คุณเผิง ซ่ง (Peng Song) ประธานฝ่ายการตลาดและการขายโซลูชันของกลุ่มธุรกิจแคริเออร์ของหัวเว่ย (Huawei) กล่าวถึงแผนการใหม่ล่าสุดของบริษัทในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (Carrier Cloud Transformation Summit) ระหว่างสัปดาห์นวัตกรรม “วิน-วิน: หัวเว่ย อินโนเวชัน วีค” (Win-Win Huawei Innovation Week) โดยคุณเผิงอธิบายว่า หัวเว่ยรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเหล่านี้ผ่านการเพิ่มมูลค่าเครือข่าย เร่งสร้างนวัตกรรมบริการ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านโทรคมนาคมเพื่อปลดล็อกประโยชน์แห่งการเชื่อมต่อ
คลาวด์กำลังกลายเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรม และถือเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญในปัจจุบัน เนื่องจากคลาวด์สามารถเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและภูมิทัศน์ทางการตลาดของแต่ละอุตสาหกรรมได้
อุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้เข้าสู่ขั้นตอนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์แล้ว ส่งผลให้เกิดโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ มากมาย โดยคาดว่าผู้ให้บริการ 15% จะพัฒนาและใช้กลยุทธ์คลาวด์ที่ครอบคลุมโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2566 ส่งผลให้ตลาดคลาวด์โทรคมนาคมมีมูลค่าสูงหลายแสนล้านดอลลาร์ ดังนั้น เพื่อรองรับการขยายตัวและใช้ประโยชน์จากตลาดใหม่ ๆ ที่เทคโนโลยีเหล่านี้สร้างขึ้น ผู้ให้บริการจึงต้องจัดลำดับความสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT ที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น
คุณเผิงเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการควรขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการสื่อสาร (CT) และผู้ให้บริการควรใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่ไม่เหมือนใครของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ เพื่อเพิ่มมูลค่าเครือข่ายและบริการของตน
คุณเผิงยังได้เน้น 3 สิ่งที่ผู้ให้บริการต้องให้ความสำคัญเพื่อคว้าโอกาสในปัจจุบันเอาไว้
ประการแรก ในแง่ของมูลค่าเครือข่าย ผู้ให้บริการจำเป็นต้องขยายขอบเขตเครือข่ายด้วยระบบคลาวด์ และยกระดับมูลค่าเครือข่ายในตลาด B2B เพื่อให้แน่ใจว่าความก้าวหน้าเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้ามากขึ้น เครือข่ายเป็นสินทรัพย์หลักของผู้ให้บริการ และผู้ให้บริการสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้แก่การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ในลักษณะที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน
ในประเทศจีน หัวเว่ยมอบขีดความสามารถด้านเครือข่ายและเอดจ์คลาวด์ เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถจัดหาโซลูชันให้แก่ลูกค้าองค์กรเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น โดยขยายตลาดที่เข้าถึงได้ได้ถึง 25%
ประการที่สอง ในแง่ของนวัตกรรมดิจิทัล ผู้ให้บริการจำเป็นต้องสร้างแพลตฟอร์มระบบคลาวด์สำหรับนวัตกรรมบริการดิจิทัลที่สามารถใช้เพื่อเปิดตัวบริการใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แพลตฟอร์มระบบคลาวด์แบบทำงานร่วมกันที่เชื่อมโยงบริการโทรคมนาคมกับบริการดิจิทัลจะช่วยเร่งให้เกิดนวัตกรรมและยกระดับขีดความสามารถในการได้มาซึ่งลูกค้า
ในยุโรป หัวเว่ยได้ช่วยผู้ให้บริการโยกย้ายสภาพแวดล้อมการพัฒนา สภาพแวดล้อมการทดสอบ และบริการหลายร้อยรายการไปยังแพลตฟอร์มหัวเว่ยคลาวด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการบางรายย่นระยะเวลาในการนำบริการใหม่ออกสู่ตลาดได้ถึง 75% โดยใช้แพลตฟอร์มการพัฒนาที่คล่องตัวและขีดความสามารถ PaaS ด้านโทรคมนาคม
ประการที่สาม ในแง่ของการดำเนินงานด้านโทรคมนาคม ผู้ให้บริการจำเป็นต้องใช้โซลูชันระบบคลาวด์แบบบูรณาการล่วงหน้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจหลักของตน การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์สำหรับโทรคมนาคมต้องใช้แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบกระจายที่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูลและข้อกำหนดด้านการจัดการสถาปัตยกรรมบริการโทรคมนาคมแบบปรับเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ ไทม์ไลน์ที่สมเหตุสมผลในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าบริการต่าง ๆ จะได้รับการโยกย้ายไปยังระบบคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ
ในเอเชีย หัวเว่ยได้ปรับใช้ระบบคลาวด์แบบกระจายเพื่อจัดการบริการและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของผู้ให้บริการ และใช้ที่เก็บข้อมูลแบบกระจายของตนเพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่สัมพันธ์กันสำหรับบริการต่าง ๆ จนสามารถยกระดับอัตราความสำเร็จทางการตลาดของแพ็คเกจ 5G ขึ้นถึง 180%
คุณเผิงกล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์และส่งมอบบริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า สิ่งสำคัญคือ ผู้ให้บริการต้องเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับผู้ที่เข้าใจอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอย่างลึกซึ้งและรู้วิธีใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของโทรคมนาคม โดยหัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์มากกว่า 120 รายทั่วโลกภายในสิ้นปี 2564 หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะลงทุนเพิ่มเติมในด้าน ICT และใช้ประโยชน์จากความสามารถในการให้บริการที่ปรับให้เข้ากับพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการและปลดล็อกประโยชน์แห่งการเชื่อมต่อ
ทั้งนี้ งานกิจกรรม “วิน-วิน: หัวเว่ย อินโนเวชัน วีค” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 กรกฎาคม ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด พร้อมทั้งเจาะลึกในประเด็นต่าง ๆ เช่น 5.5G, การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล เพื่อเปิดจินตนาการถึงความสำเร็จร่วมกันในเศรษฐกิจดิจิทัล ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://carrier.huawei.com/en/events/winwin-innovation-week
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1863037/Huawei.jpg
คำบรรยายภาพ – คุณเผิง ซ่ง (Peng Song) ขึ้นพูดในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (Carrier Cloud Transformation Summit) ระหว่างสัปดาห์นวัตกรรม “วิน-วิน: หัวเว่ย อินโนเวชัน วีค” (Win-Win Huawei Innovation Week)