ไม่ทันไรฤดูหนาวก็วนกลับมาอีกครั้ง แน่นอนว่าสำหรับประเทศที่อากาศร้อนแทบจะทั้งปีอย่างประเทศไทย คนส่วนใหญ่ย่อมดีใจเมื่อถึงเวลาที่อุณหภูมิจะเย็นลงให้รู้สึกเย็นกายเย็นใจขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วอุณหภูมิอาจไม่เย็นอย่างที่หลายคนคาดหวัง (หรือบางครั้งก็ยังร้อนจนอยากถามว่าตกลงจะหนาวกี่โมง) แต่สำหรับคนบางกลุ่มในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในบริเวณภาคเหนือที่มักเจอกับความหนาวเย็นรุนแรงกว่าพื้นที่อื่น ฤดูหนาวอาจหมายถึงความหนาวเหน็บที่มากเกินทน และไม่ใช่ฤดูแห่งความสุขเหมือนกับคนอื่นๆ
เพื่อส่งต่อความอบอุ่นให้ฤดูหนาวเป็นฤดูที่ยังยิ้มได้สำหรับผู้ขาดแคลนเสื้อกันหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ แอลจีจึงจัดแคมเปญอบอุ่นๆ อย่าง “And You Will No Longer Be Cold #แล้วคุณจะไม่หนาวอีกต่อไป” ชวนกันมาบริจาคเสื้อกันหนาวสภาพดี พร้อมทำความสะอาดทั้งซักและอบผ้าด้วยบริการจากร้านสะดวกซัก LG Laundry Crew ให้ ก่อนนำเสื้อกันหนาวไปส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ยากไร้ในพื้นที่ภาคเหนือผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิกระจกเงา โดยตั้งเป้าส่งต่อความอบอุ่นผ่านเสื้อกันหนาวจำนวน 1,000 ตัวในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมชวนให้ผู้บริจาคเขียนข้อความอบอุ่นหัวใจส่งต่อพลังบวกให้กับผู้ที่จะได้รับเสื้อกันหนาวตัวใหม่ ไม่เพียงเท่านี้ ความพิเศษอีกอย่างของแคมเปญนี้คือการจัดงานนิทรรศการศิลปะ LG x STUPIDNOOBMACC “And You Will No Longer Be Cold #แล้วคุณจะไม่หนาวอีกต่อไป” ที่แอลจีชวน ‘STUPIDNOOBMACC’ ศิลปินเจ้าของคาแรกเตอร์แนวสตรีทอย่าง BABYBOY มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อสื่อถึงการส่งต่อความอบอุ่น และเชิญชวนมาเข้าร่วมแคมเปญบริจาคเสื้อกันหนาวในแบบที่สนุกและมีสีสันมากยิ่งขึ้น
แม็ก-อัศนัย อลันคีรี หรือ STUPIDNOOBMACC เล่าถึงการร่วมงานในแคมเปญนี้ว่า “สำหรับเรา ศิลปะเป็นเครื่องมือที่มีพลังในการนำมาเป็นสื่อกลางในการชวนคนมาทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน เพราะศิลปะมีความดึงดูดบางอย่าง เหมือนเวลาที่เราเห็นภาพสวยๆ เราก็จะรู้สึกอยากเข้าไปดู อาจจะด้วยดีไซน์และสีสันที่ทำให้คนที่เห็นรู้สึกหลงใหล ชวนให้คนมาสนใจหรือเข้ามาดู ดังนั้น พอแอลจีชวนมาทำโปรเจกต์ร่วมกัน จึงยินดีมากๆ และหวังว่างานของเราน่าจะช่วยส่งต่อความอบอุ่นให้กับคนที่ต้องการมันจริงๆ ได้ ทั้งคนที่กำลังรอรับความอุ่นจากเสื้อกันหนาวอยู่ที่ภาคเหนือ และคนที่มาร่วมบริจาคเสื้อกันหนาวและดูงานที่นิทรรศการนี้ หวังว่าพวกเขาจะได้รับความอบอุ่นใจจากการให้กลับไปเช่นกัน”
สำหรับนิทรรศการ LG x STUPIDNOOBMACC “And You Will No Longer Be Cold #แล้วคุณจะไม่หนาวอีกต่อไป” ประกอบด้วยผลงานภาพวาดสีอะคริลิกจำนวน 7 ภาพ และยังมีโมเดล Sculpture คาแรกเตอร์ BABYBOY HOME มาตั้งโชว์ภายในงานอีกด้วย
“ที่เลือกตัว BABYBOY HOME มาตั้งแสดงในงานนี้ เพราะคาแรกเตอร์นี้สื่อถึงการเป็นคนรักครอบครัวและความอบอุ่น เราตั้งชื่อคาแรกเตอร์นี้ว่า BABYBOY HOME เพราะอยากให้มันเป็นจุดเริ่มต้นของ BABYBOY ที่จะเปิดรับทุกคนให้มาอยู่ใน ‘บ้าน’ หลังนี้ได้อย่างมีความสุข เราอยากให้นิทรรศการนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นในการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กันและกัน โดยเฉพาะภาพวาด เราออกแบบจากโจทย์ของแคมเปญ “And You Will No Longer Be Cold #แล้วคุณจะไม่หนาวอีกต่อไป” ของทางแอลจี เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนมาบริจาคเสื้อกันหนาว เราจึงอยากสร้างให้คาแรกเตอร์แต่ละตัวมีมูฟเมนต์ที่ดึงดูดและเข้าถึงความรู้สึกของผู้รับและผู้ให้ โดยดึงสีแดง เทา ขาว ดำ ซึ่งเป็นสีของแอลจีมาใช้เป็นหลัก ผสมด้วยสีอื่นๆ เข้าไปอีกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความสนุกและสดใส โดยชิ้นงานไฮไลต์ของนิทรรศการนี้คือรูป BABYBOY กำลังถือกล่องพัสดุ And You Will No Longer Be Cold ที่ภายในมีตุ๊กตาหมีกำลังถือผ้าพันคอกับถุงเท้า ทำท่าดีใจที่จะได้นำเสื้อผ้าเหล่านี้ไปส่งมอบให้กับคนที่กำลังรอรับอยู่ เราใช้หมีสีชมพูที่ดูสดใสตัวนี้เป็นตัวแทนความสุขของการแบ่งปัน ก็หวังว่าคนที่มาดูจะได้รับความรู้สึกนี้ และชอบผลงานนี้นะครับ” แม็ก-อัศนัย กล่าวทิ้งท้าย
นิทรรศการ LG x STUPIDNOOBMACC “And You Will No Longer Be Cold #แล้วคุณจะไม่หนาวอีกต่อไป” จัดแสดงอยู่ที่บริเวณชั้น G อาคาร Tower 4 โครงการ One Bangkok ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 และสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถนำเสื้อกันหนาวสภาพดีมาบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2567 ณ จุดให้บริการกล่องรับบริจาคของแอลจีได้ดังนี้
- อาคาร One Bangkok 3 จุด ได้แก่ อาคาร One Bangkok Tower 4 ชั้น G ห้าง Parade และ The Storeys
- อาคาร The PARQ บริเวณชั้น G
- ร้านสะดวกซัก LG Laundry Crew 2 สาขา ได้แก่ สาขารามคำแหงซอย 8 และสาขาปทุมธานี คลอง 3
- ร้าน LG Subscribe 2 สาขา ได้แก่ สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ชั้น 3 และสาขาซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น B1
- มูลนิธิกระจกเงา
แคมเปญ “And You Will No Longer Be Cold #แล้วคุณจะไม่หนาวอีกต่อไป” เป็นแคมเปญต่อยอดจากโครงการ LG Eco Day ที่เริ่มต้นเมื่อปี 2566 โดยแอลจีตั้งใจจะจัดกิจกรรมนี้ขึ้นทุกปีภายใต้ธีมที่แตกต่างกัน โดยมีเป้าหมายหลักคือการร่วมจุดประกายเรื่องความยั่งยืนในสังคม โดยใช้นวัตกรรมของแอลจีเป็นตัวช่วยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ตามสโลแกน “Life’s Good.” ของแอลจี