ไชน่า ยูนิคอม จับมือหัวเว่ย ช่วยเอ็กซ์ควิซิต ออโตโมทีฟ นำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในสายการผลิตเชิงพาณิชย์อย่างยืดหยุ่น

ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และหัวเว่ย (Huawei) ได้เข้ามาช่วยธุรกิจเทคโนโลยีอัตโนมัติในเมืองเป่าติ้งของบริษัท เอ็กซ์ควิซิต ออโตโมทีฟ ซิสเต็มส์ จำกัด (Exquisite Automotive Systems Co., Ltd.) หรืออีเอ (EA) ในการติดตั้งสายการผลิต 5G ขั้นสูงเชิงแบบพาณิชย์แบบยืดหยุ่น ซึ่งมีคุณสมบัติความคงที่สูงและมีความหน่วงต่ำ

ที่โรงงานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) ในเมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย์ อุปกรณ์ 5G ขั้นสูงถูกนำมาใช้ในสายการผลิตหลังคารถยนต์ โดยการควบคุมทางอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมนั้นอาศัยเครือข่ายแบบใช้สาย เพื่อการเชื่อมต่อแบบอนุกรมและการควบคุมอุปกรณ์ปลายทาง อย่างไรก็ตาม หลังจากปฏิบัติงานไปได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดการสึกกร่อนของสายไฟจากการใช้งานแบบลากสายเคลื่อนที่ เช่น แขนหุ่นยนต์ ชุดสไลด์ และโต๊ะหมุน ซึ่งมักจะทำให้การผลิตต้องหยุดชะงักลง และส่งผลให้มีการหยุดการดำเนินงานโดยเฉลี่ยประมาณ 60 ชั่วโมงต่อปี

เครือข่าย 5G ขั้นสูงมีความคงที่สูงเป็นพิเศษและมีความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับกระบวนการผลิตหลักระดับไฮเอนด์ที่ต้องการความเร็วในการตอบสนองสูง โดยเครือข่ายอุตสาหกรรมแบบไร้สายสามารถขจัดข้อจำกัดของสายไฟได้สมบูรณ์ และเมื่อเปรียบเทียบกับเครือข่ายแบบใช้สายแล้วนั้น โซลูชัน 5G ขั้นสูงช่วยให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น และสามารถรองรับการผลิตที่ยืดหยุ่นได้ดียิ่งขึ้น เครือข่าย 5G ขั้นสูงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการบูรณาการฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น ฟังก์ชันการรวบรวมข้อมูล (IT) ฟังก์ชันการควบคุมทางอุตสาหกรรม (OT) ในขณะเครือข่ายแบบมีสายต้องใช้สองสายแยกต่างหาก

เอ็กซ์ควิซิต ออโตโมทีฟ ตั้งอยู่ในเมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย์ เป็นบริษัทในเครือของเกรท วอลล์ มอเตอร์ โค หรือจีดับเบิลยูเอ็ม (GWM) และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 พันล้านหยวน โดยอีเอรับผิดชอบในการพัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะ รวมถึงการออกแบบและบูรณาการสายการผลิตอัตโนมัติสำหรับจีดับเบิลยูเอ็มและบริษัทยานยนต์แห่งอื่น ๆ

ในงานแถลงข่าว คุณหยวน จ้านเจียง (Yuan Zhanjiang) รองผู้จัดการทั่วไปแผนกเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของอีเอ กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงองค์กรภาคการผลิต ซึ่ง 5G ขั้นสูงนั้นมีความคงที่สูง ความหน่วงต่ำ และปรับใช้ได้ง่าย คุณสมบัติเหล่านี้ได้รับการยืนยันแล้วในห้องปฏิบัติการอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม 5G ขั้นสูงของอีเอ และจะเริ่มสนับสนุนสายการผลิตเชิงพาณิชย์ของเราในเร็ว ๆ นี้ เราจะคว้าโอกาสที่นำเสนอโดยการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงองค์กร และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถด้านการผลิตอัจฉริยะของเราอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาจีดับเบิลยูเอ็มและอุตสาหกรรมการผลิตในวงกว้าง”

ในปัจจุบัน หลาย ๆ ประเทศมองว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลทางอุตสาหกรรมนั้นเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงการผลิตให้เป็นดิจิทัล ทำให้เชื่อมต่อกัน และมีความอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น โดยความสามารถในการดำเนินงานแบบดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรการผลิต และการผลิตอัจฉริยะที่ยืดหยุ่นได้กำลังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง

คุณฟ่าน จี้อาน (Fan Ji’an) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้านบิ๊กดาต้าของไชน่า ยูนิคอม เปิดเผยว่า ไชน่า ยูนิคอม กำลังเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และเพิ่มนวัตกรรมบูรณาการในเทคโนโลยีดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น “5G ขั้นสูงจะเปลี่ยนจากการใช้งานในการผลิตเสริมไปสู่การใช้งานในการผลิตหลัก เราจะเห็นการใช้งาน 5G ขั้นสูงเป็นปกติมากขึ้นในหลาย ๆ ภาคส่วนที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตไปสู่ระบบดิจิทัลต่อไป”

คุณฟานกล่าวอีกว่า ไชน่า ยูนิคอม เชื่อว่าการปรับใช้ 5G ขั้นสูงจะสามารถสร้างมูลค่าที่มากขึ้นให้กับองค์กรได้ “เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างแรงผลักดันใหม่สำหรับนวัตกรรม และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง โดยบูรณาการเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจที่แท้จริง”

อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังส่งเสริมการพัฒนา 5G ขั้นสูงอย่างมุ่งมั่น โดยในระหว่างการประชุมโกลบอล โมบายล์ บรอดแบนด์ (Global Mobile Broadband Forum) ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนที่แล้วนั้น ผู้ให้บริการเครือข่าย 13 รายทั่วโลก รวมถึงไชน่า ยูนิคอม ได้ร่วมกันเปิดตัวเครือข่าย 5G ขั้นสูงชุดแรก ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านของ 5G ขั้นสูง จากการตรวจสอบทางเทคนิคไปสู่การใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์ โดยปี 2567 จะเป็นปีแรกสำหรับการใช้งาน 5G ขั้นสูงในเชิงพาณิชย์

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2271930/image_1.jpg

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2271931/image_2.jpg

รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/2271932/image3.jpg