NVIDIA ประกาศความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติของประเทศไทย (สวทช.) โดยการดำเนินงานของศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (ThaiSC) ในการใช้พลังการประมวลผลของ NVIDIA A100 Tensor Core GPU สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวใหม่ที่มากถึง 704 ตัว ถือเป็นระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะประโยชน์ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำงานเร็วกว่าระบบ TARA ที่เป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ปัจจุบัน ถึง 30 เท่า โดยติดตั้งใช้งานในศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง สวทช. (ThaiSC – NSTDA Supercomputer Center) เพื่อการขับเคลื่อนงานวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์และข้อมูล จากทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ยังสนับสนุนโครงการวิจัยในด้านต่างๆ อาทิ งานด้านเภสัชกรรม งานด้านพลังงานหมุนเวียน และการพยากรณ์อากาศ ฯลฯ
NVIDIA A100 เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เพื่อผลักดันให้งานด้าน AI, การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) และงานที่ต้องใช้การประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) นับได้ว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เป็นตัวแทนที่ทรงพลังที่สุดที่จะช่วยพัฒนางานด้าน AI
สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง สวทช. จะช่วยพัฒนา ขยายขอบเขต และปรับปรุงรูปแบบการวิจัยในประเทศไทย ซึ่งเน้นที่การพัฒนาความก้าวหน้าที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลและอุตสาหกรรมในประเทศ” Dennis Ang ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กรสำหรับภูมิภาค SEA และ ANZ ของ NVIDIA กล่าว “NVIDIA A100 ได้รวมเอาส่วนประกอบต่างๆ ของฮาร์ดแวร์ เครือข่าย ซอฟต์แวร์ ไลบรารี โมเดล AI ที่ปรับให้เหมาะสม รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการพัฒนา AI และ HPC
“ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งคาดการว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2565 มีความสำคัญสำหรับประเทศไทยในแง่ของการพยากรณ์และการคาดการณ์ภัยพิบัติระดับชาติ” ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าว
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ประธาน สวทช. กล่าวเสริมว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับจุดยืนของประเทศไทยในด้าน HPC และเพิ่มศักยภาพด้านการวิจัยในอาเซียน
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่นี้จะช่วยให้นักวิจัยได้รับประโยชน์จากผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงและทำให้ความสามารถในการปรับใช้โซลูชันการผลิตในปริมาณมากมีทักษะเพิ่มสูงขึ้น
“เราเลือก NVIDIA A100 เพราะปัจจุบันเป็นโซลูชั่น ชั้นนำสำหรับ HPC-AI ในตลาด ที่สำคัญกว่านั้นคือแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ HPC-AI จำนวนมากได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากเทคโนโลยีของ NVIDIA ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” ดร.มนัสชัย คุณาเศรษฐ หัวหน้าทีมวิจัยศูนย์ทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (ThaiSC) สวทช. กล่าว
สำหรับผู้ใช้งานเดิมหรือกลุ่มลูกค้าเดิมของ ThaiSC สนใจและรอใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวใหม่อย่างมาก ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถขยายกรอบและเพิ่มแนวทางการพัฒนาโครงการวิจัยของตนได้ โดยคาดว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่นี้จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เพื่อแร่งผลักดันงานด้านด้านการแพทย์ ด้านพลังงาน สภาพอากาศ การพยากรณ์และอื่นๆ ด้วยความสามารถในการสร้างแบบจำลอง การจำลอง AI และการวิเคราะห์ประมวลผลขั้นสูง
ดร.ขวัญชีวา แตงไทย จากทีม Speech and Text Understanding แห่งศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) คาดว่าจะได้รับประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากในงานวิจัยการรู้จำเสียงพูด โดยได้กล่าวว่า “เราสามารถแข่งขันได้และให้บริการแปลงคำพูดเป็นข้อความภาษาไทยฟรีสำหรับทุกคนผ่าน AIForThai”
ในประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 สวทช. จะเป็นองค์กรแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งระบบ NVIDIA DGX(TM) A100 พร้อมเครือข่าย NVIDIA Quantum InfiniBand และเป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ลำดับ NVIDIA Clara(TM) Parabricks(R) ซึ่งช่วยให้ธนาคารชีวภาพแห่งชาติของประเทศไทยสามารถเร่งความเร็วได้ ความพยายามในการจัดลำดับจีโนม รวมถึงการศึกษาจีโนมเพื่อต่อสู้กับโควิด-19
ผศ. ดร.ธัญญดา รุ่งโรจน์มงคล จากหน่วยวิจัยโครงสร้างและชีววิทยาเชิงคำนวณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว NVIDIA GPU เป็นแกนหลักของแพลตฟอร์มการจำลองเชิงโมเลกุลของโดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสามารถในการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่ออธิบายพฤติกรรมของการจับโปรตีนลิแกนด์นอกจากนี้ พลัง GPU ของ NVIDIA ยังเร่งการวิจัยเพื่อค้นหาสารยับยั้งการต่อต้านไวรัสโคโรน่าอีกด้วย
ที่มา: สวทช.