รินไน พัฒนานวัตกรรมสุดเจ๋ง นำเทคโนโลยี พลาสม่า ใส่เครื่องดูดควัน จับได้ทั้งกลิ่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัสและฝุ่น PM2.5 พร้อมตอกย้ำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย Si Sensor ในเตาแก๊ส คาดยอดขายปีนี้ 1,000 ล้านบาท
นายไทจิ อุเมมูระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำร้อน เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม กล่าวถึงภาพรวมและการเติบโตของตลาดเครื่องใช้ภายในบ้านของไทยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงสถานการณ์โควิด19 สินค้ากลุ่มนี้มีการเติบโตสูง จากความจำเป็นที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ทำงานที่บ้าน รับประทานอาหารและประกอบอาหารที่บ้าน คนส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เครื่องใช้เพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งดูแล ซ่อมแซม เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของรินไน โดยเฉพาะกลุ่มเตาแก๊สและเครื่องทำน้ำอุ่น ก็ได้รับปัจจัยบวกดังกล่าวจนทำให้สินค้าทั้ง 2 กลุ่มนี้มีการเติบโตสูงสุด และในปีที่ผ่านมา (2566) บริษัทฯ มีผลประกอบการรวมสูงกว่า 900 ล้านบาท
สำหรับในปีนี้ สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ทำให้การเติบโตของสินค้าก็เข้าสู่ภาวะปกติด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าผลประกอบการโดยรวมของปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือ เติบโตขึ้นประมาณ 6-7% ดังนั้น เพื่อการบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ รินไน จึงได้มีการปรับกลยุทธ์การตลาด โดยเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งหนึ่งในแนวทางสำคัญ คือ การนำเทคโนโลยีมาเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งยังใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนากระบวนการผลิต อาทิ ระบบ Automation แขนจักรกล หุ่นยนต์ การใช้พลังงานสะอาดจากการติดตั้ง Solar Roof Top เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในกระบวนการผลิต ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นการยกระดับมาตรฐาน ให้มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยที่สูงขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิตให้คงที่มากขึ้น แม้ว่าราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตและสถานการณ์ราคาพลังงานมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยรวมยังไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและการปรับขึ้นราคาของผลิตภัณฑ์ รินไน ในขณะนี้
นายสมพล ปรีชาวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ รินไน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคว่า จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคทำให้ได้ข้อมูลว่า ผู้บริโภคไทยในวัยทำงานให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพและมีความระมัดระวังในเรื่องการบริโภคมากขึ้น การประสบกับปัญหา PM2.5 อย่างต่อเนื่องและมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการมองหาผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ในการบำบัด บรรเทา สร้างความปลอดภัยแก่สุขภาพมากขึ้น จากข้อมูลดังกล่าวและการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์จากบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดูดควันของ รินไน มีการเพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยี พลาสม่า มีการออกแบบที่ทันสมัย สามารถขจัดได้ทั้งกลิ่นควันจากการทำอาหาร กำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส รวมถึงฝุ่นระดับ PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้บริโภคยุคใหม่เน้นเลือกผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน มีการออกแบบที่โดดเด่น โดยทางบริษัทฯ ได้นำ G-Line series ชุดครัวระดับไฮเอนด์ที่ผลิตและพัฒนาโดย รินไน ประเทศญี่ปุ่น ที่มีการออกแบบอย่างประณีตและใช้สีดำที่เป็นองค์ประกอบหลักเพื่อสะท้อนและสื่อถึงความแข็งแกร่ง ซึ่งชุดครัว G-Line series ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดาศิลปินและสไตล์ลิสที่มีชื่อเสียง นอกจากมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัย Si Sensor ที่คอยตรวจจับอุณหภูมิเมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป เปลวไฟจะหรี่อัตโนมัติ อีกทั้งยังตัดแก๊สอัตโนมัติเมื่อลืมปิดการใช้งานหรือใช้งานนานเกิน2ชั่วโมง เทคโนโลยีความปลอดภัย Si Sensor นอกจากจะมีใน G Line Series แล้ว ยังมีในรุ่น Howaro C , Howaro, Vamo และในรุ่นอื่นอีกมากมาย
นอกจากนั้นในกลุ่มของเครื่องทำน้ำอุ่น พบว่าคนไทยนิยมอาบน้ำอุ่นกันมากขึ้น เนื่องจากช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ซึ่งการอาบน้ำอุ่นด้วยอุณหภูมิที่คงที่และเหมาะสม จะช่วยชำระสิ่งสกปรกและผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ซึ่ง รินไน ได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มนี้ถึง 2 รุ่น คือ FON และ KIN Elegant Black มีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่ทันสมัยและความปลอดภัยที่มาเป็นอันดับหนึ่ง
แบรนด์ผลิตภัณฑ์ รินไน ดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 104 ปี ประสบความสำเร็จในการเป็นแบรนด์สินค้าอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน ปัจจุบัน รินไน ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 34 ประเทศ มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายอยู่ทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ โดยผลิตภัณฑ์หลักประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน อาทิ เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ ผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนและผลิตภัณฑ์ทำความร้อนในที่อยู่อาศัย เช่น ฮีตเตอร์และระบบทำความร้อนใต้พื้น (Space Heating) ที่สามารถครองอันดับ 1 กลุ่มเครื่องใช้ในครัวประเภทใช้แก๊สในอินโดนีเซียและเกาหลี รวมถึงครองอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำร้อนในตลาดอเมริกาและออสเตรเลียอีกด้วย
ผู้สนใจข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ รินไน สามารถติดตามได้ที่ www.rinnaithailand.com, Facebook Rinnai Thailand – Official Fanpage, Line official account @rinnaithai หรือ โทร. 0-2312-1438-40