ริชาร์ด จิน ผู้บริหารหัวเว่ย เสนอแนวคิด “FIBERS” สำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรม

ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2565 (Mobile World Congress 2022) ริชาร์ด จิน (Richard Jin) รองประธานบริษัทหัวเว่ย (Huawei) และประธานฝ่ายไลน์ผลิตภัณฑ์ธุรกิจระบบนำแสง ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “เครือข่ายอัจฉริยะสีเขียวอ็อปติกซ์ ส่องแสงนำทางการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรม” (Green Intelligent OptiX Network, Lighting Up the Way to Industrial Digitalization) ในสุนทรพจน์ดังกล่าว ริชาร์ดได้นำเสนอแนวคิด “FIBERS” สำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรม พร้อมเปิดตัวเครือข่ายอัจฉริยะสีเขียวอ็อปติกซ์สำหรับองค์กร

“ประสิทธิภาพและคุณภาพของการเชื่อมต่อเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ จึงควรมีการวางแผนและการก่อสร้างล่วงหน้า ในแง่นี้ เครือข่ายอัจฉริยะสีเขียวอ็อปติกซ์ของหัวเว่ยจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย “FIBERS” เพื่อส่องแสงนำทางสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรม” ริชาร์ด จินกล่าว

ใยแก้วนำแสงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากว่าสายเคเบิลที่ทำจากทองแดง ริชาร์ด จินชี้ว่าใยแก้วนำแสงสามารถหาได้ง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่มีการสูญเสียความร้อน ด้วยข้อดีเหล่านี้ การสื่อสารด้วยใยแก้วนำแสงสามารถช่วยองค์กรลดอัตราการกินไฟ ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิผล จึงช่วยให้เกิดการพัฒนาคาร์บอนต่ำและยั่งยืน

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล การเชื่อมต่อจะต้องยึดแนวคิด “FIBERS” ซึ่งหมายถึงข้อกำหนดใหม่ในการเชื่อมต่อของหลายอุตสาหกรรม จากนวัตกรรมเชิงเทคนิคและการปฏิบัติในการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรม ริชาร์ด จินใช้แนวคิด “FIBERS” ในการอธิบายหกข้อกำหนดหลักของการเชื่อมต่อ ประกอบด้วย ปลอดภัย (saFe), อัจฉริยะ (Intelligent), อัลตราบรอดแบนด์ (Ultra-Broadband), มีประสิทธิภาพ (Efficient), เชื่อถือได้ (Reliable) และเรียบง่าย (Simple)

– ปลอดภัย (saFe): ในสภาวการณ์การใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีความพิเศษ อย่างเช่นในเหมืองถ่านหิน การเชื่อมต่อจะต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสมรรถนะพร้อมทั้งทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เครือข่ายและสายเคเบิลใต้ดินมีความปลอดภัยในตัวเองด้วยการขจัดประกายไฟ

– อัจฉริยะ (Intelligent): ความอัจฉริยะเป็นเทรนด์สำคัญของการพัฒนาการเชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์อัจฉริยะสามารถใช้เพื่อดำเนินการทำงานร่วมกันข้ามอุปกรณ์และข้ามผลิตภัณฑ์ เพื่อสมรรถนะโดยรวมของระบบและนวัตกรรมการบริการที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เครือข่ายระบบนำแสงทำงานร่วมกับระบบการจัดเก็บเพื่อให้มีการศูนย์เสียข้อมูลเป็นศูนย์ และด้วยอัลกอริธึมการตรวจจับอัจฉริยะ ใยแก้วนำแสงสามารถใช้เพื่อดำเนินการตรวจสอบท่อส่งน้ำมันและแก๊สได้โดยไม่ต้องใช้บุคลากร

– อัลตราบรอดแบนด์ (Ultra-Broadband): สำหรับการใช้งานเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม อย่างเช่น คลาวด์ บิ๊กดาต้า ความจริงแต่งเติม (AR) และความจริงเสมือน (VR) อัลตราบรอดแบนด์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการเชื่อมต่อ ขณะที่ปริมาณการรับส่งข้อมูลในศูนย์ข้อมูลระดับโลกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ สองปี ระบบการเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูล (Data Center Interconnect – DCI) แบบอัลตราบรอดแบนด์เท่านั้นที่สอดรับกับความต้องการแบนด์วิดธ์ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าประเภทต่าง ๆ อย่างเช่นธนาคาร

– มีประสิทธิภาพ (Efficient): เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล การเชื่อมต่อจะต้องมีประสิทธิภาพสูง ในสภาวการณ์การใช้งานอย่างการก่อสร้างสี่แยกอัจฉริยะและการสร้างเครือข่ายโรงงานใหม่ ประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่กำหนดประสบการณ์ในการติดตั้งโดยตรง ขณะที่ในสภาวการณ์การใช้งานอย่างในท่าเรือซึ่งมีการควบคุมเครื่องจักรระยะไกล การเชื่อมต่อความหน่วงต่ำพิเศษช่วยให้ศูนย์ควบคุมดำเนินงานกับเครื่องจักรระยะไกลได้แบบเรียลไทม์ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ

– เชื่อถือได้ (Reliable): บริการสำคัญต้องได้รับการรับประกัน ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของประเทศชาติและชีวิตผู้คนอย่างลึกซึ้ง อย่างเช่นระบบพลังงานไฟฟ้าหรือระบบการคมนาคมขนส่ง ความเชื่อถือได้ของบริการมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการมีแหล่งพลังงานไฟฟ้าและความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่ง เพราะฉะนั้นการเชื่อมต่อต้องทำให้เกิดการแยกส่วนระบบทางกายภาพแบบครบวงจรและทำให้บริการหลักมีความเชื่อถือได้สูง

– เรียบง่าย (Simple): ความเรียบง่ายเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบปฏิบัติการและซ่อมบำรุง (O&M) อัจฉริยะ ในสภาวการณ์การใช้งานอย่างในพื้นที่ทำงานอัจฉริยะ การเข้าถึงเทอร์มินัลปริมาณนับไม่ถ้วนเพิ่มขนาดสเกลของเครือข่ายและเพิ่มแรงกดดันต่อระบบปฏิบัติการและซ่อมบำรุง ด้วยเหตุนี้ สถาปัตยกรรมเครือข่ายและระบบปฏิบัติการและซ่อมบำรุงต้องมีความเรียบง่ายเพื่อทำให้ระบบปฏิบัติการและซ่อมบำรุงเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นและช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

หัวเว่ยได้เปิดตัวเครือข่ายอัจฉริยะสีเขียวอ็อปติกซ์เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลเชิงอุตสาหกรรม ในงาน MWC 2022 หัวเว่ยยังได้เปิดตัวห้าโซลูชันเชิงนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสภาวการณ์การใช้งาน ประกอบด้วย โซลูชันใยแก้วสู่สำนักงาน (FTTO), โซลูชันใยแก้วสู่เครื่องจักร (FTTM), อ็อปติกซ์แบบเดี่ยว, อ็อปติกซ์สำหรับศูนย์ข้อมูล (DC OptiX) และอ็อปติกซ์การตรวจจับ (Sensing OptiX) ซึ่งใช้แนวคิดความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและแนวคิด “FIBERS” นี้เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรม

ในส่วนท้ายของสุนทรพจน์ ริชาร์ด จินกล่าวว่า “เราทำงานร่วมกับคู่ค้าระดับโลกเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีระบบนำแสงเข้ากับการปฏิบัติในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น บริการที่อัจฉริยะยิ่งขึ้น การรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น การผลิตที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ข้อมูลที่เชื่อถือได้มากขึ้น และการปฏิบัติการและซ่อมบำรุงที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของหลากหลายอุตสาหกรรม”

งาน MWC 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 3 มีนาคมในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ธุรกิจองค์กรของหัวเว่ยจัดแสดงที่บูธหมายเลข 1H50 ในบริเวณฟีรา กรัน เวีย ฮอลล์ 1 (Fira Gran Via Hall 1) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://e.huawei.com/en/events/huawei-enterprise-mwc-2022

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1758860/Richard_Jin_Vice_President_Huawei_President.jpg
คำบรรยายภาพ: ริชาร์ด จิน รองประธานบริษัทหัวเว่ยและประธานฝ่ายไลน์ผลิตภัณฑ์ธุรกิจระบบนำแสง กล่าวสุนทรพจน์หลัก

ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์