PwC และ SAP เปิดตัวกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมร่วมกันเพื่อให้ความยั่งยืนเป็นส่วนสำคัญของมาตรฐานการดำเนินธุรกิจ โดยกลยุทธ์นี้มุ่งเน้นที่การสร้างโซลูชันที่น่าเชื่อถือเพื่อจัดการกับความท้าทายทางธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ครอบคลุมการวัดผล การรายงาน และการควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนการลดก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน ความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ และการวิเคราะห์การแข่งขันทางธุรกิจ
กลยุทธ์ใหม่ด้านอีเอสจีนี้ ถือเป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งของการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่าง PwC และ SAP ซึ่งประสบความสำเร็จในการส่งมอบโซลูชันด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้กับลูกค้าในมากกว่า 80 ประเทศ
ทั้งนี้ กลยุทธ์ดังกล่าว ประกอบด้วยโซลูชันที่สร้างสรรค์ร่วมกัน โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเชิงลึกในด้านอีเอสจีและการบัญชีของ PwC โดยมีเป้าหมายช่วยให้ธุรกิจสามารถประยุกต์ใช้เกณฑ์อีเอสจีในการดำเนินงานได้อย่างน่าเชื่อถือ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ผสมผสานด้วยโซลูชัน ‘SAP(R) Cloud for Sustainable Enterprises’ โซลูชัน ‘SAP Sustainability Control Tower’ และโซลูชัน ‘SAP Product Footprint Management’ ซึ่ง PwC และ SAP ช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่จำเป็นในการปฏิบัติตามข้อกำหนด และขับเคลื่อนการเติบโต เพื่อรองรับความคาดหวังของลูกค้าและนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยลูกค้าในการกำหนดทิศทางของกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และการรายงานความยั่งยืน
กลยุทธ์ของ PwC และ SAP ประกอบด้วยโซลูชันที่ครอบคลุมกลยุทธ์อีเอสจีทั่วทั้งองค์กร ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขาย และการยอมรับเครดิตภาษี ไปจนถึงจัดการความเสี่ยงจากบุคคลภายนอก และการวิเคราะห์การแข่งขันทางธุรกิจ นอกจากนี้ ความท้าทายสามอันดับแรกในการรายงานด้าน ESG การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และการรายงานความยั่งยืนจะถูกระบุอยู่ในกลยุทธ์นี้ด้วย ดังต่อไปนี้
- การรายงานและการเปิดเผยข้อมูล ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการวัดก๊าซคาร์บอนในระดับกลุ่มนักลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ผู้ให้กู้ หน่วยงานกำกับดูแล และลูกค้า
- การดำเนินงานด้านความยั่งยืน ที่สนับสนุนการผนวกมาตรการด้านอีเอสจี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผนวกประเด็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนเข้ากับหน่วยงานของธุรกิจโดยตรง เช่น การค้า การแปลงเงินกำไรเป็นทุน และภาษี
- การจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบของห่วงโซ่อุปทาน ที่ขยายการสนับสนุนสำหรับมาตรการด้านอีเอสจี เพื่อให้ครอบคลุมผลกระทบของซัพพลายเออร์ต่อประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร
โซลูชันต่าง ๆ เช่น เครื่องมือความเป็นเลิศด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Excellence tool) ที่ได้รับรางวัลของ PwC ประเทศเยอรมนี ซึ่งใช้ SAP Business Technology Platform แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการร่วมมือระหว่างสององค์กรในการนำนวัตกรรมด้านอีเอสจีออกสู่ตลาด
PwC และ SAP มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านการรายงานและการตรวจสอบที่กำหนดโดยคณะกรรมการที่ปรึกษาการจัดทำรายงานทางการเงินแห่งสหภาพยุโรป (European Financial Reporting Advisory Group: EFRAG) และคณะกรรมการมาตรฐานความยั่งยืนระหว่างประเทศ (International Sustainability Standards Board: ISSB) นอกจากนี้ ยังสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยที่เกี่ยวข้อง และเสนอโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ โซลูชันที่ให้บริการโดย PwC และ SAP ส่งมอบสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้แก่ลูกค้าที่จำเป็นต้องดำเนินธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นาย บ็อบ มอริตซ์ ประธาน บริษัท PwC โกลบอล กล่าวว่า “ESG กลายเป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจและเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ระดับโลกของ PwC นั่นคือ “สมการใหม่” ซึ่งมีเป้าหมายในการช่วยให้ลูกค้าสร้างความไว้วางใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของพวกเขา และส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ข้อกำหนดในการรายงานอีเอสจี และการเปิดเผยข้อมูลใหม่กำลังได้รับการจัดตั้งขึ้น และความโปร่งใสที่มากขึ้น จะมีความสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งความเชื่อนี้ คือ แกนหลักของกลยุทธ์การร่วมสร้างนวัตกรรมใหม่ของเรากับ SAP เพื่อขยายความร่วมมือที่มุ่งเน้นเฉพาะในการพัฒนาโซลูชันด้านอีเอสจี
ตลอดเวลาที่ผ่านมา PwC ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ส่งมอบตามข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านอีเอสจี ด้วยความเชี่ยวชาญ และชื่อเสียงในด้านความไว้วางใจและความซื่อตรงของเรา ร่วมกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ SAP จะช่วยนำเสนอศักยภาพและโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความท้าทายขององค์กรในการปฏิบัติตามพันธสัญญาด้านอีเอสจีและความยั่งยืน”
นาย คริสเตียน ไคลน์ ซีอีโอและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร บริษัท SAP SE กล่าวว่า “กุญแจสำคัญที่ทำให้ทุกองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก คือ ความโปร่งใส ความร่วมมือของเราจะผสมผสานความเชี่ยวชาญเชิงลึกในอุตสาหกรรมและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าของ PwC เข้ากับพอร์ตโฟลิโอเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนชั้นนำของเรา ซึ่งความโปร่งใสด้านอีเอสจีที่เกิดขึ้นจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ปฏิวัติรูปแบบทางธุรกิจใหม่ ๆ และส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืนที่โลกต้องการอย่างเร่งด่วน”
ด้านนาย จิรพล ตังทัตสวัสดิ์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “PwC เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ SAP มาอย่างยาวนาน ทำให้เราสามารถดึงจุดแข็งมาผสมผสานกับบริการด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจและด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยลูกค้ากำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจและตอบโจทย์ด้านอีเอสจี รวมไปถึงให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่ต้องการเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน หรือ Dow Jones Sustainability Index ผ่านการประเมินความยั่งยืนตามตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การร่วมมือสร้างนวัตกรรมใหม่ระหว่าง PwC กับ SAP นี้ จึงถือเป็นการต่อยอดและพัฒนาโซลูชันโดยใช้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีของ SAP ซึ่งใช้ระบบคลาวด์ในการติดตามผลการดำเนินการด้านอีเอสจี โดยมีการคำนวณปริมาณคาร์บอนที่บริษัทใช้เพื่อให้สามารถออกรายงานสนับสนุนการตรวจสอบและปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ต้องการได้”
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์สร้างนวัตกรรมใหม่ด้านอีเอสจีของ PwC และ SAP ได้ที่เว็บไซต์ของเรา
ที่มา: ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย)