ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกวงการ รวมถึงวงการสาธารณสุข เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการทางการแพทย์รายใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเครือโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหัวข้อ AI-Driven Innovation for Longevity ในงาน TMA Digital Dialogue 2024 OPEN-TEC โดยศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech Knowledge Sharing Platform) ภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากเวทีดังกล่าวได้เปิดเผยถึงการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning (ML) ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างนวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับศักยภาพการให้บริการในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม องค์กรตระหนักดีว่าการใช้งานนวัตกรรมเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนา User Adoption ทั้งในส่วนของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการ เพื่อให้เกิดการยอมรับและใช้งานเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้งาน AI ในธุรกิจการแพทย์:
- ใช้ร่วมกับ IoT ในเครื่องมือแพทย์มานานกว่า 20 ปี
- ช่วยในการวางแผนการรักษา การวิจัย และการฝึกอบรมบุคลากร
- เพิ่มความแม่นยำและลดเวลาในการวินิจฉัยของแพทย์
- นำไปสู่การรักษาและดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine)
พัฒนาการของ AI ทางการแพทย์:
- เริ่มจาก Machine Learning สู่ Generative AI
- ตัวอย่างเช่น Healthcare API สำหรับตรวจโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา
- ใช้ Large Language Models (LLMs) เพื่อวิเคราะห์และสรุปข้อมูลทางการแพทย์
ความท้าทายและข้อควรระวัง:
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
- การใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ไม่พึ่งพา AI เพียงอย่างเดียว
- ความเสี่ยงด้านจริยธรรมในการใช้งาน
บทบาทของ AI ในอนาคต:
- AI จะเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกับมนุษย์ ไม่ใช่การแทนที่
- เน้นแนวคิด AI / Human-in-the-loop
ผลกระทบต่อการศึกษาและการพัฒนาบุคลากร:
- ความสำคัญของทักษะการใช้ AI และ Prompt Engineering
- สถาบันการศึกษาต้องปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
- การใช้ AI ในการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้
การเตรียมพร้อมสำหรับตลาดแรงงานในอนาคต:
- องค์กรจะต้องการบุคลากรที่มีทักษะการใช้ AI อย่างชำนาญ
- เน้นการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ทั้งด้านมูลค่า ปริมาณ