แซดทีอี คอร์ปอเรชัน (ZTE Corporation) (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ระดับโลกด้านโซลูชันโทรคมนาคม เทคโนโลยีระดับองค์กร และเทคโนโลยีผู้บริโภคสำหรับอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ประกาศจัดแสดงโซลูชันและแนวปฏิบัติด้านไอซีทีล้ำนวัตกรรมที่ทั้ง “เรียบง่าย เร็ว แต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” รองรับตลาด B2C, B2B และ Business to Home (B2H) ภายใต้ธีม “Inspire the Digital World” (จุดประกายโลกดิจิทัล) ที่งานโมบายล์เวิลด์คองเกรสประจำปี 2565 หรือ MWC 2022 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม ในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ในครั้งนี้ แซดทีอีได้สาธิตโซลูชั่นไอซีทีล่าสุดและแนวปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จที่บูธของทางบริษัท ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมยกระดับเครือข่าย (Network Enhancement), ส่งเสริมการเชื่อมต่อ (Beyond Connectivity), การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development), อนาคตแบบดิจิทัล (Digital Future) และชีวิตแบบดิจิทัล (Digital Life) โดยจัดโชว์ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ ๆ มากมาย ทั้งโซลูชันสำหรับไซต์ที่เรียบง่ายอย่าง UniSite NEO, เครื่องต้นแบบ 50G PON ที่แม่นยำเป็นรายแรกของอุตสาหกรรม, โซลูชัน GreenPilot, สมาร์ทโฟนระดับแฟล็กชิป Nubia Z40 Pro และซีรี่ส์ Blade V40 ระดับมิดและไฮเอนด์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5GB MBB รุ่นที่สี่
บริษัทจะเข้าร่วมใน 5 อีเวนต์ที่จัดโดยสมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) ซึ่งรวมถึงการประชุมสุดยอด 5G mmWave, การประชุมด้านความปลอดภัย 5G, การประชุม Digital Twin และอื่น ๆ นอกจากนี้ แซดทีอีได้เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ MWC 2022 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้รับแรงบันดาลใจจากข้อมูลเชิงลึกของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในแวดวงดิจิทัล และสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงกับ 4 อีเวนต์พิเศษ ได้แก่ 5G Growing, 50G PON Builds a Sustainable Development of Broadband Network, How Superb Networks Boost Value for CSPs ไปจนถึงการประชุม Cloud Network Core Capabilities and Innovation Achievements Global Conference ประจำปี 2565 นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมออนไลน์ยังสามารถสำรวจเนื้อหาที่น่าตื่นเต้น เช่น การสัมภาษณ์ผู้ใช้หลายคน วิดีโอตีความโซลูชันยอดนิยมโดยผู้เชี่ยวชาญ ทัวร์นิทรรศการแบบสด ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
เครือข่ายที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า
แซดทีอีมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าในการสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย ซึ่งตรงกับเป้าหมายและความต้องการสูงสุดของลูกค้าเอง ด้วยความสามารถด้านเครือข่ายอันทรงพลัง แซดทีอียังสามารถตอบสนองการใช้งานเครือข่ายตามความต้องการของลูกค้าและความต้องการในการใช้งานได้อีกด้วย
สำหรับการปรับใช้เครือข่ายไร้สาย แซดทีอีจะเปิดตัว UniSite NEO ซึ่งเป็นโซลูชันการปรับใช้ไซต์ที่เรียบง่ายใหม่ล่าสุด โดยใช้ชิปเซ็ตเจเนอเรชันใหม่ที่บริษัทออกแบบเอง UniSite NEO มาพร้อมอุปกรณ์ OMNI-UBR ให้นิยามใหม่ของแบบฟอร์มการปรับใช้ไซต์ ผลิตภัณฑ์ 5G AAU เจเนอเรชันถัดไปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดดเด่นด้วยน้ำหนักเบาที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยลดการใช้พลังงานของไซต์ทุกโหมดหลายความถี่ได้ถึง 40%
สำหรับเครือข่ายแบบมีสาย แซดทีอีนำเสนอเครือข่ายออปติคัลกว้างพิเศษสำหรับการเข้าถึงเครือข่ายแกนหลัก โดยมีต้นแบบ 50G PON ที่แม่นยำเป็นรายแรกของอุตสาหกรรม, 5-in-1 OTN ที่คุ้มค่า และโซลูชันระบบเชิงพาณิชย์ 1.2T OTN ที่มีอัตราสูงสุดในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มอบประสบการณ์ผู้ใช้ขั้นสูงสุด
เมื่อต้องเผชิญกับการปรับใช้เครือข่ายและการปฏิบัติงานและบำรุงรักษา (O&M) ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยยังคงยึดมั่นในแนวคิดการออกแบบ “ความชาญฉลาดภายในตัว ภาวะอิสระในโดเมนเดียว การทำงานร่วมกันข้ามโดเมน ความสามารถในการเปิดกว้าง และการร่วมสร้าง” แซดทีอีได้เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายอัตโนมัติ uSmartNet ซึ่งช่วยให้ลูกค้าก้าวไปสู่เครือข่ายอิสระระดับสูงได้
เครือข่ายส่วนตัวที่ปรับแต่งได้ในที่เดียว เพื่อยกระดับเครือข่ายให้ดีขึ้น
เมื่อเผชิญกับความท้าทายของสถานการณ์การใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และความซับซ้อนในการใช้งานที่สูง แซดทีอีได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่อย่าง “บริการเครือข่ายส่วนตัว” ซึ่งช่วยให้บรรดาผู้ให้บริการมอบบริการแบบ Order-to-Service ครบจบในที่เดียวได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพตลอดกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การวางแผนเครือข่ายและการปรับใช้ที่แม่นยำ ไปจนถึงการทำงานและการบำรุงรักษาที่คล่องตัว
โซลูชั่นเครือข่ายส่วนตัวของแซดทีอีเป็นโซลูชั่นแรกในอุตสาหกรรมที่บรรลุการผสาน 4G และ 5G, การรวมวอยซ์และดาต้า, การรวมระบบคลาวด์และเครือข่าย ตลอดจนทรัพยากรที่แบ่งปันอย่างเต็มรูปแบบ และการสร้างเครือข่ายที่ง่ายขึ้น นอกจากนี้ แซดทีอียังเปิดตัว i5GC แบบบูรณาการชั้นนำของอุตสาหกรรม รองรับการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์พร้อมเครือข่ายหลัก 5G ได้ครบชุด ทั้งยังรองรับเครือข่ายสาธารณะ การใช้งานเฉพาะและคลาวด์สาธารณะ เพื่อให้บริการเครือข่ายส่วนตัวที่คุ้มค่าที่สุด
เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานในอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น การป้องกันโครงข่ายไฟฟ้า การควบคุมอุตสาหกรรม งานโลจิสติกส์ท่าเรือ และการแพทย์ทางไกล แซดทีอีได้เสนอโซลูชัน Time Promised Communication (TPC) ซึ่งผสานรวมการควบคุมที่แม่นยำของ 5G TSN/5GLAN/URLLC/SLA ทำให้บรรลุความแม่นยำสูงสุดของอุตสาหกรรมโดยซิงโครไนซ์นาฬิกาไม่ถึง 1us และมีความล่าช้า (jitter) ต่ำมาก เวลาแฝงที่กำหนดต่ำมากเป็นพิเศษที่ 1-20ms และความน่าเชื่อถือสูงเป็นพิเศษมากกว่า 99.999% ทำให้ควบคุมเครื่องความแม่นยำไร้สาย 5G จากระยะไกลได้ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้โซลูชั่น TPC ทำให้แซดทีอีและควอลคอมม์ (Qualcomm) ประสบความสำเร็จในการสาธิตการใช้งาน 5G TSN บนสมาร์ทกริด ซึ่งช่วยเร่งการใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมหลัก
นอกจากนี้ แซดทีอียังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเองภายในบริษัท เช่น ส่วนประกอบ 5G AGV และแพลตฟอร์มคู่เสมือนดิจิทัลแบบ AR โดยบริษัทจับมือกับ ZPMC ในการเปิดตัวเกตเวย์วิดีโอแบบบูรณาการตัวแรกในฟิลด์พอร์ต แซดทีอีทำงานร่วมกับไชนา เทเลคอม (China Telecom) สาขาเสฉวน โดยได้เปิดตัวโครงการสาธิตซัพพลายเชนอัจฉริยะ 5G+ อย่าง “การกำหนดค่าคลังสินค้าบนคลาวด์” ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการเชิงพาณิชย์ของ 5G ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย ช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว
แซดทีอีอาศัยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไอซีทีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมแนวคิดสีเขียวในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีคาร์บอนต่ำ โดยมีส่วนสนับสนุนอย่างมากในการบรรลุเป้าหมายคาร์บอนคู่ขนานของทั้งสังคม
สำหรับผู้ปฏิบัติงานแล้ว แซดทีอีนำเสนอโซลูชัน GreenPilot ตลอดกระบวนการทั้งหมดของการจัดหา การจัดเก็บ การใช้และการจัดการพลังงาน เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสีเขียวคาร์บอนต่ำ
ในแง่ความปลอดภัยของเครือข่าย แซดทีอีปฏิบัติตามหลักการ 4 ประการ ได้แก่ การเปิดกว้าง ความโปร่งใส การกำกับดูแล และการปฏิบัติตามข้อกำหนด บริษัททำให้แน่ใจว่าทุกการเชื่อมต่อมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ และผ่านการประเมินและการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานภายนอกมาแล้วหลายราย
การเชื่อมต่อที่แพร่หลายช่วยผลักดันการสร้างอนาคตดิจิทัลสีเขียว
แซดทีอีมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์การใช้งานและความต้องการของตลาด เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง บริษัทนำการเชื่อมต่อที่แพร่หลายเพื่อต้อนรับโลกอนาคตที่งาน MWC 2022
ในแง่ของการเชื่อมต่อเครือข่ายออปติก สถาปัตยกรรม PON ดาวเทียมของแซดทีอีช่วยให้ครอบคลุมเครือข่ายออปติคัลเต็มรูปแบบด้วยต้นทุนที่ต่ำ โดยมีข้อดี เช่น การจัดการแบบรวมศูนย์ Plug-and-play และ TTM ที่สั้นลง ระบบออปติคัลแบบมัลติคอร์และโหมดไม่กี่โหมดของแซดทีอีก้าวข้ามขีดจำกัดของพื้นที่ทางกายภาพ และเพิ่มความจุเครือข่ายออปติคัลแบ็คโบนได้ถึง 100 เท่าจากระดับ T เป็นระดับ P
เมื่อเผชิญกับวิวัฒนาการของเครือข่ายการเข้าถึงแบบไร้สาย แซดทีอีได้เปิดตัวโซลูชัน ZTE RIS โซลูชันนี้ใช้พื้นผิวอัจฉริยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักของ 5G-Advanced และ 6G บริษัทเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับเครือข่าย 5G โดยครอบคลุมพื้นที่ร่วมของความถี่สูงและต่ำในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูง ดังนั้น โซลูชันจึงสามารถลดต้นทุนการปรับใช้ความถี่สูงได้อย่างมาก เช่น คลื่นมิลลิเมตร ลดระยะเวลาในวงจรการใช้งาน และลดการใช้พลังงานของเครือข่าย ในขณะที่เร่งการสร้างเครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำ และมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ แซดทีอียังให้บริการโซลูชั่น 5G ที่ครอบคลุมทุกหนทุกแห่ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้บนท้องฟ้าสูงถึง 10,000 เมตร และไกลถึง 100 กิโลเมตรในทะเล สัญญาณ 5G ถูกส่งด้วยความเร็ว 350 กม./ชม. ด้วยความจุที่ใหญ่มาก โซลูชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ 5G ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ชีวิตดิจิทัลสะดวกยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ปลายทางพร้อมอีโคซิสเต็มครบครัน มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ อันเป็นที่สุด
ที่งาน MWC 2022 แซดทีอีจะจัดการประชุมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และแสดงผลิตภัณฑ์เทอร์มินัลที่มีอีโคซิสเต็มครบครัน ซึ่งรวมถึงบุคคล ครอบครัว และอุตสาหกรรม โดยจะนำประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลและสมาร์ทมาสู่บุคคลและครอบครัว
ในส่วนของประสบการณ์การใช้งานเทอร์มินัลอินเทอร์เน็ตบนมือถือและโทรศัพท์มือถือนั้น แซดทีอีจะเผยโฉม Nubia Z40 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปรุ่นใหม่ที่มีเทคนิคการสร้างภาพแบบมนุษย์, Blade V40 ระดับพรีเมียม, Red Magic 7 ใหม่พร้อมประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและอุปกรณ์ต่อพ่วง, ซีรีส์ Axon พร้อมประสบการณ์ขั้นสุดยอดของตระกูลผลิตภัณฑ์ 5G MBB รุ่นที่ 4 ที่ติดตั้งแพลตฟอร์ม Snapdragon X65 และ X62 ตลอดจน Internet of Vehicles และผลิตภัณฑ์ปลายทางระดับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ จะเน้นที่ CPE คลื่นมิลลิเมตร 5G กำลังสูง ซึ่งมีอัตราการส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 10Gbps
สำหรับโซนประสบการณ์บ้านอัจฉริยะที่ MWC 2022 แซดทีอีจะโชว์ความสามารถทางเทคนิค นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และความร่วมมือทางการตลาดในด้านครอบครัวดิจิทัลให้ลูกค้าเห็น ด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายภายในบ้าน โซลูชันวิดีโอแบบครบวงจร สำนักงานคอมพิวเตอร์ในบ้านบนคลาวด์ และการขยายธุรกิจ
ปัจจุบัน 5G ถูกรวมเข้ากับการประมวลผลแบบคลาวด์/เอดจ์, บิ๊กดาต้า, AI, XR, วิทยาการหุ่นยนต์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ และการเปลี่ยนแปลงของการสร้างความชาญฉลาดในบ้านและการทำให้เป็นดิจิทัลขององค์กรยังคงเร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แซดทีอียึดมั่นในหลักการสำคัญอย่าง “เทคโนโลยีสร้างมูลค่า” และการวางตำแหน่งหลักเป็น “ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล” แซดทีอีเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันหลักอย่างต่อเนื่อง และทดลองใช้โซลูชันดิจิทัลเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และคุ้มค่ามากขึ้น และในอนาคตข้างหน้า แซดทีอีจะร่วมมือกับพันธมิตรในอีโคซิสเต็ม เพื่อผลักดันโมเมนตัมใหม่สู่โลกดิจิทัล
สื่อมวลชนติดต่อ:
มาร์กาเร็ต หม่า (Margaret Ma)
แซดทีอี คอร์ปอเรชัน
โทร: +86 755 26775189
อีเมล: [email protected]
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1755761/ZTE.jpg