ที่การประชุมสุดยอด หัวเว่ย อินเทลลิเจนท์ ไฟแนนซ์ ซัมมิต ประจำปี 2565 (Huawei Intelligent Finance Summit 2022) หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชันจัดเก็บข้อมูลเจาะจงสถานการณ์สำหรับอุตสาหกรรมการเงินรวม 6 รายการ เพื่อช่วยลูกค้าภาคการเงินสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีข้อมูลเป็นศูนย์กลางและคุ้มค่า
ดร.ปีเตอร์ โจว (Dr. Peter Zhou) ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีของหัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวคำปราศรัยสำคัญ โดยได้อธิบายเหตุผลที่ทำให้ข้อมูลเป็นพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมในแวดวงการเงิน ทั้งยังเผย 4 ปัญหาท้าทายสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลด้วย
- ข้อมูลมีการนำไปใช้ในรูปแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาจากการนำฐานข้อมูลไปใช้งานแบบเดิม ๆ เป็นการผสานรวมทั้งฐานข้อมูล บิ๊กดาต้า และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์
- เมื่อข้อมูลมีมากขึ้นก็ต้องอาศัยการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่เร็วขึ้น
- การปกป้องข้อมูลได้กลายเป็นหัวใจสำคัญ เมื่อประเมินจากผลกระทบที่มากับภัยพิบัติ การถูกไวรัสโจมตี และปัญหาเศรษฐกิจ
- เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวล้อมและประหยัดพลังงานเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบจัดเก็บข้อมูลยุคใหม่
หัวเว่ยให้ความสำคัญกับกรณีการใช้งานข้อมูลหลัก ๆ 6 ประการด้วยกัน รวมถึงการสร้างและดำเนินการ การวิเคราะห์ข้อมูล การปกป้องข้อมูล ทั้งยังพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลล้ำสมัยที่เป็นรากฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าภาคการเงิน
เร่งสร้างและดำเนินการ
ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลชอย่างโอเชียนสโตร์ โดราโด (OceanStor Dorado) ยกระดับขีดความสามารถทั้งด้าน NAS และ SAN โดยมีค่าความหน่วงเพียง 0.05 ms เพื่อเร่งบริการงานธนาคารส่วนหลักให้เร็วกว่าเดิมสามเท่า และเพิ่มสมรรถนะการประมวลผลไฟล์ขนาดเล็กจำนวนมากระหว่างการรับส่งข้อมูลขึ้น 100%
เร่งวิเคราะห์ข้อมูล
ระบบจัดเก็บข้อมูลโอเชียนสโตร์ แปซิฟิก เอชดีเอฟเอส (OceanStor Pacific HDFS) นำสถาปัตยกรรมแบบแยกหน่วยจัดเก็บ-ประมวลผล (storage-compute) มาใช้ ซึ่งรองรับการหลอมรวมของฟอร์แมตข้อมูลสำหรับเลคและคลังข้อมูล เปิดโอกาสให้ดึงข้อมูลได้ทันทีหลังนำเข้าเลคข้อมูล ทำให้วิเคราะห์บิ๊กดาต้าตั้งแต่ T+1 (วันนี้ + 1 วัน) ไปจนถึง T+0 แบบเรียลไทม์โดยมีค่า TCO ต่ำที่สุดได้ เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีข้อมูลรองรับ
ปกป้องข้อมูลทุกสถานการณ์
โอเชียนสโตร์ โดราโด รองรับโซลูชัน active-active แบบ SAN และ NAS ครบวงจรที่คิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรก โดยระบบสำรองข้อมูลอย่างโอเชียนโพรเทกต์ (OceanProtect) ให้แบนด์วิดท์สำรองข้อมูลมากกว่าเดิมสามเท่า และแบนด์วิดท์กู้คืนข้อมูลที่มากกว่าเดิมห้าเท่า ซึ่งช่วยลดเวลาสำรองข้อมูลลงได้อย่างมาก ขณะที่โซลูชันปกป้องแรนซัมแวร์ครอบคลุมทั้งระบบจัดเก็บข้อมูลหลักและสำรอง เพื่อให้ป้องกันภัยจากแรนซัมแวร์ได้อย่างครอบคลุม
บริหารจัดการอัตโนมัติ
กลไกบริหารจัดการข้อมูล (DME) อัจฉริยะ ทำหน้าที่บริหารจัดการตลอดลำดับขั้นตอนของข้อมูลอย่างอัตโนมัติ โดยแสดงกระบวนการทั้งหมดเป็นภาพให้เข้าใจได้ ควบคุมได้ และสืบย้อนได้ ตั้งแต่ช่วงการวางแผน ติดตั้ง ปฏิบัติการและการบำรุงรักษา ไปจนถึงเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรได้ถึง 20% และหั่น OPEX ลงอย่างมีนัยสำคัญ
จัดเก็บข้อมูลบนแพลตฟอร์มคลาวด์วีเอ็มแวร์
โอเชียนสโตร์ โดราโด รองรับการนำไปผนวกรวมกับแพลตฟอร์มคลาวด์วีเอ็มแวร์ (VMware) เพื่อจัดสรรทรัพยากรอัตโนมัติแบบ E2E และรวมงานปฏิบัติการและการบำรุงรักษาไว้ที่ศูนย์กลาง ทั้งยังมีความพร้อมใช้งาน 99.99999% และมีค่าความหน่วงเพียง 0.05 ms เพื่อให้ย้ายข้อมูลการเงินขึ้นคลาวด์ได้อย่างราบรื่น
จัดเก็บข้อมูลแบบคอนเทนเนอร์
โอเชียนสโตร์ โดราโด เอ็นเอเอส (OceanStor Dorado NAS) แยกแอปพลิเคชันคอนเทนเนอร์ออกจากระบบจัดเก็บข้อมูล เพื่อรองรับการเพิ่มทรัพยากรประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบออนดีมานด์ ส่วนคุณประโยชน์อื่น ๆ นั้นมีทั้งสมรรถนะการประมวลผลไฟล์ขนาดเล็กจำนวนมากที่สูงกว่าเดิม 10 เท่า การแชร์ข้อมูลข้ามโหนด และจัดกำหนดการทรัพยากรได้เร็วกว่ามาตรฐานทั่วไปถึง 30%
ดร.ปีเตอร์ โจว ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลอย่างน่าเชื่อถือในยุคดิจิทัลว่า “เรากำลังบุกยุคข้อมูลระดับยอตตะไบต์ ซึ่งข้อมูลมีการนำไปใช้ในรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และมีการสร้างข้อมูลมากขึ้น ระบบจัดเก็บข้อมูลของหัวเว่ยจะช่วยให้ลูกค้าภาคการเงินสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีข้อมูลเป็นศูนย์กลางและวางใจได้ เพื่อขับเคลื่อนการพลิกโฉมสู่ดิจิทัลต่อไป”
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของโซลูชันจัดเก็บข้อมูลจากหัวเว่ยในการพลิกโฉมภาคการเงินได้ที่นี่
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1864487/image_1.jpg