เอไอเอส ชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 700 MHz งวดที่ 2 เดินหน้าพัฒนา 5G เพื่อคนไทย กว้าง ไกล ยิ่งกว่า ตอกย้ำรายเดียวที่มีคลื่นความถี่ครบและมากที่สุด

นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ในฐานะผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) ผู้ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz ในมูลค่ารวม 17,154 ล้านบาท เป็นตัวแทนชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz งวดที่ 2 เป็นเงินจำนวน 1,835,478,000.00 บาท (หนึ่งพันแปดสามสิบห้าล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นแปดพันบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยมี นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป

นายศรัณย์ กล่าวว่า “AIS เป็นรายแรกที่ประกาศเปิดตัวการให้บริการ 5G หลังจากที่เราได้รับใบอนุญาตเพียงไม่กี่วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ จนถึงปัจจุบัน AIS 5G ให้บริการแล้วด้วยความครอบคลุมสูงสุดทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 90% ในเขตกรุงเทพฯ ครอบคลุม 100% ในพื้นที่ EEC เพื่อมอบประโยชน์ให้กับคนไทยและประเทศชาติ โดยเฉพาะคลื่น 700 MHz ที่ AIS มีความถี่มากที่สุดถึง 30 MHz และได้นำมาใช้ในการขยายบริการ 5G ไปในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้งสถานีฐานในปริมาณมากที่สุดด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ที่ตอบโจทย์การใช้ดาต้าในยุคที่ต้องเรียนหนังสือ หรือ ทำงานอยู่ที่บ้านได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์”

นอกจากนี้ในภาพรวมของการบริหารจัดการคลื่นความถี่นั้น ยังเดินหน้านำนวัตกรรมมายกระดับโครงข่ายด้วยเทคโนโลยีล่าสุดระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น mmWave ด้วยความเร็วถึงระดับ 4 กิกะบิทต่อวินาที และ 5G CA ครั้งแรกของโลก รวมถึง Voice over 5G New Radio (VoNR) ให้โทรชัดใสได้บนเครือข่าย 5G SA รายแรกในไทย รวมไปถึงประสบการณ์ใช้งานในด้านอื่นๆ ทั้งความครอบคลุม, ความเร็ว, การเชื่อมต่อกับ IoT Device ตลอดจนอัตราความหน่วง เพื่อรักษาคุณภาพที่เป็นเลิศอยู่ตลอดเวลา”

โดยนายศรัณย์ ย้ำว่า “นอกจากนี้ยังได้เตรียมวางงบประมาณกว่า 30,000 – 35,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง รองรับโอกาสและการเติบโตในแง่ของผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการมองภาพใหญ่ของประเทศที่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่แข็งแรง เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ใช้เป็นจุดแข็งของประเทศในการแข่งขันและดึงดูดนักลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ AIS มุ่งมั่นทำมาอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำ”

ที่มา: เอไอเอส