ม.มหิดล เดินหน้าภารกิจวิจัย”ราชพฤกษ์อวกาศ” เตรียมขยายผลวิจัยปลูกข้าวไทยนอกโลกเพื่อมวลมนุษยชาติ รับวิกฤติขาดแคลนอาหาร

นับตั้งแต่มีการสำรวจอวกาศ จากเมื่อครั้งที่ได้มีการเดินทางขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ครั้งแรกเป็นต้นมา ทุกเที่ยวบินอวกาศจะต้องมีการนำเอาเมล็ดพันธุ์พืชจากโลกติดไปด้วยทุกครั้ง

จากความเหลืองอร่ามเหมือนสีของทองคำของ “ดอกราชพฤกษ์” ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย ที่สะท้อนถึงความเป็น “สุวรรณภูมิ” หรือ “แผ่นดินทอง” ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นที่น่าภาคภูมิใจว่าครั้งหนึ่งเมล็ดพันธุ์ราชพฤกษ์ของไทยก็เคยได้เดินทางไปกับเที่ยวบินอวกาศเช่นกัน และได้กลับคืนสู่ดินแดนมาตุภูมิ ด้วยความหวังที่จะเห็นเมล็ดพันธุ์ราชพฤกษ์งอกงามเติบโตออกช่อดอกสีเหลืองอร่ามดั่งทองอีกครั้ง ณ ผืนแผ่นดินไทยบ้านเกิด จนเป็นที่เรียกขานว่า “ราชพฤกษ์อวกาศ”

อาจารย์ ดร.ทัฏพงศ์ ตุลยานนท์ อาจารย์ประจำกลุ่มสาขาวิชาชีวนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ฐานชีวภาพอัจฉริยะ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้นำ Plant Biology and Astrobotany (PBA) Lab ซึ่งให้การดูแล”ราชพฤกษ์อวกาศ” ณ โรงเรือนวิจัยปลูกพืชของคณะฯกล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดล โดย คณะวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมโครงการ Asian Herb in Space (AHiS) กับ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (Japan Aerospace Exploration Agency; JAXA) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือGISTDA ดำเนินโครงการ AHiS ระยะที่ 2 “ราชพฤกษ์อวกาศ” โดยส่งเมล็ดพันธุ์ราชพฤกษ์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) กับเที่ยวบินอวกาศ ภายใต้ภารกิจ SpaceX CRS-21 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 โดยเมล็ดพืชถูกเก็บรักษาไว้ในโมดูลคิโบ (KIBO) ของ JAXA จากนั้นถูกส่งกลับมายังโลกด้วยยาน SpaceX Cargo Dragon 2 ภายใต้ภารกิจ CRS-22 ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Aeronautics and Space Administration; NASA) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 มาวิจัย ณ โรงเรือนวิจัยปลูกพืชของคณะฯ เพื่อดูการงอกและเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์ “ราชพฤกษ์อวกาศ” เปรียบเทียบกับเมล็ดพันธุ์ราชพฤกษ์ทั่วไป

ความท้าทายอยู่ที่ปัจจัยแวดล้อมของการเดินทางในอวกาศและการรักษาเมล็ดพันธุ์ระหว่างการเดินทางที่ยาวนานในอวกาศ จะส่งผลต่อการงอกและเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์พืชจากโลกมากน้อยเพียงใด

เป็นที่ทราบกันดีว่าโดยปกติเมล็ดพันธุ์พืชจะงอกเติบโตหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสมดุลของ 3 ปัจจัย คือ แสง ดิน และน้ำซึ่งการเดินทางไปในอวกาศที่มีชั้นบรรยากาศเป็นสุญญากาศ และต้องเจอกับรังสีต่างๆ จากนอกโลก อาจส่งผลต่อการงอกและเติบโตของเมล็ดพันธุ์พืชที่นำไปด้วยได้หากไม่มีการใช้เทคโนโลยีการเก็บรักษาที่ดีพอ

นอกจากนี้ เมล็ดพันธุ์พืชจะไม่สามารถงอกเติบโตลำพังได้ในอวกาศ หากไม่นำลงปลูกในสถานีอวกาศที่มีการควบคุมแสงดิน และน้ำ ให้เหมาะสม ซึ่งผลจากการทดลองปลูก”ราชพฤกษ์อวกาศ” นี้ อาจสามารถต่อยอดขยายผลไปถึงการศึกษาวิจัยเพื่อนำเมล็ดพันธุ์ “ข้าว” ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารหลักของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวพันธุ์ไทย ไปทดลองปลูกยังสถานีอวกาศนอกโลก เพื่อรับมือวิกฤติขาดแคลนทรัพยากรอาหารที่อาจเกิดขึ้นกับโลกในอนาคตต่อไปได้อีกด้วย

ติดตามความคืบหน้าของโครงการฯ ได้ที่ Facebook : PBA Lab – Mahidol University https://www.facebook.com/PBALabMUSC

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล