Crestron เข้าซื้อเทคโนโลยีระบบกล้องและวิดีโออัจฉริยะที่ล้ำหน้าจาก 1 Beyond

การทุ่มทุนในด้านผลิตภัณฑ์และบุคลากรครั้งนี้จะช่วยรังสรรค์เครื่องมือ เทคโนโลยี และโซลูชันการทำงานร่วมกัน (collaboration solution)ที่ล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงาน ในยุคไฮบริดได้อย่างล้ำหน้าที่สุด

Crestron เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชันระบบอัตโนมัติในสำนักงานและโซลูชันการทำงานร่วมกัน ประกาศแผนการเข้าซื้อเทคโนโลยีระบบวิดีโออัจฉริยะที่พัฒนาโดย 1 Beyond โดยการผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกันดังกล่าวจะช่วยเสริมศักยภาพให้แก่อีโคซิสเต็มและขีดความสามารถหลักของ Crestron ด้านการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ ระบบภาพและเสียง ตลอดจนระบบควบคุมและระบบอัตโนมัติสำหรับห้องประชุมทุกขนาดและทุกรูปแบบไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม

แดน เฟลด์สเตน ประธานและซีอีโอของ Crestron กล่าวว่า “เพื่อรองรับการประชุมแบบไฮบริดอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานยุคใหม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่มอบประสบการณ์อันเทียบเท่ากัน ระหว่างผู้เข้าประชุมที่อยู่ในห้องและผู้เข้าประชุมจากทางไกล” และยังกล่าวต่อว่า “ระบบวิดีโออัจฉริยะจะเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางในสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเฉพาะตัว หรือห้องประชุมที่มีลักษณะทั่วไปก็ตาม ซึ่งการผสานรวมนวัตกรรมจาก 1 Beyond เข้าไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำให้ Crestron ยืนอยู่ในตำแหน่งอันโดดเด่นที่สร้างสรรระบบวิดีโออัจฉริยะให้เป็นจริงได้”

โซลูชันระบบวิดีโออัจฉริยะ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานร่วมกันแบบไฮบริด

การทำงานร่วมกันเป็นทีมแบบไฮบริดถือเป็นรากฐานสำคัญขององค์กรยุคใหม่และมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยลูกค้าในกลุ่มนี้ต้องการโซลูชันทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อมอบบรรยากาศการประชุมที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสำหรับผู้เข้าประชุมที่อยู่ในห้องและที่เข้าประชุมจากทางไกล และด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยและพันธมิตรทางกลยุทธ์ที่สำคัญ ทำให้ Crestron สามารถนำเสนอโซลูชัน ระบบวิดีโออัจฉริยะเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศการประชุมเสมือนจริงได้มากที่สุด ดังนั้นการที่ Crestron เข้าซื้อเทคโนโลยีในครั้งนี้ จึงช่วยเพิ่มความครบถ้วนให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านระบบติดตามกล้องแบบอัตโนมัติและระบบวิดีโออัจฉริยะ เพื่อรองรับห้องที่ใช้จัดการประชุมหรือการทำงานร่วมกันได้อย่างหลากหลายและมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผู้ร่วมก่อตั้ง 1 Beyond อย่างเทอร์รี คัลเลน ซึ่งเป็นซีอีโอคนปัจจุบัน และโรนี เซบอค ซีทีโอของบริษัท ได้ร่วมกันพัฒนาบริษัท โดยเน้นแนวคิดเชิงวิศวกรรมจนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในด้านโซลูชันระบบกล้องติดตามอัตโนมัติ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่คอยขับเคลื่อนคุณสมบัติระบบวิดีโออัจฉริยะ เช่น การติดตามผู้พรีเซนท์งาน การติดตามกลุ่มคน การติดตามด้วยกล้องสองตัว และการติดตามอัตโนมัติแบบ ePTZ โดยความมหัศจรรย์ที่อยู่เบื้องหลัง 1 Beyond ก็คือ ความสามารถในการผสานมุมมองจากกล้องหลายตัวเข้ากับมุมมองรายบุคคลของผู้พูดหรือผู้บรรยายได้แบบอัตโนมัติ ตลอดจนมุมมองแบบทั่วห้องที่ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ทำให้ผู้ฟังสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรวมทั้งหมด ที่สำคัญเทคโนโลยีของ 1 Beyond ยังทำงานได้เป็นอย่างดีกับห้องทุกขนาด โดยเฉพาะห้องที่มีลักษณะพิเศษที่ท้าทาย เช่น ห้องบรรยายขนาดใหญ่ พื้นที่จัดการประชุมที่เน้นประสบการณ์เสมือนจริง พื้นที่อรรถประโยชน์ และห้องที่แบ่งกั้นได้ ทั้งสำหรับลูกค้ากลุ่มมหาวิทยาลัย องค์กร และหน่วยงานภาครัฐ ทุกวันนี้ พื้นที่จัดการประชุมต้องการระบบสตรีมมิงที่รองรับการพูดคุยแบบไฮบริดที่สั่งงานได้ด้วยปุ่มเดียว และระบบวิดีโอก็ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการยกระดับประสบการณ์ด้านภาพและเสียงให้เต็มอิ่มที่สุด ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ จะช่วยเสริมชื่อเสียงและความไว้วางใจให้แก่ Crestron ซึ่งพร้อมดูแลลูกค้าด้วยโซลูชันที่ดีและทันสมัยที่สุดตลอดมา

เซบอค ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการด้านระบบวิดีโออัจฉริยะที่ Crestron กล่าวว่า “1 Beyond ได้พัฒนานวัตกรรมการทำงานที่มีทั้งระบบกล้องอัจฉริยะและระบบวิดีโอแบบอัตโนมัติ ซึ่งล้วนออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Crestron ทั้งในฝั่งภาพและเสียง ระบบควบคุม ระบบไฟ และระบบสื่อสารแบบครบวงจร” และ คุณคัลเลนยังกล่าวเสริมด้วยว่า “วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดเชิงวิศวกรรมของทีมงาน 1 Beyond จะสามารถเข้ากันได้กับวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรมในลักษณะเดียวกันที่ Crestron อย่างแน่นอน”

ผลิตภัณฑ์ของ 1 Beyond มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการติดตั้งระบบ (SI) ที่มีประสบการณ์ของ Crestron โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาพร้อมเทคโนโลยีที่รองรับการเติบโตและผสานรวมได้อย่างสมบูรณ์เข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Crestron ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านโซลูชันระบบห้องอัตโนมัติและระบบรองรับการทำงานร่วมกัน

เฟลด์สเตน กล่าวสรุปด้วยว่า “เมื่อผนวกกับความชำนาญเพิ่มเติมและทรัพยากรมหาศาลของ Crestron จะทำให้ 1 Beyond เป็นรากฐานสำคัญของโซลูชันระบบกล้องและวิดีโออัจฉริยะแห่งอนาคตที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เดินหน้าต่อไป”

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ 1 Beyond และความลงตัวกับอีโคซิสเต็มของ Crestron ได้จากบทความนี้

กำหนดการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ของ 1 Beyond จะวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Crestron ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.crestron.com

ข้อมูลเกี่ยวกับ Creston

Crestron คือผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีในสำนักงานที่ออกแบบทางวิศวกรรมและปฏิรูปโซลูชันด้านระบบอัตโนมัติสำหรับองค์กรและระบบสื่อสารแบบครบวงจร (UC – Unified Communication) ให้แก่บริษัทและองค์กรจำนวนมาก ทั้งบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงานและโรงงาน ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการระบบอัตโนมัติภายในบ้านระดับพรีเมียมที่สร้างแพลตฟอร์ม อุปกรณ์ และระบบต่างๆ สำหรับที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ เช่น บ้าน เรือยอร์ช อาคารชุด และโรงแรม

นับเป็นเวลามากกว่า 50 ปีที่ Crestron ได้ช่วยออกแบบโซลูชันทั้งทางด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้แก่ภาครัฐ หน่วยงานทางการทหาร ห้องบรรยายขนาดใหญ่ และห้องประชุม ตลอดจนอาคารที่พักอาศัยชั้นนำที่ทันสมัยทั่วโลก ในขณะที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างกว้างขวางทั้งในด้านการทำงานและชีวิตภายในบ้าน ทาง Crestron ก็ได้วางแผนการปฏิรูปทางดิจิทัลในอนาคตเพื่อใช้ประโยชน์ทั้งเชิงพาณิชย์และการพักอาศัย โดยได้คิดค้นและผลิตโซลูชันที่เสริมสร้างศักยภาพในการทำงานร่วมกัน ช่วยมอบประสิทธิภาพและนวัตกรรม ในขณะที่ยังคงสะท้อนไลฟ์สไตล์ ความสะดวกสบาย และความสัมพันธ์ที่ทำให้ผู้คนสามารถติดต่อถึงกันได้จากทุกที่ทุกเวลา โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Crestron ได้ที่ crestron.com

ข้อมูลเกี่ยวกับ 1 Beyond

1 Beyond ก่อตั้งกิจการมากว่า 25 ปี โดยนำเสนอโซลูชันระบบอัตโนมัติที่ล้ำหน้าในด้านการบันทึกภาพและเสียง การสตรีมมิง และการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ โดยเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเรื่องของกล้องที่มีระบบติดตามอัจฉริยะและระบบสลับสัญญาณภาพแบบอัตโนมัติที่สั่งงานด้วยเสียงและรองรับได้หลายกล้อง ทั้งนี้ 1 Beyond ได้มอบโซลูชันทั้งระบบภาพและเสียงที่เหนือชั้นให้แก่บริษัทในกลุ่ม Fortune 500 มหาวิทยาลัยชั้นนำ และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ มากมาย

ที่มา: พรีเชียส คอมมูนิเคชั่น