เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม โดย SCB EIC รายงานว่าเทรนด์ AI ในอนาคตจะมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโต้กับโลกกายภาพได้มากขึ้น ทั้งยานยนต์ไร้คนขับ Digital Twin และ Avatar AI โดย Statista คาดการณ์ว่าตลาด AI จะเติบโตเฉลี่ย 27.6% ต่อปีในช่วงปี 2025-2030 คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 8.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030
กลุ่มธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตของ AI ประกอบด้วย ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ และธุรกิจ AI applications โดยตลาดซอฟต์แวร์ AI มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 19% ต่อปีในช่วงปี 2023-2027 ขณะที่ยอดขายชิป ASIC โลกคาดว่าจะเติบโต 42% ต่อปีในช่วงปี 2023-2028
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเทคโนโลยี AI ยังเผชิญความท้าทายจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการผูกขาดทางการค้า โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน และการผูกขาดตลาดโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง NVIDIA และ Google
สำหรับประเทศไทย SCB EIC ประเมินว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้ใน 2 ด้าน คือ ด้านการส่งออกชิปและคอมพิวเตอร์ไปยังสหรัฐฯ และด้านการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรม E&E และ Data center แต่ไทยยังมีความท้าทายสำคัญ ได้แก่ การขาดความพร้อมของห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง การขาดการวิจัยและพัฒนา และการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัล
เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาในหลายด้าน ทั้งการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง การพัฒนาทักษะแรงงาน การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน