หัวเว่ยร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนและยกระดับการศึกษาและวิจัย เพื่อการพัฒนามหาวิทยาลัยสร้างสรรค์ด้วยดิจิทัล (Digital Creative University) ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ขับเคลื่อนและพัฒนามหาวิทยาลัย
นายวิลเลี่ยม จาง ประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในทุกๆด้าน และยังมีแนวโน้มที่จะมีพัฒนาการด้านความอัจฉริยะมากขึ้นทั้งการเรียน การสอน การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนถึงการจัดการระบบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในฐานะผู้ให้บริการด้าน ICT ชั้นนำ หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะนำเครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะ ศูนย์ข้อมูล การประมวลผลคลาวด์ ห้องเรียนอัจฉริยะ และเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้ในการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมในการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา เร่งให้เกิดนวัตกรรมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนถึงสนับสนุนความมุ่งมั่นในการศึกษา วิจัย และการพัฒนานวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น การประมวลผลเชิงวัฒนธรรม
โดยภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้หัวเว่ยจะได้ร่วมสนับสนุนทั้งเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ตลอดจนการร่วมสร้างบุคลากรในการออกแบบและจัดทำแผนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมนักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยให้เข้าถึงระบบดิจิทัลที่กำลังจะเกิดขึ้น และการพัฒนาระบบประมวลผลเชิงวัฒนธรรมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม การสร้างสรรค์ และดิจิทัล และการสร้างห้องเรียนต้นแบบสำหรับการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมเชิงสร้างสรรรค์
“เรากำลังสร้างแบบจำลองทางการศึกษาที่สมดุลระหว่างความสามารถทางเทคโนโลยีกับความคิดสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และการออกแบบที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการผสมผสานทักษะที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ผมขอขอบคุณมหาวิทยาลัยศิลปากรสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เราจะร่วมกันสร้างระบบนิเวศสำหรับบุคลากรที่สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ของเรา” นายจางกล่าว
ศาสตราจารย์ ดร. ธนะเศรษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร เผยว่า เป้าหมายของมหาวิทยาลัยคือ ต้องการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งมหาวิทยาลัยจำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศทางปัญญาที่ผสานศิลปะ มนุษยศาสตร์ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว คาดหวังที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เชื่อมโยงทุกคณะวิชาและวิทยาเขตต่างๆ ทำให้การเรียนรู้ได้อย่างไร้ขอบเขต รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เกิดการประมวลผลทางวัฒนธรรมเพื่อนำนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ให้เกิดมูลค่าทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้กับการเรียนการสอนด้านสุขภาพ รวมไปถึงโอกาสในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาให้ตอบโจทย์ความต้องการแรงงานในศตวรรษที่ 21
“ความร่วมมือกับหัวเว่ยในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยความเป็นผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์ด้วยดิจิทัล ที่เราหวังจะให้เป็นต้นแบบของการศึกษาต่อไปในอนาคต ซึ่งเราจะยกระดับเพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังของบิ้กดาต้า, เอไอ , คลาวด์ คอมพิวติ้ง และนวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้าและเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันให้เราสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
ในโอกาสนี้หัวเว่ยยังได้จัดเวทีเสวนา “ขับเคลื่อนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์: บทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลและความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัย” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเป็นแนวทางสำคัญสำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษา อุตสาหกรรม และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีโดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ประสพชัย พัฒน์โรจนโสภณ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยศิลปากร และศาสตราจารย์ ดร. ภก.พรศักดิ์ ศรีอมรศักดิ์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้ร่วมเสวนา
พร้อมกันนี้ มหาวิทยาลัยศิลปากรยังได้เปิดหลักสูตรสุขภาพดิจิทัล ระดับปริญญาตรีแห่งแรกในไทย เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยุคใหม่ ซึ่งเกิดจากแนวคิดในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนาบุคลากรที่สามารถนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับระบบสาธารณสุขและบริการทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ “เราได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะความร่วมมือกับสำนักสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข และหัวเว่ย ในการมุ่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านสุขภาพดิจิทัลและสร้างโอกาสการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย และนักศึกษายังจะมีโอกาสในการฝึกงานกับองค์กรชั้นนำ และการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจริงด้วย” ศาสตราจารย์ ดร. ภก.พรศักดิ์ กล่าว
