บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้ให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Service : GDCC) ร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น AWS, HUAWEI, Alibaba Cloud, INET และ Cloud HM เป็นต้น ขยายบริการ GDCC รองรับระบบงานภาครัฐที่จัดเก็บข้อมูลสาธารณะทั่วไป บริหารจัดการโดย Cloud Management Platform (CMP) ช่วยให้หน่วยงานรัฐสามารถเลือกใช้บริการคลาวด์ที่เหมาะสมตามความต้องการและชั้นความลับของข้อมูล โดยปัจจุบัน GDCC ได้ให้บริการกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Institute: BDI) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีด้านการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศูนย์รวมข้อมูลกลางเพื่อสร้างชาติที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของ BDI คืออยากมีส่วนร่วมช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยที่ข้อมูลจะเป็นหัวใจสำคัญของการกำหนดนโยบาย การวางแผน และการพัฒนาองค์กร ในฐานะศูนย์กลางข้อมูลสำหรับภาครัฐ BDI ทำหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และผสานข้อมูลเพื่อให้เกิดข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ตัดสินใจในหลากหลายภาคส่วน เป้าหมายคือการช่วยให้ประเทศไทยสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว ในปัจจุบันการดำเนินงานของ BDI แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนงานด้านเทคนิค BDI ให้บริการด้าน Data Integration และ Analytic Services แก่ลูกค้าภาครัฐในทุกระดับ ตั้งแต่หน่วยงานท้องถิ่นไปจนถึงส่วนกลาง โดยมีการทำงานร่วมกับเอกชนบางส่วน ซึ่งงานในส่วนนี้เน้นไปที่การรวบรวมและบูรณาการข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในภาคเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI, Generative AI, Data Science และ Data Mining เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สามารถตอบโจทย์เชิงนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพส่วนงานด้านธุรกิจ BDI ยังขยายการให้บริการไปยังกลุ่ม SME และภาคเอกชน โดยการจัดฝึกอบรมที่มุ่งเน้นการ Upskill และ Reskill ผ่านหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะและความเข้าใจในเทคโนโลยีดาต้าสำหรับภาคธุรกิจ
การนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญ
เทคโนโลยีคลาวด์ถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ของ BDI ด้วยการตระหนักถึงข้อดีของการประมวลผลแบบคลาวด์ เช่น ความยืดหยุ่น ความคุ้มค่า และความพร้อมใช้งาน BDI ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำหลายราย ในขณะที่ NT มีบทบาทสำคัญในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการคลาวด์กับ BDI
รศ.ดร.ธีรณี กล่าวเพิ่มเติมว่า “BDI เชื่อมั่นว่า “Cloud First Policy” จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้สนับสนุนการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การผลักดันนโยบายดังกล่าวจำเป็นต้องมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้และทักษะที่เหมาะสมเพื่อรองรับทิศทางนี้ ด้วยเหตุนี้ BDI จึงได้พัฒนาหลักสูตรการเพิ่มทักษะ (Upskilling) และปรับทักษะใหม่ (Reskilling) สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐและบุคลากรในภาคเอกชน รวมถึงคอร์สอบรมที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรม เพื่อให้บุคลากรทุกระดับสามารถเข้าใจและใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล”
การสร้างระบบดิจิทัลที่ยั่งยืน
ในอนาคต BDI ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างระบบดิจิทัลที่ยั่งยืนโดยการร่วมมือกับ NT ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ สถาบันการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี BDI มั่นใจว่าประเทศไทยจะยังคงอยู่ในแนวหน้าของนวัตกรรมดิจิทัล
ด้วยความมุ่งมั่นในความร่วมมือ การพัฒนาทักษะ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของประเทศไทย แต่ยังวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอีกด้วย
