อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลกที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ เปิดตัวเทคโนโลยีระบบระบายความร้อน 3D Vapor Cloud Chamber (3D VCC) อย่างเป็นทางการ ด้วยการใช้นวัตกรรมการออกแบบด้วยรูปทรง VC เป็นครั้งแรก โดยผู้ออกแบบได้เพิ่มปริมาตรพื้นที่บรรจุ ซึ่งจะช่วยปรับให้การกระจายความร้อนทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งนวัตกรรมนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความร้อนสูงของสมาร์ตโฟนจากการใช้งาน อาทิ การลดความถี่ของ CPU, อัตราเฟรมเรทลดลง และหน้าจอค้าง โดยเทคโนโลยีใหม่นี้ได้รับการรับรองจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติของจีน
Manfred Hong ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Infinix กล่าวว่า “สำหรับผู้ที่เล่นเกมมือถือโดยทั่วไปจะให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพ ในขณะที่ผู้เล่นมืออาชีพจะเน้นเรื่องการกระจายความร้อน เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการใช้งาน เนื่องด้วยในยุค 5G เป็นยุคที่มีการสร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้กับเทคนิคการกระจายความร้อน โดยการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้ผลักดันนวัตกรรมท่อสุญญากาศส่งความร้อนแบบเดิมไปสู่แบบ VC ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดมาก และปัจจุบันได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพจากแบบพื้นผิวเรียบให้เป็นโครงสร้างแบบสามมิติด้วยชุดน้ำระบบปิด 3D Vapor Cloud Chamber เพื่อเว้นช่องว่างขนาดเล็กเอาไว้ระหว่างตัวชิปเซ็ตและชุดระบายความร้อน ช่วยให้มีพื้นที่เก็บของเหลวระบายความร้อนได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ลดอุณหภูมิบนตัวชิปเซ็ตได้มากขึ้น สำหรับเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นถึงรากฐานทางด้านเทคนิคและนวัตกรรมของ Infinix เท่านั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความก้าวหน้าทางเทคโลยีและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนอีกด้วย”
เทคโนโลยี 3D VCC ที่พัฒนาขึ้นโดย Infinix
สำหรับเทคโนโลยี 3D VCC ที่ Infinix ได้พัฒนาขึ้นมานี้ เมื่อความร้อนเข้าสู่ VC น้ำในเครื่องจะระเหยกลายเป็นไอน้ำ ซึ่งจะคอยขจัดความร้อนส่วนเกินที่เกิดขึ้น จากนั้นไอร้อนจะไหลเข้าสู่คอนเดนเซอร์และกลายเป็นของเหลวที่ไหลกลับเข้าสู่เครื่องระเหยผ่านโครงสร้างภายในอีกครั้ง ที่สร้างระบบหมุนเวียนความร้อนและความเย็นด้วยการอยู่รวมกันของน้ำและไอน้ำ
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับดีไซน์ VC แบบเดิมแล้ว เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว 3D Vapor Cloud Chamber มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยได้มีการเพิ่มที่กันกระแทกไว้ด้านหนึ่งของเครื่องระเหย เพื่อเพิ่มปริมาตรและพื้นที่ในการกักเก็บน้ำพร้อมกับตัวระบายความร้อน ทำให้ปริมาตรการฉีดอัดน้ำและ Q max เพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับ VC แบบเก่า สามารถลดอุณหภูมิลงได้ถึงประมาณ 3 องศาเซลเซียส และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการกระจายความร้อนได้ประมาณ 12.5% ซึ่งส่งผลให้โดยรวมได้รับการพัฒนาและปรับปรุงการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
ความท้าทายในการสร้างสรรค์ที่สมบูรณ์แบบ
เพื่อให้ Infinix เป็นผู้นำด้านการกระจายความร้อนด้วยดีไซน์ 3D VCC ใหม่ล่าสุด เราจำเป็นต้องปรับปรุงความแข็งแรงของโครงสร้างตัวดีไซน์รูปแบบเก่า โดยหลังจากการทดสอบและการปรับแก้ไขหลายครั้ง ทางทีมวิจัยและพัฒนาของ Infinix ได้ออกแบบโครงสร้างภายในแบบ 3 มิติลงในช่องรับรองเมทริกซ์ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลความเรียบและปริมาตรภายในช่องบรรจุได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ การปรับตัวเรือนด้านหน้าได้ถูกนำมาพิจารณาด้วย เพื่อที่จะลดตัวกลางต้านทานความร้อน ส่งผลให้ตัวเรือนด้านหน้ามีการพัฒนาแก้ไข พร้อมกับส่วนประกอบหลักๆ ที่ผสานรวมกันกลายเป็นเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว 3D Vapor Cloud Chamber ที่ Infinix พัฒนาขึ้นเอง
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่อยู่ในสมาร์ตโฟนของ Infinix ผู้ใช้งานจะได้เพลิดเพลินและสัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า โดยจะสามารถใช้งานสมาร์ตโฟนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้เล่นเกมได้หนักขึ้น เร็วขึ้น และไลฟ์สตรีมได้ยาวนาน พร้อมกวาดรางวัลต่างๆ ด้วยตัวเครื่องที่มีความเย็นกว่า ลื่นไหลกว่า และมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า
ตามแนวคิด “The Future is Now” ของ Infinix เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการระบายความร้อนของสมาร์ตโฟนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะพัฒนา VC ให้บางลงและป้องกันการกระแทกให้มากที่สุด ด้วยการใช้วัสดุที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการนำส่วนกลางของตัวเครื่องและ 3D VCC มาผสานเข้าด้วยกัน ตลอดจนย่อขนาดระบบโมดูลระบายความร้อนทั้งหมดลงมาไว้ในสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว
ทั้งนี้ Infinix จะยังคงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพให้กับผู้บริโภคทุกคนด้วยความสามารถด้านนวัตกรรมที่เป็นจุดแข็ง ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟนที่ยอดเยี่ยมในเรทราคาที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ได้ตามความต้องการมากที่สุด
ที่มา: ทริปเปิล เอท ไอเดียส์