วนความพร้อมของสินค้าคงคลังก็มีมากขึ้นเนื่องจากมองเห็นกระบวนการชำระเงินได้ชัดเจนขึ้น
“เวนเดอร์ลิงก์เป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันบนเว็บที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยขจัดการปิดกั้นข้อมูลการดำเนินงานระหว่างผู้ขายกับผู้ค้าปลีกด้วยการทำให้การดำเนินการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเป็นไปอย่างอัตโนมัติและคล่องตัว” อามิต อาการ์วาล (Amit Agarwal) รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจของอัลโกโนมี กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ช่วยพรินซ์ รีเทล ลดต้นทุน ลดความสิ้นเปลือง และเพิ่มผลกำไร”
พรินซ์ รีเทล ยังสามารถแก้ปัญหาในกระบวนการสั่งซื้อไปจนถึงการชำระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ขายสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ทั้งนี้ ข้อพิพาทต่าง ๆ เช่น ปริมาณสินค้าจริงที่ได้รับ การหักเงินคืน และส่วนลด มักเป็นปัญหาต่อการกระทบยอด และการกระทบยอดชำระเงินมักกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้คำสั่งซื้อที่ตามมาภายหลังไม่ได้รับการตอบสนอง ส่งผลให้มีสินค้าคงคลังไม่เพียงพอในร้านค้า
เวนเดอร์ลิงก์ทำหน้าที่เป็นโซลูชันที่ช่วยให้กระบวนการเจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable) รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้มองเห็นกระบวนการสั่งซื้อไปจนถึงการชำระเงินได้ชัดเจนขึ้นเมื่อซัพพลายเออร์ส่งสินค้าไปยังคลังสินค้า ส่งผลให้อัตราการเติมเต็มสินค้าเพิ่มขึ้นและความพร้อมของสินค้าบนชั้นวางมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้พรินซ์ รีเทล มีความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เกี่ยวกับอัลโกโนมี
อัลโกโนมี (Algonomy หรือเดิมชื่อ Manthan-RichRelevance) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แบรนด์ชั้นนำก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลด้วยแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบอัลกอริทึมเรียลไทม์หนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม ซึ่งผสานรวมข้อมูล การตัดสินใจ และการประสานงานทั้งในด้านการตลาด การค้าดิจิทัล และการจัดการสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมการค้าปลีก ด้วยเทคโนโลยี AI ด้านการค้าปลีกระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่เชื่อมอุปสงค์กับอุปทานด้วยแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ อัลโกโนมีจึงสามารถมอบบริการที่เฉพาะเจาะจงแบบตัวต่อตัวผ่านหลายช่องทาง การจัดการเส้นทางของลูกค้า การวิเคราะห์การจัดการสินค้า และการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ อัลโกโนมีเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ของแบรนด์ชั้นนำ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ มากกว่า 400 ราย โดยบริษัทดำเนินงานในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ algonomy.com
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1447771/Algonomy.jpg