บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ วางแผนขยายพอร์ตการลงทุนไปในธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้อย่างจริงจัง ล่าสุด สนับสนุนให้บริษัท วี เวนเจอร์ส เทคโนโลจีส์ จำกัด (VVT) ซึ่ง TTA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด (Cloudsec Asia) ผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ในสัดส่วนร้อยละ 10
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์สำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและดิจิทัลครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมต่างๆ จากข้อมูลของ TDRI แนวโน้มกระแสเทรนด์ดังกล่าวนี้จะเริ่มเห็นหลังการระบาดของโควิด-19 และจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าประเทศไทยจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการใช้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์
จากข้อมูลของ Stastica มูลค่าตลาดบริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 239,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 345,000 ล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การลงทุนภายในประเทศของไทยจะเป็นแรงผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ในประเทศไทย ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนของประเทศด้วย
Cloudsec Asia เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้แบบครบวงจร ที่มุ่งมั่นจะทำให้ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลทางไซเบอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานขององค์กรและประชาชน และเป็นบริษัทคลาวด์ซีเคียวริตี้ที่ให้บริการด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้คลอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Public Cloud หรือ Private Cloud โดยมีบริการแบบครบวงจรแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Cloud Security Solution, MDR Manage Detection and Respond (SOC) และ Cyber Security Services
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี เวนเจอร์ส เทคโนโลจีส์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มั่นใจว่าความปลอดภัยของข้อมูลในโลกไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ และทุกองค์กรจะต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้นอีกเพื่อประกันความเสี่ยงในการโดนโจรกรรมข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ เนื่องจากมีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ใช่พีซีมาทำงานร่วมกับกระบวนการทางธุรกิจหลักๆ แล้วมีการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ด้วย ดังนั้น เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการปกป้องข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนหรือข้อมูลที่ความสำคัญมากในองค์กร (Information Rights Management – IRM) จะมีโอกาสเติบโตสูง ส่วนปัจจัยที่จะผลักดันอุปสงค์นี้ ได้แก่ การเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลใหม่ๆ การใช้งานด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม เช่น การละเมิดข้อมูลของลูกค้าหรือการโจมตีซัพพลายเชน ฯลฯ สำหรับการเข้าลงทุนใน Cloudsec Asia ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายพอร์ตธุรกิจด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัทฯ เพราะเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้แบบบูรณาการของ Cloudsec Asia ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการเงินการธนาคาร ธุรกิจประกัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงธุรกิจค้าปลีก วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในประเทศไทยและในอาเซียน”
นายกฤษณยศ บูรณะสัมฤทธิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด (Cloudsec Asia)กล่าวว่า “Cloudsec Asia ได้นำมิติความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั้ง 3 มิติมาประยุกต์รวมกัน สร้างเป็นบริการที่แตกต่างครอบคลุมแบบ End-to-end มากกว่าที่จะทำหน้าที่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยทุกบริการสามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับเพียงอย่างเดียว หรือการตรวจจับพร้อมป้องกัน ก็สามารถทำได้แบบ Made to order ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีชั้นสูง เราจึงสามารถออกแบบบริการได้อย่างหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกขนาด ตั้งแต่กิจการขนาดเล็กแบบเอสเอ็มอีไปจนถึงบริษัทมหาชน บริษัท Cloudsec Asia กำลังวางแผนที่จะขยายธุรกิจด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ให้ครอบคลุมไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ด้วย เนื่องจากบริการด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้นับวันจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลกดิจิทัลใกล้ตัวและเชื่อมโยงผู้คนมากกว่าที่เคยเป็นมา ปัจจุบัน Cloudsec Asia ประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าตลาดได้เกือบถึง 1,000 ล้านบาท และอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการริเริ่มเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติมที่คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าตลาดของ Cloudsec Asia ให้เกิน 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2566”
ที่มา: Expertize PR & Communication