เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Xiaomi 12T Series จัดเต็มด้วยประสิทธิภาพระดับเรือธงที่มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยคุณปลดล็อคความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้น พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยเป็นเจ้าของแล้ว โดยวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 12T Pro (รุ่นความจุ 12GB + 256GB) ราคา 25,990 บาท และ Xiaomi 12T (รุ่นความจุ 8GB + 256GB) ราคา 17,990 บาท พิเศษ! สำหรับลูกค้า Xiaomi 12T Series จำนวน 1,500 คนแรก ที่สั่งจองในระหว่างวันที่ 8 – 21 ตุลาคม 2565 รับของสมนาคุณ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 5,490 บาท ฟรี1! นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังเปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ AIoT มากมาย ได้แก่ แท็บเล็ต Redmi Pad, สมาร์ทแบนด์ Xiaomi Smart Band 7 Pro, หูฟัง Redmi Buds 4 Pro, หุ่นยนต์ทำความสะอาด Xiaomi Robot Vacuum X10+, เครื่องทำความสะอาด Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum, กล้อง Mi Dash Cam 2 และ Xiaomi Smart Doorbell 3
สมาร์ทโฟน Xiaomi 12T Series ชูคอนเซ็ปต์ Make moments mega
สมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 12T Series มาพร้อมกล้องระดับโปรที่มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งาน โดย Xiaomi 12T Pro ให้ภาพความคมชัดสูงด้วยระบบภาพระดับโปร 200 ล้านพิกเซลที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์อันล้ำสมัยและอัลกอริทึม AI ขั้นสูงจากเสียวหมี่ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถเก็บรายละเอียดภาพได้อย่างดีแม้ในสภาวะแสงน้อย หรือเมื่อถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่สูญเสียการโฟกัส กล้องของ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ซูมได้ถึง 2 เท่า โดยคุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ความประโยชน์จากเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.22 นิ้ว เพื่อถ่ายภาพบุคคลได้ออกมาอย่างที่ต้องการ และ Xiaomi 12T Pro ยังมาพร้อม Xiaomi ProCut และ Ultra burst ที่จะช่วยให้คุณครอปและสร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างมืออาชีพ ทั้งยังปลดล็อกสกิลความคิดสร้างสรรค์ในถ่ายทำภาพยนตร์ Xiaomi 12T Pro นั้นยังรองรับวิดีโอความละเอียด 8K อีกด้วย สำหรับ Xiaomi 12T นั้น มาพร้อมกล้องสามตัว โดยมีกล้องหลักระดับโปรความละเอียด 108 ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และยังสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดี ทำให้ได้ภาพที่สว่างคมชัดแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย
สำหรับด้านประสิทธิภาพการประมวลผลนั้น Xiaomi 12T Pro มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Snapdragon(R) 8+ Gen 1 ด้วยกระบวนการผลิต 4nm TSMC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPU และ GPU ได้มากถึง 16.7% และ 11% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 1 และลดการใช้พลังงานของแต่ละตัวลงถึง 33% และ 30%2 นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนที่ประกอบไปด้วยส่วนห้องไอน้ำที่ใหญ่ขึ้นถึง 65% และมีการใช้วัสดุกันความร้อนที่คลอบคลุมตัวอุปกรณ์มากกว่า Xiaomi 11T Pro ถึง 125% Xiaomi 12T Pro จึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและประสิทธิภาพพลังงานที่ยอดเยี่ยมโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความร้อนสูงเกินอีกต่อไป และสำหรับ Xiaomi 12T นั้น ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8100-Ultra ซึ่งสร้างขึ้นจากกระบวนการผลิต 5nm TSMC ตัวชิปนั้นได้รับการอัปเกรดด้วยโครงสร้าง GPU ใหม่ทั้งหมด จึงเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ตลอดจนความเร็วนาฬิกา แคช และการจัดเก็บ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น2 ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพและวิดีโอ การดูภาพยนตร์ หรือเล่นโซเชียลมีเดีย Xiaomi 12T ก็ให้คุณใช้งานด้วยประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ช่วงเวลาของคุณ
ในส่วนของแบตเตอรี่ Xiaomi 12T Series ยกระดับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้ง Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และมี เทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ HyperCharge 120W ซึ่งสามารถชาร์จให้เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น และสามารถใช้งานบนหน้าจอได้สูงสุด 13.5 ชั่วโมง3 นอกจากนี้ Xiaomi AdaptiveCharge จะทำการเรียนรู้กิจวัตรการชาร์จในแต่ละวันของผู้ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของแบตเตอรี่ในระยะยาวอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสัมผัสกับประสบการณ์การรับชมแบบจุใจเต็มตาไปกับหน้าจอแสดงผลแบบ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว บน Xiaomi 12T Series ที่มีความละเอียดถึง 1220p และสีมากกว่า 68 พันล้านสี สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนั้นได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างความคมชัด เก็บทุกรายละเอียดแห่งสีสัน และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หน้าจอแสดงผลยังได้รับการปรับปรุงด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะ เช่น AdaptiveSync ซึ่งสามารถปรับอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกตามเนื้อหาที่รับชม และ Xiaomi 12T Series ยังเต็มไปด้วยการออกแบบระดับพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ ด้านหลังโค้งมนช่วยลดรอยนิ้วมือที่พื้นผิวด้านหลัง พร้อมสัมผัสที่กระชับมือทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และจากบนลงล่าง นี่คือสุดยอดของการออกแบบเรือธงที่สมบูรณ์แบบ
Xiaomi 12T Series มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
- Xiaomi 12T Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท
- Xiaomi 12T รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท
พิเศษ! สำหรับลูกค้า 1,500 คนแรกที่สั่งซื้อ Xiaomi 12T Series ล่วงหน้าระหว่างวันที่ 8 – 21 ตุลาคม 2565 รับฟรี! นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 5,490 บาท
ผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่มากมาย ช่วยให้คุณใช้ชีวิตแบบสมาร์ทไลฟ์
Redmi Pad ให้คุณสนุกครบจบในเครื่องเดียว
Redmi Pad มีหน้าจอแสดงผลขนาด 10.61 นิ้ว ซึ่งมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 90Hz ทั้งยังมาพร้อมลำโพงสี่ตัวและรองรับ Dolby Atmos(R) แท็บเล็ต Redmi Pad ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Media Tek Helio G99 และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8000 mAh (typ) ที่มาพร้อมการชาร์จเร็ว 18W และที่ชาร์จในกล่อง 22.5W ทั้งหมดนี้อยู่บนการออกแบบ unibody ระดับเรือธงที่เรียบหรูมีสไตล์
Redmi Pad มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Gray, Moonlight Silver และ Mint Green โดยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
- Redmi Pad รุ่นความจุ 6GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 8,499 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
- Redmi Pad รุ่นความจุ 4GB+128GB วางจำหน่ายในราคา 7,499 บาท บนช่องทางร้านค้าออนไลน์ Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop
Xiaomi Smart Band 7 Pro ยกระดับสไตล์ของคุณ
Xiaomi Smart Band 7 Pro ให้หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.64 นิ้วทรงเหลี่ยม โดยมาพร้อมคุณสมบัติต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดกีฬาให้เลือกมากกว่า 110 โหมด การตรวจสอบการนอนหลับไป ตลอดจนการติดตามบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพและการเล่นออกกำลังกาย นอกจากนี้ Xiaomi Smart Band 7 Pro ยังมีระบบการติดตั้ง GNSS ที่จะช่วยระบุตำแหน่งได้เร็วขึ้นและติดตามเส้นทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น และอุปกรณ์นี้สามารถกันน้ำได้ถึง 5ATM4 และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุด 12 วัน
Xiaomi Smart Band 7 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว จะวางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 5-31 ตุลาคม 2565 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษเพียง 2,490 บาทเท่านั้น
Redmi Buds 4 Pro มอบเสียงคุณภาพที่คุณต้องการ
Redmi Buds 4 Pro ได้รับการรับรองคุณภาพเสียง Hi-Res Audio Wireless มอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม ด้วยระบบ dual driver ขนาด 10 มม. + 6 มม. Redmi Buds 4 Pro ยังมาพร้อมการรองรับระบบการแปลงสัญญาณเสียงแบบ LDAC5 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับเสียงไร้สายคุณภาพสูงผ่านบลูทูธได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมอบระบบเสียงอันสมจริงซึ่งสามารถกำหนดตำแหน่งเสียงรอบตัวผู้ใช้และมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงให้แก่ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อหาและช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Redmi Buds 4 Pro ยังมีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) แบบไฮบริดแอกทีฟ6 สูงสุด 43dB พร้อมช่วงความถี่กว้าง 30-3000Hz7 ดังนั้นเสียงต่างๆ อาทิ เสียงของการพิมพ์บนแป้นพิมพ์ หรือเสียงแตรรถ จะถูกกำจัดเสียงออกไป ทั้งนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกระดับการตัดเสียงรบกวน ANC ได้ด้วยตัวเองในสามระดับ (โหมดเบา-Light Mode, โหมดสมดุล-Balanced Mode และโหมดลึก-Deep Mode) หรือเลือกใช้โหมดปรับเองโดยอัตโนมัติ (Adaptive Mode) ซึ่งจะตรวจจับเสียงรบกวนรอบข้างแล้วเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนที่เหมาะสมที่สุด Redmi Buds 4 Pro ให้ความสะดวกมากขึ้น โดยถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ (dual-device connectivity) ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งสองเครื่องได้อย่างง่ายดาย การชาร์จครั้งเดียวของ Redmi Buds 4 Pro รองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 9 ชั่วโมง และเมื่อจับคู่กับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้ยาวถึง 36 ชั่วโมง8
Redmi Buds 4 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Moon white และ Midnight Black วางจำหน่ายในราคา 2,290 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
Xiaomi Robot Vacuum X10+ ที่สุดของการทำความสะอาดด้วยระบบอัตโนมัติที่เหนือชั้น
Xiaomi Robot Vacuum X10+ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นล่าสุดของเสียวหมี่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น เมื่อจับคู่กับสเตชั่น (ฐานที่ตั้ง) อุปกรณ์สามารถเทขยะลงในถังขยะของตัวอง ทำความสะอาดแผ่นซับ เติมน้ำในถัง เก็บผ้าถูพื้นให้ชื้น และแห้งเองเพื่อหลีกเลี่ยงการกักเก็บความชื้นและกลิ่นเมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่อง คือระบบอัตโนมัติอย่างแท้จริง ทำให้ทุกครัวเรือนได้รับประสบการณ์การทำความสะอาดที่ราบรื่น อุปกรณ์นี้สามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้ทุกประเภท ไม้ถูพื้นสามารถยกตัวเองขึ้นได้เมื่อเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกในตัวตรวจจับพรมโดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันก็สามารถดูดฝุ่นอย่างทั่วถึงได้ด้วยพลังดูด 4,000Pa9 แผ่นถูพื้นแบบหมุนคู่สามารถทำการถูด้วยแรงดันเพื่อขจัดคราบสกปรกฝังแน่นบนพื้น Xiaomi Robot Vacuum X10+ นั้นขับเคลื่อนด้วยระบบ S-Cross AITM ทำให้ตัวอุปกรณ์สามารถหลีกเลี่ยงวัตถุบนเส้นทางการทำความสะอาดและปรับการถูพื้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับเลเซอร์แบบ dual-line และกล้อง RGB สำหรับการตรวจจับเป้าหมาย เมื่อใช้ร่วมกับระบบนำทาง LDS เครื่องจะวางแผนเส้นทางการทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ
Xiaomi Robot Vacuum X10+ สีขาว วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum สะอาดหมดจดเพียงครั้งเดียว
Xiaomi Truclean W10 Wet Dry Vacuum Series เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นแบบเปียกและแห้งเครื่องแรกของเสียวหมี่ โดยสามารถทำความสะอาดยกกำลังสาม ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่น ถูพื้น และขัดถู ตัวอุปกรณ์ขับเคลื่อนด้วยระบบตรวจจับสิ่งสกปรกอัจฉริยะ มาพร้อมฟังก์ชันการปรับอัตโนมัติที่ช่วยให้อุปกรณ์ปรับกำลังการทำความสะอาดตามปริมาณสิ่งสกปรกที่สัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นขยะ ของเหลวหรือขนสัตว์เลี้ยงก็สามารถหายไปได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum มีหัวทำความสะอาดหลากหลายแบบที่สามารถทำความสะอาดซอกมุมต่างๆ ที่เข้าถึงยากได้อีกด้วย และด้วยแปรงลูกกลิ้งที่ไม่พันกันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และมีที่จับที่ปรับได้ถึง 90 องศา ซึ่งช่วยให้ทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
Xiaomi Truclean W10 Pro Wet Dry Vacuum สีขาว วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
MI Dash Cam 2 กล้องติดหน้ารถให้ความคมชัดระดับอัลตร้า
กล้องติดหน้ารถ MI Dash Cam 2 มาพร้อมคมชัดระดับอัลตร้า 2K สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้ถึง 140? พร้อมเซ็นเซอร์ OV OS05A10 F1.8 อันยอดเยี่ยม และยังเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารหัส H.265 ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้คุณภาพของภาพและพื้นที่จัดเก็บนั้นดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ตัวกล้องยังมาพร้อมกับการลดเสียงรบกวนแบบดิจิตอล 3D สามารถบันทึกกลางคืนได้ดีเยี่ยม และยังมาพร้อมโหมดการตรวจสอบการจอดรถให้คุณคลายกังวลเรื่องรถรอบข้างได้อีกด้วย กล้องติดหน้ารถ MI Dash Cam 2 ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 3 นิ้ว มาพร้อมขาตั้งในตัวและเลนส์ที่หมุนได้
กล้องติดหน้ารถ MI Dash Cam 2 สีดำ วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
Xiaomi Smart Doorbell 3 เฝ้าประตูให้คุณอุ่นใจได้ทุกเวลา
Xiaomi Smart Doorbell 3 มาพร้อมความคมชัดระดับ 2K ให้คุณสามารถบันทึกทุกความเคลื่อนไหวหน้าประตูได้อย่างชัดเจน แม้ในยามกลางคืนเนื่องจากตัวอุปกรณ์มาพร้อมไฟอินฟาเรดกำลังสูง 940nm ถึง 4 ตัว จึงสามารถบันทึกภาพได้ชัดเจนในสภาวะแสงน้อยหรือไม่มีแสงเลย นอกจากนี้ตัวกล้องยังมาพร้อมประสิทธิภาพการมองเห็นแบบอัลตร้าไวด์แนวทะแยงได้ถึง 180? และแนวตั้งถึง 107? Xiaomi Smart Doorbell 3 นั้นสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว AI ขั้นสูง โดยมีเทคโนโลยีการจดจำรูปร่างมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี AI และสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติและจะทำการส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของคุณเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ ทั้งยังตรวจจับภาพแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถมองเห็นและใช้งานผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมาพร้อม Smart Voice Change Intercom ที่สามารถสื่อสารได้สองทาง โดยคุณสามารถเปลี่ยนเสียงอัจฉริยะได้เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนเสียงเพื่อความปลอดภัยเมื่ออยู่บ้านคนเดียว
Xiaomi Smart Doorbell 3 สีดำ วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ที่มา: EnityPR