เมื่อโลกเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคแห่งการปรับตัวรวดเร็วจากเทคโนโลยีดิจิทัลรอบด้าน แถมต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาเป็นปี เหล่านี้ยิ่งเป็นแรงผลักให้ทุกอุตสาหกรรมต้องแปลงร่างสร้างแนวทางในการดำเนินธุรกิจ วิธีการทำงาน การให้บริการ รวมทั้งการเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคปัจจุบันที่เน้นการลดทุกรูปแบบ ทั้งลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่าย และที่สำคัญ ‘ลดความเสี่ยง’ ซึ่งสถานการณ์นี้ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการสุขภาพ ดังนั้น Digital Health คือตัวช่วยขับเคลื่อนการให้บริการด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์อย่างครอบคลุม ช่วยลดความแออัดรวมถึงระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาล ซึ่งวันนี้เราเลือกหยิบเทรนด์ Digital Health ที่นิตยสาร Forbes ได้รวบรวมไว้เมื่อต้นปี (อ้างอิง: https://bit.ly/35M1mua) มาแนะนำทางลัดช่วยดูแลตัวเองในยุคที่ทุกอย่างควรลด … ยกเว้นเรื่องสุขภาพและความงาม!
เริ่มที่เทรนด์แรก Application Programming Interfaces (APIs) ถือเป็นหัวใจช่วยให้ผู้ให้และผู้รับบริการเข้าถึงเวชระเบียนดิจิทัลผ่านโปรแกรมแอปพลิเคชัน ซึ่งเวชระเบียนดิจิทัลจะช่วยเปลี่ยนภูมิทัศน์ของโลกการแพทย์ โดยจะเริ่มเห็นกันมากขึ้นในปี 2022 เวชระเบียนดิจิทัลจะช่วยจัดระเบียบข้อมูลจากกองเอกสารเปลี่ยนเป็นข้อมูลดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเวชระเบียนทั่วไป ประวัติการแพ้ยา ใบสั่งจ่ายยา ข้อมูลเชิงลึกทางสุขภาวะ ทั้งหมดนี้ต่อไปจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อการเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย
อีกเทรนด์ที่กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนวงการสุขภาพยุคนี้คือ Virtual Care and Telemedicine คือการนำเทคโนโลยีระบบ Video Conference มาใช้เพื่อรองรับการสื่อสารรักษาทางไกล แพทย์สามารถวิเคราะห์ผู้รับการรักษาได้ในทันที และพูดคุยกันผ่านระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) ตามเวลานัดหมายโดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง รวมถึงการจ่ายยาก็เปลี่ยนเป็นการส่งไปที่บ้านหรือรับ ณ จุดที่สะดวก ซึ่งทั้งหมดช่วยลดความแออัด การรอคอย ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลและระหว่างเดินทางได้ด้วย
สำหรับเมืองไทย มีการให้บริการด้านสุขภาพและความงามที่พร้อมสรรพแบบ O+O (Offline+Online) จากการจับมือกันของ Watsons ร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ และ SkinX แอปพลิเคชั่นหมอผิวหนังออนไลน์รายแรกของไทย ที่รวบรวมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางกว่า 200 คนที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภามาให้คำปรึกษาปัญหาด้านผิวหนังออนไลน์ในรูปแบบวิดีโอคอลแบบครบวงจร End to End Dermatology Platform มีหมวดหมู่การรักษามากกว่า 20 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น ผิวพรรณ ความงาม ศัลยกรรม ปัญหาสิว เส้นผม หนังศีรษะ โรคผิวหนังในเด็ก ผิวหนังทั่วไป ผื่นภูมิแพ้ เล็บมือเล็บเท้า ไฝฝ้า รวมถึงมะเร็งผิวหนัง
Watsons x SkinX มอบประสบการณ์ดูแลสุขภาพงานผิวจากออนไลน์สู่ออฟไลน์อย่างแท้ทรู เพียงแค่ปรึกษาแพทย์ผิวหนังออนไลน์ผ่าน SkinX และเลือกรับยาได้ที่วัตสันสาขาใกล้บ้านคุณ #WatsonsxSkinX #แอปหมอผิว #ผิวดีไม่ต้องรอ #รับยาที่วัตสันxSkinX #WatsonsTH
ที่มา: แรงค์ คอนคิวเรอร์