กลุ่มธุรกิจ พลังงานดิจิทัล (Digital Power) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์ผู้นำด้านการผลิตโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จัดตั้งสถาบันการศึกษาพลังงานสีเขียว (Green Energy Academy) แห่งแรกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อปลูกฝังความรู้ความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานดิจิทัลและพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์แก่เยาวชน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานและส่งเสริมความยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย
นายโลแกน ยู กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ พลังงานดิจิทัล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และ ผศ. ดร. ประเสริฐ คันธมานนท์ รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding) เพื่อจัดตั้งสถาบันการศึกษาพลังงานสีเขียวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือระยะยาวระหว่าง บริษัท หัวเว่ย และ มจธ. และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่ยุคความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
ภายใต้ความร่วมมือนี้ ทั้งสองฝ่ายจะให้การสนับสนุนเพื่อพัฒนาอุปกรณ์การเรียนการสอนและบทเรียนทั้งหมด 3 ระดับ โดยจะนำเสนอความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงความรู้ด้านการติดตั้งและการออกแบบโซลาร์รูฟท็อปในระดับครัวเรือนและระดับอุตสาหกรรม เช่น โซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์ลอยน้ำ เป็นต้น โดยการจัดตั้งสถาบันการศึกษาพลังงานสีเขียวแห่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปูเส้นทางสายอาชีพในอนาคตให้แก่นักศึกษา และพัฒนาบุคคลากรจากผู้สำเร็จการศึกษามาเป็นหัวหน้าด้านเทคนิคที่มีประสบการณ์
“หัวเว่ย ดิจิทัล เพาเวอร์ มุ่งมั่นที่จะผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับอิเล็กทรอนิกส์กำลัง (Power Electronics) เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน โซลูชันของเราได้ถูกติดตั้งอยู่บนโซลาร์รูฟท็อปและโซลาร์ฟาร์มรวมกว่า 2.4 จิกะวัตต์ (GW) และยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศไทยกว่า 6.72 ล้านตัน ด้วยประสบการณ์และนวัตกรรมที่เรามี เราหวังที่จะมอบความรู้และโซลูชัน FusionSolar Smart PV เพื่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเทคโนโลยีไอซีทีและสถาบันการศึกษา โดยหัวเว่ยและ มจธ. ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาบุคคลากรที่มีความสามารถผ่านโครงการนี้ เพื่อตอบสนองเทรนด์พลังงานสะอาดและความต้องการของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในสายอาชีพนี้ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยหัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะนำความอัจฉริยะเข้าสู่ทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กรมาโดยตลอด เพื่อสร้างประเทศไทยในยุคดิจิทัลที่ชาญฉลาด ยั่งยืน ทและเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบ” นายโลแกน ยู กล่าว
ผศ.ดร. ประเสริฐ คันธมานนท์ กล่าวเพิ่มเติม “เราหวังอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะนำมาซึ่งบทเรียนเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ที่ครอบคลุม โดยจะเปิดสอนแก่นักศึกษาหรือบุคคลทั่วไปที่มีความรู้เทียบเท่าระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ในชั้นปีที่ 3 รวมทั้งมอบประสบการณ์ตรงให้กับผู้เข้าเรียนผ่านห้องเรียนพลังงานสีเขียวแห่งแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมกับโซลูชัน FusionSolar Smart PV รุ่นล่าสุดจากหัวเว่ย นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาพลังงานสีเขียวยังพร้อมมอบโอกาสการฝึกงานภายใต้แผนก พลังงานดิจิทัล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผมเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษากว่า 200 ท่าน ในอีก 3 ปีข้างหน้า และช่วยพัฒนาบุลคลากรที่มีความสามารถให้แก่ประเทศไทยที่กำลังมุ่งสู่ยุคปลอดคาร์บอนในอนาคต”
หัวเว่ยและ มจธ. หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานและประสบการณ์ด้านพลังงานสีเขียวแก่นักเรียนให้มากที่สุดก่อนจะก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน และมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการนี้ต่อไปตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัล ของ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ช่วยนำทางประเทศไทยเข้าสู่ระบบพลังงานยุคอนาคตที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีทั้งความบริสุทธิ์ ใช้งานได้ง่ายกว่า และประหยัดต้นทุนยิ่งกว่าเดิม
ที่มา: คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์