NIA ร่วมมือ CCC Academy และเครือข่ายพันธมิตร เปิดเวทีโชว์ 6 ผลงานส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัล ตอบโจทย์ภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์ ในกิจกรรม City Connect Day ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมมือกับ CCC Academy และเครือข่ายพันธมิตร จัดกิจกรรม City Connect Day และกิจกรรมสร้างเครือข่าย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการเร่งสร้างผู้เชี่ยวชาญเอกชน เพื่องานปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ และไอโอที (AI, Robotics and IoT Corporate Coaching program หรือ ACC program) จำนวน 60 คน นำเสนอผลงานจากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการในทักษะขั้นสูงตลอด 6 สัปดาห์ โดยเป็นการต่อยอดนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาแก้ไขโจทย์ปัญหาในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป ทั้งนี้ ยังมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในกิจกรรม Demo Day อีกด้วย โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม Fit Check เจ้าของผลงานระบบกระตุ้นให้คนออกกำลังกายสม่ำเสมอ ภายใต้คอนเซปต์ AI Fitness to Motivate Your Life โดยคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับรูปแบบและเทคนิคการออกกำลังกายที่เหมาะสม

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า “ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะพลิกโฉมเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และสังคมอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตัวเทคโนโลยีเองได้พิสูจน์ให้เห็นถึงขีดความสามารถที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด การมาถึงของยุค AI จึงนับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องเผชิญ และควรเตรียมความพร้อมในการปรับตัวให้เท่าทันต่อวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง ดังนั้น NIA ในฐานะ “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor)” จึงให้ความสำคัญกับการนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะและความสามารถของกำลังคนที่ครอบคลุมทุกระดับ ซึ่งได้ร่วมกับ CCC Academy เปิด “โปรแกรมเร่งสร้างผู้เชี่ยวชาญเอกชน เพื่องานปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ และไอโอที (AI, Robotics and IoT Corporate Coaching program หรือ ACC program)” ซึ่งเป็นหลักสูตรส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัล ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ให้แก่ระบบนิเวศนวัตกรรมสาขาเทคโนโลยีดิจิทัลแข็งแกร่ง ส่งผลต่อธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยให้ความสำคัญกับการนำ AI ประยุกต์ใช้ในภาคส่วนเทคโนโลยีดิจิทัล, IoT, และบล็อกเชนอย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุด โดยคาดหวังที่จะเพิ่มจำนวนกำลังคนทางด้านดิจิทัลให้เป็นผู้เชี่ยวชาญพร้อมได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมตามนโยบายของกระทรวง อว. และรัฐบาล”

ดร. นที เทพโภชน์ ประธาน CCC Academy กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะด้านการค้าปลีก การแพทย์ การเกษตร การศึกษา และอุตสาหกรรมอาหาร โดยคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความท้าทายในการนำ AI ไปใช้ในภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูล ความเป็นส่วนตัว รวมถึงข้อกำหนดทางกฎหมายที่ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอสำหรับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้งาน AI จึงนับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจในการปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี และสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อความรู้เท่าทัน AI และเลือกใช้อย่างเหมาะสม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับมืออาชีพ ผู้ประกอบการ และธุรกิจต่าง ๆ โดยร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรในการนำพลังการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรัฐบาลที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยคาดว่าจะสามารถช่วยยกระดับการเติบโตของเศรษฐกิจ ตอบโจทย์มิติของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”

“โปรแกรมเร่งสร้างผู้เชี่ยวชาญเอกชน เพื่องานปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ และไอโอที (AI, Robotics and IoT Corporate Coaching program หรือ ACC program)”

หลักสูตรเร่งสร้าง Tech Talent ด้าน Ai Blockchain IOT เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร การศึกษา การแพทย์สุขภาพ และอีคอมเมิร์ซ ที่ NIA ทำงานร่วมกับ CCC Academy และเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งพัฒนาทักษะบุคลากร เสริมสร้างศักยภาพให้กับมืออาชีพ ผู้ประกอบการ และธุรกิจต่าง ๆ นำพลังการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งสร้างความโปร่งใสในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภาคส่วนเทคโนโลยีดิจิทัล ไอโอที และบล็อกเชนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใน 6 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม 2567 แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการอบรมเชิงปฏิบัติการในทักษะขั้นสูง และช่วงการนำองค์ความรู้ที่ได้รับนั้นแก้ไขโจทย์ปัญหาในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ทั้งนี้โปรแกรมฯ เป็นหลักสูตรที่เปิดกว้างสำหรับผู้มีประสบการณ์ในสายงานเทคโนโลยีอย่างน้อย 1 ปี ตำแหน่ง Developers, Programmers, UX/UI Designer, Software Engineer, Cloud & Infrastructure, Machine Learning Engineer ฯลฯ โดยมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมอบรมจำนวน 188 คน และผ่านการคัดเลือก จำนวน 60 คน โดยโปรแกรมนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำที่จะเข้ามาเป็นวิทยากรและที่ปรึกษา (Mentor) ได้แก่ คุณโกวินทร์ กุลฤชากร CIO เซ็นทรัล เทค เซ็นทรัล กรุ๊ป ดร. ธรรมธีร์ สุกโชติรัตน์ รองประธานอนุกรรมาธิการเศรษฐกิจเอไอในกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร คุณสถาพน พัฒนะคูหา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท การ์เดียน เอไอ แลบ จำกัด คุณแซม ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง The Capital T Consulting รวมถึงกลุ่มสมาคมดิจิทัลกว่า 13 สมาคม ที่ช่วยสนับสนุนในด้านต่างๆ โดยมีความตั้งใจในการพัฒนาระบบนวัตกรรมที่จะรองรับการเติบโต เพื่อส่งเสริมให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรมของภาคธุรกิจ รวมถึงองค์ความรู้ที่นำมาแบ่งปันแก่ผู้ร่วมหลักสูตร หลังจบหลักสูตรจะมีกิจกรรม Public Demo Day และกิจกรรมสร้างเครือข่าย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการนำเสนอผลงาน สิ่งที่ได้เรียนรู้พัฒนา ต่อยอด จนปรากฎเป็นผลงานที่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมมุ่งเป้าได้จริง และสามารถสร้างรายได้แก่ภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์

สำหรับผลงานของผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการในทักษะขั้นสูง ทั้ง 60 คน แบ่งได้ดังนี้

  1. ทีม IntelliGrade – ระบบตรวจข้อสอบอัตนัยแบบมีความซับซ้อนและไม่มีรูปแบบตายตัว ช่วยลดขั้นตอนการทำงานและภาระการตรวจข้อสอบที่มากเกินไปต่อการสอบ 1 ครั้ง
  2. ทีม AI สลัด (เอ้ย) – เทคโนโลยีอัจฉริยะสนับสนุนการการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรรายย่อยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ สามารถให้ข้อมูลเชิงลึก และคำแนะนำเฉพาะทางได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ สร้างสรรค์อนาคตเกษตรกรรมไทยอย่างยั่งยืน
  3. ทีม Health Mate – Web Application คำนวณแคลอรี พร้อมแนะนำเมนูอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ สามารถสลับเมนูได้โดย Generate Diet Plan ให้เป็นไปตามเป้าหมายการลดน้ำหนัก (Weight Goal) ได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ แบบไม่จำเจ
  4. ทีม Fit Check – ระบบกระตุ้นให้คนออกกำลังกายสม่ำเสมอ ภายใต้คอนเซปต์ AI Fitness to Motivate Your Life โดยคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับรูปแบบและเทคนิคการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ สามารถเลือกเทรนเนอร์ได้ตรงตามความตั้งใจของตัวเอง
  5. ทีม AI-Foodie – การดำเนินงานร้านอาหารด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อยกระดับสถานประกอบการ โดยตัวแทน AI ช่วยบริหารการจัดการงานในครัวอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ด้วยระยะเวลาการรอคอยที่สั้นลง
  6. ทีม SYNCRATIC – Live Speech AI ที่ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการรายได้จาก Live Commerce ไม่ว่าจะ Seller หรือ KOLs ให้สามารถนำเสนอสินค้าผ่าน Live Streaming ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ชมและลูกค้าเก่า สร้างโอกาสลูกค้าในการซื้อสินค้าซ้ำ และให้ผู้ชมกลายเป็นลูกค้าใหม่

สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม Fit Check ส่วนทีม Health Mate ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 และทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 คือทีม Intelligrade นอกจากนี้คณะกรรมหลักสูตร ACC program ยังมีการมอบรางวัลนักเรียนดีเด่น 3 รางวัล ให้แก่ ทีม AI สลัด (เอ้ย) ทีม AI-Foodie และ ทีม SYNCRATIC ทั้งนี้ผู้ผ่านการอบรมทั้ง 60 คน จะได้รับใบประกาศนียบัตรจาก NIA รวมทั้งได้รับโอกาสการสนับสนุนด้านเงินทุนจากภาครัฐฯและเอกชน และคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ และเข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายกับเครือข่ายนักลงทุนและบุคลากรในอุตสาหกรรมรวมถึงคอมมูนิตี้ของ Tech Talent ต่อไป