การทำงานของ AIS Business ในฐานะผู้นำด้านการโซลูชันดิจิทัลเพื่อองค์กร ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกอุตสาหกรรมในการทำดิจิทัลทรานฟอร์มเมชันอย่างมีประสิทธิภาพ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายทั้งในประเทศและระดับโลก ทำให้วันนี้ AIS Business สามารถสร้าง Digital Business Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์แบบพร้อมให้บริการสำหรับภาคธุรกิจไทยในทุกมิติ ล่าสุดได้ขยายบทบาทตัวเองสู่การให้บริการไอซีทีแบบครบวงจร และสู่อุตสาหกรรมบริการสุขภาพและโรงพยาบาลด้วยการทำงานร่วมกับ “โรงพยาบาลวิมุต” พลิกโฉม ยกระดับไปอีกขั้น สู่การเป็น Smart Hospital ด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีเต็มรูปแบบจาก AIS 5G ทั้งบริการโซลูชันแบบครบวงจร, งานบริหารจัดการระบบ ICT, การจัดการข้อมูลและศูนย์ Data Center, การสื่อสารเชื่อมต่อการทำงานด้วย Cloud Contact Center รวมถึงบริการดิจิทัลที่มาช่วยอำนวยความสะดวก และเสริมประสบการณ์ในการใช้บริการรักษาพยาบาลของคนไข้ อาทิ แอปพลิเคชัน บริการเทเลเมดดิซีน (Telemedicine)
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า “วันนี้ AIS มีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าองค์กรในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยการมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการมีพาร์ทเนอร์ที่เข้ามาทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถส่งมอบบริการด้านโครงข่าย, ไอซีที และดิจิทัลโซลูชันได้อย่างครอบคลุมแบบครบวงจร เช่นในครั้งนี้ ที่เราได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลวิมุตในการยกระดับศักยภาพของโรงพยาบาลสู่การเป็น Smart Healthcare ด้วยการเข้าไปทำงานแบบครบวงจรเป็นครั้งแรกในธุรกิจโรงพยาบาล ที่ครอบคลุมกระบวนการทำงานของโรงพยาบาลตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านเน็ตเวิร์คเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดด้านไอซีที (ICT) ทั้งระบบและทีมงานที่พร้อมแก้ไขปัญหา ตลอดจน ดิจิทัลเซอร์วิซสำหรับคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อเข้าถึงบริการทางการแพทย์
ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญของ AIS ที่สามารถนำศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ 5G และพลังของพาร์ทเนอร์มาให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรทำให้องค์กรธุรกิจมีขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีทัดเทียมนานาชาติ พร้อมรับมือทุกโอกาส ความท้าทาย และการแข่งขัน”
ทางด้าน นายแพทย์สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า “หนึ่งในเป้าหมายการทำงานของโรงพยาบาลวิมุตคือ Smart Hospital หรือการนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการทำงาน ตั้งแต่การรักษาที่ตรงจุดด้วยเทคโนโลยี และเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงขั้นตอนการทำงานภายในและบริการการรักษาที่จะทำให้ผู้รับบริการเกิดประสบการณ์ที่ดีมีความพึงพอใจสูงสุด โดยเรามองหา Service Provider ที่จะมาทำงานร่วมกันที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของเครือข่ายสัญญาณที่มีประสิทธิภาพ การมีโซลูชันที่ช่วยเรื่องการจัดการฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการกับระบบการทำงานภายในที่สามารถเชื่อมต่อส่วนงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำและปลอดภัย รวมถึงการมีบริการที่ตอบโจทย์คนไข้ในยุคดิจิทัลอย่างแอปพลิเคชัน ที่จะมาช่วยเรื่องการนัดหมาย การแจ้งผลตรวจ หรือแม้แต่การปรึกษาแพทย์ผ่านทางออนไลน์”
สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลวิมุต และ AIS เพื่อยกระดับการโรงพยาบาลให้ก้าวสู่การเป็น Smart Hospital แบบเต็มรูปแบบ ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีโครงข่าย เพื่อใช้ในการออกแบบบริการและโซลูชันการทำงานภายในตามโจทย์ข้างต้นของโรงพยาบาลวิมุต อาทิ
- Turnkey IT Solutions นับเป็นครั้งแรกที่ AIS ใช้ศักยภาพด้านโครงข่ายและผสานความสามารถร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายเข้าไปให้บริการได้แบบครบวงจร
- ทั้งการวางระบบงานด้าน ICT การจัดการฐานข้อมูลหรือ Data Center ระบบสื่อสารและอุปกรณ์ไอที
- Managed IT Services การให้บริการอย่างครบวงจรด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปสนับสนุน พร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือ และดูแลระบบการใช้งานตลอดเวลา
- Digital Services การออกแบบแอพลิเคชันสำหรับโรงพยาบาลวิมุต รวมถึงระบบเพื่อให้บริการวัคซีน และบริการที่ช่วยยกระดับการทำงานทางการแพทย์ อย่างระบบเทเลเมดดิซีน เพื่อให้คนไข้หรือผู้รับบริการได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการรักษา
- Cloud Contact Center ระบบการสื่อสารภายในที่ช่วยเชื่อมต่อการทำงานของส่วนต่างๆ ทั้งในแง่ของการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการบริหารจัดการ
นายแพทย์สันติ กล่าวในช่วงท้ายว่า “วันนี้เราได้ AIS เข้ามาทำงานร่วมกัน ตามแนวทางและเป้าหมายด้านการยกระดับมาตรฐานการแพทย์ระดับสากลด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่ง AIS สามารถส่งมอบบริการด้านดิจิทัล รวมถึงระบบการทำงานต่างๆ ที่ช่วยเสริมขีดความสามารถของทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาคุณภาพการบริการทางการแพทย์ ทำให้โรงพยาบาลวิมุตก้าวสู่ Smart Hospital ที่มีความสมบูรณ์แบบ และสามารถเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมด้านสุขภาพประเทศได้อย่างดี”
ที่มา: แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส