COM7 ว้าว! กระแส iPhone 16 ซีรีส์ ยอดจองแรงไม่แผ่ว รับเทรนด์ Apple Intelligence แถมปีนี้ขายเร็วกว่าเดิม

COM7 ยิ้มรับการเปิดตัวของ iPhone 16 ซีรีส์ ขายวันแรก ลูกค้าต่อคิวจับจองเป็นเจ้าของล้น กระแสตอบรับดีตั้งแต่เปิดจองเมื่อวันที่ 13 – 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำสถิติร้อนแรงไม่แพ้รุ่นก่อน เปิดโผ iPhone 16 Pro Max ความจุ 256 GB และ 512 GB สีไทเทเนียมทะเลทราย (Desert Titanium) กวาดคะแนนยอดนิยมสูงสุด พร้อมกับฟีเจอร์ Apple Intelligence รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุค AI และอานิสงส์ไทย Tier 1 ขาย iPhone 16 ในปีนี้เร็วขึ้นกว่าปีก่อน 2 วัน ในด้านราคาที่ปรับลดลงจากรุ่นก่อนเฉลี่ย 1,000 – 4,000 บาท สนับสนุนการตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น พร้อมบริการ Trade In+ นำสินค้าเครื่องเก่ามาแลกรับส่วนลด เพื่อเป็น iPhone 16 ที่ Studio7 และ BaNANA รวมทั้ง สาขาในเครือ ทั่วประเทศ พร้อมอวดโฉม Studio7 สาขา EmQuartier ยกระดับเป็น Apple Premium Partner (APP) ที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia

นางสาวแก้วเจียระไน เขมาสิทธิ์ ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้า Apple บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยถึง ผลตอบรับของ iPhone 16 , iPhone 16 Plus , iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ที่วางจำหน่ายวันแรก ลูกค้าต่อคิวจับจองเป็นเจ้าของล้นหลาม ภายหลังจากเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 13 – 19 กันยายน 67 ที่ผ่านมา iPhone 16 ซีรีส์ ยังคงสร้างปรากฏการณ์ที่ดีต่อเนื่อง ลูกค้าให้การตอบรับ มียอดจองซื้อเข้ามาดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยเฉพาะ iPhone 16 Pro Max ความจุ 256 GB และ 512 GB สีไทเทเนียมทะเลทราย (Desert Titanium) ได้รับความนิยมสูงสุด และถูกจองหมดอย่างรวดเร็ว

นับเป็นการยกระดับ iPhone ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Apple Intelligence รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ สร้างความตื่นเต้นให้สาวก Apple กันไม่น้อย เพราะมีหลายฟีเจอร์ที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ให้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูง และการปรับความสามารถของ Siri ให้มีความธรรมชาติ เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งาน ควบคู่กับ ChatGPT ซึ่งจะใช้งานได้ตั้งแต่ iPhone 15 Pro ขึ้นไป บนระบบปฏิบัติการ iOS 18 และมองว่า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลตอบรับ iPhone 16 ซีรีส์ ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก

นอกจากนี้ ในปี 67 นับเป็นอีกปีที่ดี ในฐานะประเทศไทยเป็นประเทศกลุ่มแรก (Tier 1) ที่จำหน่าย iPhone ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม พร้อมสำหรับการวางจำหน่ายวันแรก ในวันที่ 20 กันยายน 67 เร็วกว่าปีก่อน 2 วัน ในราคาที่ปรับเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น และได้กลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น ซึ่งราคาปรับลดลงจากรุ่นก่อนหน้าราว 1,000 – 4,000 บาท โดย iPhone 16 ความจุ 128 GB ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท ไปจนถึง iPhone 16 Pro Max ความจุ 1 TB ราคาเริ่มต้นที่ 64,900 บาท

“สำหรับการจัดกิจกรรมรับเครื่อง iPhone 16 ซีรีส์ ในวันแรก ที่ร้าน Studio7 ชั้น 2 อาคาร A ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ (EmQuartier) เปิดให้ลูกค้าเข้ามารับสินค้าตั้งแต่ 8.00 น. มีลูกค้าต่อคิวรอรับเครื่องด้วยบรรยากาศคึกคัก นอกจากนี้ Studio7 สาขา EmQuartier ได้อวดโฉมใหม่เป็น Apple Premium Partner (APP) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและ South East Asia ความพิเศษของสาขานี้ก็คือ มีสินค้า Apple ครบครัน ทั้ง iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Gadget & Accessories มีพื้นที่ขนาดใหญ่ รองรับการจัด Workshop และกิจกรรมที่เสริมสร้างประสบการณ์การใช้สินค้า Apple ให้ดีขึ้น ตอกย้ำ COM7 ที่เล็งเห็นประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค และเป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่สุดของ Apple ในประเทศไทย” นางสาวแก้วเจียระไน กล่าว

อย่างไรก็ดี ในด้านการบริการที่ครบวงจรของ COM7 บริษัทได้พัฒนาแคมเปญ “เทรดอิน พลัส (Trade-in Plus)” นำเครื่องเก่ามาแลกรับส่วนลดเครื่องใหม่ ที่ร้าน Studio 7 และ BaNANA รวมทั้งสาขาภายใต้การบริหารทั่วประเทศไทย ให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น โดยมีโปรแกรมมาช่วยวิเคราะห์เพิ่มความแม่นยำ และชาญฉลาด ทำให้ลูกค้าได้ราคาที่ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีบริการด้านไฟแนนซ์และโปรแกรมสินเชื่อบัตรเครดิตที่ร่วมรายการผ่อน 0% นานสูงสุด 36 เดือน และสินเชื่อ UFund จาก COM7 เป็นทางเลือกให้ลูกค้าในการตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ได้ง่ายกว่าเดิม

อีกทั้ง ในโลกเทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยระบบที่เป็นเอกลักษณ์ มี Ecosystem สินค้าครอบคลุมการใช้งานแบบไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการเปิดตัว iPhone 16 รุ่นเรือธงของ Apple ปีนี้ มาพร้อมกับ Apple Watch Series 10 ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดจด หน้าจอใหญ่ขึ้น ขอบบางลง และ Apple Watch Ultra 2 ยกระดับความทนทาน รวมถึง AirPods 4 , AirPods Max และ AirPods Pro 2 มาพร้อมกับประสบการณ์เสียงและการอัปเกรดซอฟต์แวร์ที่ดียิ่งขึ้น ในสีสันใหม่ จะสนับสนุนให้ในโค้งสุดท้ายของปีนี้คึกคัก นอกจากนี้ ยังทำให้กลุ่มสินค้า Accessory ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเช่นกัน

ทั้งนี้ ณ สิ้นมิถุนายน 2567 COM7 มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า Apple กระจายอยู่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย Studio7 ที่มี 133 สาขา นอกจากนี้ ยังจำหน่ายผ่านร้าน BaNANA , BKK , KingKong Phone และ True Shop by COM7 จากสาขาทั้งหมดภายใต้การบริหารของ COM7 ในครึ่งปีแรกมีจำนวน 1,382 สาขา พร้อมกับแพลตฟอร์ม Studio7thailand.com และ BNN.in.th สะท้อนการมีช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และเชื่อมต่อธุรกิจ O2O (Online to Offline) โดยสามารถช้อปออนไลน์รับสินค้าที่ร้านได้ใน 1 ชั่วโมง และบริการส่งฟรีทั่วประเทศ