การ์มิน ผู้ส่งมอบที่สุดของความหลากหลายทางเทคโนโลยี GPS ตั้งแต่อุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ การเดินทะเล ฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง เปิดตัว EDGE 540 และ EDGE 840 ซีรีย์ คอมพิวเตอร์จักรยานระบบ GPS รุ่นใหม่ล่าสุด อัดแน่นด้วยฟีเจอร์วัดประสิทธิภาพการปั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมฝึกซ้อมที่ปรับเปลี่ยนได้ตามเป้าหมาย (Targeted Adaptive Coaching) ความสามารถในการปั่นและความต้องการของเส้นทาง (Cycling Ability and Course Demands) ที่จะช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการปั่นและให้ข้อมูลเชิงลึก รวมทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อน ให้นักปั่นปรับปรุงและพัฒนาการปั่นได้อย่างตรงจุด พร้อมสู่การพิชิตเป้าหมายต่อไป มาพร้อมการอัพเกรดฟีเจอร์การเชื่อมต่อ และระบบนำทางที่สามารถระบุตำแหน่งได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีการระบุตำแหน่งหลายความถี่ (Multi-band GNSS) ในดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย กะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกรุ่น Solar ที่สามารถชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยให้นักปั่นไปได้ไกลขึ้น ลุยได้มากกว่าที่เคย ด้วยแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานถึง 32 ชั่วโมงในโหมดการใช้งานปกติ และสูงสุดถึง 60 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน โดย EDGE 540 มาในราคา 12,790 บาท EDGE 540 Solar ในราคา 16,590 บาท สำหรับ EDGE 840 มาในราคา 16,590 บาท และรุ่น Solar มาในราคา 20,390 บาท และการเปิดตัวครั้งนี้ ยังมาพร้อมแพ็คเก็จพิเศษคู่กับสายคาดอกวัดชีพจร เซ็นเซอร์จักรยานวัดความเร็ว และรอบขา (HRM, Garmin Bike Speed และ Cadence Sensor) ในราคาเริ่มต้นเพียง 16,590 บาท
คุณหรรษา อาภานุกูล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การ์มินยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพ และตอบโจทย์ความต้องการนักปั่นจักรยานมืออาชีพได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด จนนำมาสู่ EDGE 540 และ EDGE 840 ซีรีย์ คอมพิวเตอร์จักรยานระบบ GPS รุ่นใหม่ล่าสุด ที่กลับมาพร้อมฟีเจอร์ติดตามและประเมินประสิทธิภาพการปั่นใหม่ๆ พร้อมด้วยการอัพเกรดแผนที่ และตัวเลือกรุ่น Solar ที่สามารถชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแบบไหน EDGE ทั้ง 2 ซีรีย์ใหม่ก็พร้อมที่จะเป็นคู่หูที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกซ้อม และเป็นตัวช่วยพลิกเกมในทุกศึกให้กับนักปั่น”
ฟีเจอร์ใหม่ที่นักปั่นควรรู้ – New features
EDGE 540 และ 840 ซีรีย์ ออกแบบโดยนักปั่นเพื่อนักปั่นโดยเฉพาะ จึงอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์และนวัตกรรมล้ำสมัยที่ช่วยให้นักปั่นพิชิตเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น
- ความสามารถในการปั่น และความต้องการของเส้นทาง (Cycling Ability and Course Demands) ฟีเจอร์ที่สามารถระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของนักปั่น รวมถึงความต้องการในแต่ละเส้นทาง เพื่อให้นักปั่นสามารถฝึกซ้อมและเตรียมความพร้อมได้อย่างตรงจุด
- โปรแกรมการฝึกซ้อมที่ปรับเปลี่ยนได้ตามเป้าหมาย (Targeted Adaptive Coaching) นักปั่นสามารถดูคำแนะนำการออกกำลังกายและการฝึกซ้อมทั้งการปั่นในที่ร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำการฝึกซ้อมรายบุคคลที่อิงจากปริมาณการฝึกซ้อม การฟื้นตัวของร่างกาย และความต้องการของเส้นทางการปั่นในครั้งถัดไปด้วย
- ฟีเจอร์ติดตามพลังแบบเรียลไทม์ (Real-time Stamina) นักปั่นสามารถติดตามระดับการออกแรงขณะปั่นได้แบบเรียลไทม์ เพื่อประเมินว่าตนเองจะสามารถคงระดับความเร็วในขณะนั้นได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนการฝึกซ้อม และจัดการกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ฟีเจอร์ Power Guide ช่วยแนะนำการจัดการพละกำลังตลอดเส้นทางการปั่น
- ฟีเจอร์ ClimbPro นักปั่นสามารถดูข้อมูลระดับความลาดชัน ระยะทาง และการไต่ระดับความสูงทั้งเส้นทางปัจจุบันที่ปั่นอยู่ และเส้นทางข้างหน้าได้โดยตรงจากอุปกรณ์ EDGE และยังสามารถศึกษาข้อมูลก่อนออกเดินทางได้จากแอปพลิเคชั่น Garmin Connect อีกด้วย
- เทคโนโลยีระบุตำแหน่งหลายความถี่ (Multi-band GNSS) นักปั่นสามารถค้นหาเส้นทางได้ง่ายและแม่นยำผ่านการระบุตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี GNSS ที่รองรับได้หลายคลื่นความถี่ สามารถทำงานได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ หรือใจกลางเมืองก็ตาม
- ยังมาพร้อมตัวเลือกโมเดล Solar ที่สามารถชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Charging) ผ่านเลนส์ Power Glass ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานถึง 60 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน ทำให้นักปั่นสามารถปั่นในช่วงกลางวันได้โดยมีเวลาเพิ่มขึ้นอีก 25 นาทีต่อชั่วโมงเลยทีเดียว1
ดีไซน์แข็งแรงทนทาน – Rugged Design
ไม่ว่าจะเป็นการปั่นบนเส้นทางลูกรังหรือปั่นขึ้นเขาสุดทรหด EDGE 540 และ 840 ซีรีย์ก็พร้อมเป็นคู่หูทุกการปั่น ด้วยหน้าจอสีขนาด 2.6 นิ้ว มากับปุ่มควบคุมที่ใช้ได้ในทุกสภาพแวดล้อม และพิเศษสำหรับ EDGE 840 ซีรีย์ มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ทั้ง 2 ซีรีย์ยังตอบโจทย์นักปั่นด้วยแบตเตอรี่ที่มาอายุการใช้งานยาวนาน โดยสำหรับรุ่น Non-solar สามารถใช้แบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 26 ชั่วโมงในโหมดการใช้งานปกติ และสูงสุด 42 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน ในขณะที่รุ่น Solar สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น สูงสุด 32 ชั่วโมงในโหมดการใช้งานปกติ และสูงสุดถึง 60 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน ช่วยให้นักปั่นสามารถปั่นได้ต่อเนื่อง และมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง
ทลายทุกข้อจำกัดการปั่น – Crush Every Ride
EDGE 540 และ 840 ซีรีย์ มาพร้อมเครื่องมือนำทางและฟีเจอร์วัดประสิทธิภาพการฝึกซ้อมขั้นสูงที่จะช่วยให้นักปั่นแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก Firstbeat Analytics ไม่ว่าจะเป็น VO2 Max สถานะการฝึกซ้อมและปริมาณการฝึกซ้อม ระยะเวลาการฟื้นตัว และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทำให้นักปั่นสามารถติดตามได้ว่าร่างกายมีการตอบสนองต่อการฝึกซ้อมอย่างไร2 และหากสวมใส่ Garmin สมาร์ทวอทช์ร่วมด้วยก็จะยิ่งช่วยให้นักปั่นเห็นข้อมูลสุขภาพในภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น จากข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่ได้จากสมาร์ทฟีเจอร์ อาทิ ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox)3 ระดับพลังงานของร่างกาย (Body Battery) การติดตามการนอนหลับขั้นสูง พร้อมให้คะแนนประสิทธิภาพของการนอน (Advanced Sleep with Sleep Score) เป็นต้น EDGE 540 และ 840 ซีรีย์ยังช่วยให้นักปั่นทราบว่าร่างกายของตนเองสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างการปรับตัวต่อความร้อน หรือระดับความสูงได้มากน้อยเพียงใด และยังสามารถตั้งแจ้งเตือนขณะปั่นเมื่อถึงเวลาที่ต้องเติมพลัง หรือพักดื่มน้ำได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีฟีเจอร์ติดตามการปั่นขั้นสูงที่ให้ข้อมูลเชิงลึกด้านประสิทธิภาพของผู้ปั่น และยังมีฟีเจอร์การปั่นจักรยานเสือภูเขาที่สามารถให้ข้อมูลการนับ
การกระโดด ระยะกระโดด ความขรุขระและความสั่นไหว เพื่อคอยติดตามรายละเอียดตลอดระยะทางการปั่นอันยาวไกลด้วย
ไม่ว่าจะที่ไหน ฟีเจอร์การนำทางขั้นสูงของ EDGE 540 และ 840 ซีรีย์ก็สามารถพานักปั่นไปยังจุดหมายได้ในทุกเส้นทาง ด้วยระบบแผนที่อัพเดทใหม่ โดยใช้ Trendline Popularity Routing ซึ่งจะบอกไฮไลท์เส้นทางการปั่นยอดนิยม รวมถึงจุด POI (Point of Interest) ผู้ใช้ EDGE 540 และ 840 ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเส้นทาง Trailforks ช่วยให้นักปั่นสามารถดูเส้นทางและรายละเอียดเส้นทางเทรลได้ทั่วโลก นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถปิดการแนะนำเส้นทางและแจ้งเตือนการออกนอกเส้นทางได้เมื่อต้องการสำรวจเส้นทางใหม่ๆ และสามารถเปิดใช้งานได้ทันทีที่นักปั่นต้องการกลับเข้าเส้นทางเดิม หรือไปยังจุดเริ่มต้น
เชื่อมต่อได้ไม่มีสะดุด – Stay Connected
ปั่นไกลแค่ไหนก็อุ่นใจ ด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยและการติดตามในตัว ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ LiveTrack การส่งข้อความกลุ่ม (Group Messaging) หรือฟังก์ชั่นตรวจจับเหตุการณ์ (Incident Detection) EDGE 540 และ 840 ซีรีย์ยังสามารถใช้งานร่วมกับเรดาร์และไฟท้ายจักรยาน Varia และอุปกรณ์ InReach ที่สามารถสื่อสารและส่งสัญญาณ SOS เมื่อออกนอกเส้นทาง ช่วยให้นักปั่นรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น
สำหรับการฝึกซ้อมในร่ม EDGE 540 และ 840 ซีรีย์สามารถจับคู่กับเทรนเนอร์จักรยานฝึกซ้อมในร่ม Tacx ช่วยให้นักปั่นสามารถฝึกซ้อมได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี นักปั่นยังสามารถใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชั่น Garmin Connect ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สร้างและส่งข้อมูลเส้นทางไปยังอุปกรณ์ EDGE ดูข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับการปั่น บันทึกความสำเร็จในการบรรลุแต่ละเป้าหมาย รวมไปถึงวัดแนวโน้มการฝึกซ้อม นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งคอมพิวเตอร์จักรยานได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Connect IQ โดยสามารถปรับแต่งได้ทั้งฟิลด์ข้อมูล แอป และวิตเจ็ต แล้วดาวน์โหลดลงบนอุปกรณ์ EDGE ได้อย่างง่ายดาย
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์จักรยานทั้ง 2 รุ่นติดตั้งและใช้งานง่าย นักปั่นสามารถเข้าถึงข้อมูลเส้นทางและฟีเจอร์ช่วยในการฝึกซ้อมได้สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับเปลี่ยนฟิลด์ข้อมูลได้โดยตรงจาก EDGE หรือจากสมาร์ทโฟนที่จับคู่ก็ได้เช่นกัน
EDGE 540 และ 840 ซีรีย์พร้อมให้นักปั่นชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ติดตามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3B45ZvC และติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Garmin Thailand และ อินสตาแกรม Garmin Thailand
ที่มา: แรบบิทส์ เทล