ออราเคิล และ ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดใช้งานบริการฐานข้อมูลออราเคิลบนแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์อาชัวร์ (Oracle Database Service for Microsoft Azure) ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าไมโครซอฟท์อาชัวร์สามารถเข้าถึงการทำงานและการตรวจสอบข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับประสบการณ์การใช้งานเทียบเท่าวิสาหกิจขนาดใหญ่ผ่านระบบฐานข้อมูลของออราเคิลบน Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ซึ่งลูกค้าสามารถถ่ายโอนหรือสร้างแอปพลิเคชันใหม่บนอาชัวร์ หลังจากนั้นจึงทำการเชื่อมต่อกับบริการฐานข้อมูลของออราเคิลที่มีการควบคุมความปลอดภัย เข้าถึงการใช้งานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพสูง อาทิ ระบบฐานข้อมูลอัตโนมัติ (Autonomous Database) ที่ทำงานอยู่บน OCI เป็นต้น
ผสานขีดความสามารถของมัลติคลาวด์ที่เหนือชั้นทั้งจากอาชัวร์และ OCI
นับเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษมาแล้วที่ลูกค้านับพันรายมอบความไว้วางใจใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์และออราเคิล ซึ่งทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นเพื่อใช้ทำงานบนแอปพลิเคชันหลักในการดำเนินธุรกิจ หากเมื่อลูกค้าจำเป็นต้องย้ายแอปพลิเคชันและข้อมูลต่าง ๆ ไปเก็บไว้ในคลาวด์ พวกเขาจึงต้องการโซลูชันที่พัฒนาร่วมกันโดยสองพันธมิตรด้านซอฟท์แวร์ที่น่าเชื่อถือนี้ ในปี 2019 เมื่อออราเคิลจับมือกับไมโครซอฟท์นำเสนอบริการเชื่อมต่อของออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์อาชัวร์ (Oracle Interconnect for Microsoft Azure) ปรากฏว่ามีองค์กรนับร้อยรายที่เลือกใช้ระบบการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวสูงนี้ในกว่า 11 ภูมิภาคทั่วโลกรวมถึงในสิงคโปร์
ไมโครซอฟท์และออราเคิลกำลังขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานมัลติคลาวด์มีความเรียบง่ายยิ่งขึ้นผ่านการให้บริการฐานข้อมูลออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์ อาชัวร์ (Oracle Database Service for Microsoft Azure) ก่อนหน้านี้ลูกค้าร่วมของทั้งสองบริษัทซึ่งในจำนวนนั้นมีทั้งบริษัทรายใหญ่ระดับโลกอย่าง AT&T, Marriott International, Veritas และ SGS ต่างต้องการเลือกใช้เฉพาะบริการคลาวด์ที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ขยายสเกลงาน และเร่งการปรับระบบการดำเนินธุรกิจให้ทันสมัย โดยบริการฐานข้อมูลออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์อาชัวร์ (Oracle Database Service for Microsoft Azure) ซึ่งใช้ระบบการเชื่อมต่อของออราเคิลสำหรับอาชัวร์ (Oracle Interconnect for Azure) ช่วยให้ลูกค้าสามารถถ่ายโอนภาระงานบนไมโครซอฟท์อาชัวร์ได้ด้วย Oracle Database Service ซึ่งทำงานบน OCI ลูกค้าจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินสำหรับการใช้บริการฐานข้อมูลของ Oracle สำหรับ Microsoft Azure หรือสำหรับการเชื่อมต่อโครงข่าย ข้อมูลขาออกหรือข้อมูลขาเข้าระหว่าง Azure และ OCI ลูกค้าเพียงชำระค่าบริการอาชัวร์และออราเคิลที่พวกเขาเลือกใช้งานเท่านั้น เช่น Azure Synapse หรือ Oracle Autonomous Database
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์และออราเคิล ได้เดินหน้าทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานเพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้าของทั้งสองบริษัท และการจับมือกันในครั้งนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จที่เราร่วมกันพลิกโฉมเทคโนโลยีคลาวด์ผ่านการเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่น เรามีความยินดีที่ลูกค้าของออราเคิลและไมโครซอฟท์ จะได้สัมผัสและใช้งานบริการที่รวมจุดแข็งด้านฐานข้อมูลของออราเคิลและการใช้งานแอปพลิเคชันที่หลากหลายของอาชัวร์”
“ไมโครซอฟท์และออราเคิลทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าร่วมของทั้งสองบริษัท ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการมอบทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากกว่าให้แก่บรรดาลูกค้าของเรา ซึ่งกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงการทำงานไปสู่ระบบดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ การตัดสินใจเลือกไมโครซอฟท์เป็นพันธมิตรของออราเคิลยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าว่าจะได้ทำงานกับทั้งสองบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมนี้” คอรีย์ แซนเดอร์ส รองประธานบริษัท ฝ่าย Microsoft Cloud for Industry and Global Expansion กล่าว
“คุณอาจเคยได้ยินความเชื่อเก่า ๆ ว่าเราไม่สามารถทำงานแอปพลิชันบนคลาวด์สองระบบพร้อมกันได้ วันนี้เราทำลายความเชื่อนั้นทิ้งไป เมื่อเราทำให้ลูกค้าออราเคิลและไมโครซอฟท์ได้รับประโยชน์และมูลค่าจากการผสานระบบฐานข้อมูลออราเคิลเข้ากับแอปพลิเคชันอาชัวร์ ผู้ใช้งานไม่ต้องมีทักษะขั้นสูงหรือเก่งเรื่องการตั้งค่าที่ซับซ้อน เพราะใคร ๆ ก็ใช้ Azure Portal เพื่อรวมขีดความสามารถของคลาวด์ทั้งสองระบบได้” เคลย์ มากัวเยิร์ก รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่าย Oracle Cloud Infrastructure กล่าว
“เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบดิจิทัลของวิสาหกิจขนาดใหญ่ต้องใช้คลาวด์หลายระบบ เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยให้สามารถจัดเก็บภาระงานได้ดีกว่า ทั้งบริการที่ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มเดียวที่ให้ฟังก์ชั่นการทำงาน ต้นทุน และประโยชน์แบบเบ็ดเสร็จแก่วิสาหกิจ หรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยผสาน บริหารจัดการ หรือใช้งานภายในองค์กรเพื่อการรันภาระงานหลักของธุรกิจ ดังนั้น การเชื่อมต่อที่มีความเรียบง่ายและปลอดภัยระหว่างซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการต่าง ๆ จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการการันตีด้วย SLA ในการทำงานร่วมกันระหว่างสองแพลตฟอร์ม” ไซมอน พิฟฟ์ รองประธานแห่ง IDC Asia Pacific Research กล่าว
ลูกค้าอาชัวร์ได้รับประสบการณ์ที่คุ้นเคย ผสานบริการออราเคิลที่มั่นคงปลอดภัย
ด้วยบริการฐานข้อมูลออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์อาชัวร์รูปแบบใหม่ ผู้ใช้จะสามารถเชื่อมต่อทะเบียนอาชัวร์ของตนเองเข้าสู่ระบบ OCI ได้ในไม่กี่คลิก ระบบจะทำการปรับค่าการเชื่อมต่อระหว่างคลาวด์ทั้งหมดให้โดยอัตโนมัติและรวมข้อมูลบัญชี Azure Active Directory ทำให้ผู้ใช้งานอาชัวร์สามารถใช้บริการนี้ได้อย่างง่ายดาย ระบบยังมีแผงควบคุม Oracle Database Services on OCI ซึ่งใช้คำศัพท์เฉพาะของอาชัวร์เพื่อให้คุ้นเคยสำหรับผู้ใช้งาน และยังสามารถตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ได้ด้วย Azure Application Insights
“ภาระงานที่สำคัญต่อธุรกิจหลายอย่างของเราทำงานบนฐานข้อมูลออราเคิลที่ใช้งานเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อเราย้ายภาระงานเหล่านี้ไปไว้ในคลาวด์ บริการฐานข้อมูลออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์อาชัวร์จึงช่วยให้เราสามารถปรับการทำงานฐานข้อมูลออราเคิลให้เป็นบริการที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น Autonomous Database in OCI พร้อมการใช้ประโยชน์จากไมโครซอฟท์อาชัวร์ในส่วนของแอปพลิเคชันได้เช่นกัน” เจเรมี เลจจ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี AT&T
“โครงสร้างมัลติคลาวด์ช่วยให้เราสามารถเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่ดีที่สุดสำหรับภาระงานแต่ละรูปแบบได้ โดยพิจารณาจากขีดความสามารถ ประสิทธิภาพ และราคา การจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง OCI และอาชัวร์ถือเป็นการผสานขีดความสามารถของผู้ให้บริการสองรายใหญ่เข้าด้วยกัน ซึ่งมีทั้งบริการฐานข้อมูออราเคิลใน OCI (Oracle Database services in OCI) และความสามารถด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันของอาชัวร์” เนวีน มังกา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Marriott International
“บริการฐานข้อมูลออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์อาชัวร์ช่วยให้การทำงานแบบมัลติคลาวด์มีความเรียบง่ายในการวิเคราะห์ข้อมูล เราสามารถนำเข้าข้อมูลปริมาณมหาศาลที่เก็บไว้ใน Oracle Exadata Database Service on OCI เข้ามาสู่ Azure Data Factory และใช้ Azure Synapse เพื่อทำการวิเคราะห์ได้” เจน จู รองประธานกรรมการอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล ฝ่ายการดำเนินงานองค์กร Veritas กล่าว
“บริการฐานข้อมูลออราเคิลสำหรับไมโครซอฟท์อาชัวร์ทำให้การใช้งานมัลติคลาวด์เป็นเรื่องง่าย เราจะได้ใช้ระบบฐานข้อมูลที่ดีที่สุดของออราเคิลในอาชัวร์ และยังสามารถจัดเก็บโครงสร้างพื้นฐานของเราในอาชัวร์ได้ นี่ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่เราจะได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัท ช่วยให้การโอนย้ายข้อมูลสู่คลาวด์ทำได้อย่างง่ายดายและยังช่วยยกระดับทักษะบุคลากรด้านไอทีขของเราด้วย” เดวิด พลาซา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล SGS กล่าว
ที่มา: วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์