ปัจจุบันผู้คนหันมาใช้เวลาบนออนไลน์มากขึ้น TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เพียงเพื่อความสนุกหรือความบันเทิง แต่ยังให้ความสำคัญกับการใช้แพลตฟอร์มเพื่อเป็นพื้นที่ในการส่งต่อพลังบวกและเรื่องราวดีๆ ให้แก่ผู้คนนับล้านทั่วโลก โดยที่ผ่านมา TikTok มุ่งสร้างชุมชนแห่งการแบ่งปันสิ่งดีๆ มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านคอนเทนท์บนแพลตฟอร์มและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ภายใต้แนวคิด ‘TikTok For Good’ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์แรงบันดาลใจและสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรและองค์กรชั้นนำใน 5 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) การศึกษา (Education) ความหลากหลายและยอมรับความแตกต่าง (Diversity and Inclusion) ความเป็นอยู่ที่ดีบนโลกดิจิทัล (Digital Wellbeing) และสิ่งแวดล้อม (Enviroment) โดยใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นสื่อกลางเพื่อจุดประกายและกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่เลือกทำสิ่งดีๆ ต่อโลกและผู้คนรอบตัวผ่านแคมเปญต่างๆ
‘TikTok For Good’ เป็นแนวคิดที่ TikTok นำมาใช้ขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมผ่านแคมเปญระดับโลกมากมายทั้งแคมเปญที่ TikTok ผลักดันและแคมเปญที่ร่วมมือกับองค์กรระดับโลกในทุกมิติ ทั้งมิติด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม อาทิ แคมเปญ World Food Program ที่ร่วมมือกับโครงการอาหารโลกผ่านแคมเปญ #invisiblemeal #อาหารที่มองไม่เห็น เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวิกฤตการณ์อาหารโลกและปัญหาความอดอยากที่เกิดขึ้นในทั่วทุกมุมโลกชวนคนรุ่นใหม่ร่วมแสดงพลังผ่านคลิปวิดีโอสั้นทำอาหารโดยไม่มีส่วนผสมของอาหาร เพื่อสร้างการรับรู้ถึงสภาวะความรุนแรงของวิกฤตการณ์ความอดอยากสู่การรวมพลังเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในอนาคต หรือ #HomeMeans แคมเปญที่ร่วมมือกับ UNHCR โครงการของสหประชาชาติ ชวนผู้คนแชร์ความหมายของคำว่าบ้าน เพื่อส่งกำลังใจให้ผู้ลี้ภัยทั่วโลก
TikTok ในประเทศไทย ไม่เพียงแค่เข้าร่วมแคมเปญระดับโลกเท่านั้น แต่ยังนำแนวคิด ‘TikTok For Good’ มาสานต่อ ร่วมมือกับพันธมิตรและองค์กรชั้นนำหลากหลาย เพื่อร่วมกันส่งเสริมและสร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยใช้คอนเทนท์บนแพลต์ฟอร์ม TikTok เป็นสื่อกลางในการส่งมอบพลังบวกและบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ให้กับผู้คน เพื่อตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้มากกว่าความบันเทิงแต่ยังมอบพลังบวกและชุมชนที่ดีให้กับผู้คน กับสรุปแคมเปญไฮไลท์ที่ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด ‘TikTok For Good’ ผ่านคอนเทนท์หลากหลายรูปแบบใน 5 มิติ ได้แก่
- เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy):TikTok ไม่เพียงให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์ความสนุกบนแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่ยังมุ่งพัฒนา Ecosystem บนแพลตฟอร์มให้เกิดความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการพัฒนานโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม TikTok สร้างสรรค์รูปแบบการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรชั้นนำระดับประเทศในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา, เศรษฐกิจ, คุณภาพชีวิต, สาธารณสุข และสังคม อาทิ
- ความร่วมมือกับ สสว. ติดอาวุธ SME ไทย พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจ SME ได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างรูปแบบการทำการตลาดและโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ และอินฟลูเอนเซอร์ไทย เพื่อให้เกิดการนำความรู้และเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างงานและอาชีพ พร้อมช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจ และผลิตคอนเทนท์คุณภาพสู่สังคมไทย โดยจับมือกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และความร่วมมือระหว่าง TikTok กับ กระทรวงพาณิชย์ โดย สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) มุ่งพัฒนาศักยภาพด้านออนไลน์ ผ่านการจัดอบรมและเวิร์กช้อปให้แก่ผู้ประกอบการ ให้สามารถดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การศึกษา (Education):เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายที่จะยกระดับแพลตฟอร์มให้เป็นมากกว่าชุมชนแห่งความสร้างสรรค์และบันเทิง เราจึงได้เห็นการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนท์ทางการศึกษาที่นำไปสู่การเรียนรู้อย่างมีสีสันและสนุกสนาน หรือเรียกว่า “Edutainment” ซึ่งเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม TikTok เสมอมา รวมไปถึงการใช้แพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือนำเสนอคอนเทนท์การศึกษาและให้ความรู้ในมิติใหม่ๆ จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ
- แคมเปญ #TikTokUniที่จับมือกับการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดโอกาสให้กับหน่วยราชการ สถาบันการศึกษา คุณครู นักเรียน และครีเอเตอร์ สามารถพัฒนาคอนเทนท์เพื่อการเรียนรู้แนวใหม่ในแบบวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok จนเกิดเป็นปรากฎการณ์ความสำเร็จแจ้งเกิดครีเอเตอร์การศึกษาดาวรุ่ง อย่าง ครูมัดซี รวมถึงแฮชแท็กยอดนิยมด้านการศึกษา อาทิ #เก่งภาษากับTikTok #วิทย์ที่คุณไม่รู้ #TikTokแนะแนว #สังคมต้องรู้ #ถ่ายไงได้งี้ เป็นต้น ทำให้ #TikTokUni มียอดวิวสูงถึง 6.8 หมื่นล้าน และมีจำนวนการสร้างสรรค์วิดีโอสูงถึง 9.9 ล้านวิดีโอ
- แคมเปญ #ไสหัวไปนายส่วนเกินการให้ความรู้เรื่องการตรวจหามะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดึงครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์ Music Challenge Song เพลง “Let’s Checkup” สอนวิธีตรวจมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านท่าเต้นสนุกๆ จนทำให้มียอดวิวสูงถึง 12.7 ล้าน พร้อมด้วยการสร้างสรรค์วิดีโอมากกว่า 930 วิดีโอ
- ความหลากหลายและยอมรับความแตกต่าง (Diversity and Inclusion):จุดแข็งของแพลตฟอร์ม TikTok คือการเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการแสดงออกทางความสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมบนความเท่าเทียมกันทางสังคม แสดงพลังขับเคลื่อนสังคมด้วยความเสมอภาคและเพิ่มความตระหนักถึงสิทธิต่างๆ ของสังคมในทุกมิติ ทั้งความเท่าเทียมทางเพศ ความเท่าเทียมทางความคิด เห็นได้จากหลากหลายแคมเปญตลอดปีที่ผ่านมา อาทิ
- แคมเปญ #DontTellMeHowToDressที่ TikTok ร่วมเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ในฐานะแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยรวมถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ชวนคนไทยแสดงพลังถึงสังคมให้รู้ว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปลอดภัยและไม่ถูกคุกคามไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร เพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งการเคารพซึ่งกันและกันให้แก่ผู้ใช้แพลตฟอร์ม ซึ่งมียอดวิวสูงถึง 34.6 ล้าน และมีจำนวนวิดีโอที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมากกว่า 2 พันวิดีโอ
- แคมเปญ #ForYourPrideแคมเปญระดับโลกที่เชิญชวนให้ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ได้มาร่วมแสดงออกและมีความเชื่อมั่นในตัวตนที่แตกต่างของตัวเอง และพร้อมที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนท์วิดีโอสั้น ซึ่ง TikTok ประเทศไทยก็ต่อยอดโดยการชวนหล่าครีเอเตอร์ LGBTQ+ ชื่อดังมาร่วมสร้างสรรค์ไลฟ์คอนเทนท์ผ่าน TikTok LIVE และรวมมือกับหน่วยงานรณรงค์สิทธิทางเพศและองค์กรชั้นนำต่างๆ ในการรวมพลังเพื่อจุดประกายให้เกิดการยอมรับความหลากหลายทางสังคม ได้แก่ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน, TestBKKและ Universal Music Thailand ซึ่งนอกจากจะมียอดวิวสูงถึง 6 พันล้านแล้ว ยังมีการสร้างสรรค์วิดีโอสูงถึง 6.2 แสนวิดีโอ
- ความเป็นอยู่ที่ดีบนโลกดิจิทัล (Digital Wellbeing): การส่งเสริมให้เกิดสุขภาวะดิจิทัลและการให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับเยาวชนเป็นสิ่งที่TikTok ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยและสร้างสุขภาวะจิตที่ดีให้กับผู้คนบนแพลตฟอร์ม ส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องสุขภาพจิต ไปจนถึงการสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างมีความรู้และปลอดภัย ผ่านความร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานระดับโลกในแคมเปญต่างๆ อาทิ
- แคมเปญ #CreateKindnessที่ปลุกกระแสผู้คนส่งมอบมิตรไมตรีให้แก่กันบนโลกออนไลน์ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนท์วิดีโอสั้น แบ่งปันเรื่องราวการถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์และวิธีการรับมือกับปัญหาต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดพลังบวกแก่ผู้คนทั่วโลก และสร้างสรรค์คอนเทนท์วิดีโอ “From Meanies to Goodies” จากครีเอเตอร์ชื่อดังทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านประเทศไทยก็ได้ครีเอเตอร์สายการศึกษา “ครูพี่แอน @krupann.english” มาร่วมแชร์ประสบการณ์ พร้อมต่อยอดแคมเปญชวนครีเอเตอร์คนดังแสดงพลังผ่านธีม “คอมเมนต์นี้ดีต่อใจ” จับมือกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ กรมสุขภาพจิต และ สำนักส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล บอกเล่าประสบการณ์ดีต่อใจที่เคยได้รับจากคอนเมนต์ดีๆ ที่มีความหมาย เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ถึงคุณค่าและผลกระทบของคอมเมนต์ที่ส่งถึงกันและเกิดการริเริ่มในการส่งต่อมิตรไมตรีให้แก่กันในโลกออนไลน์ จนทำให้มียอดวิวสูงถึง 1.4 พันล้าน ในขณะเดียวกันก็มีการสร้างสรรค์วิดีโอสูงถึง 1.03 แสนวิดีโอ
- ไม่เพียงเท่านั้น TiKTok ยังร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต และ Samaritans Thai เปิดพื้นที่ให้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตผ่าน Live Streaming ทาง TikTok LIVE ที่รณรงค์ให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการสร้างสุขภาพจิตที่ดี เนื่องใน “วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก (World Suicide Prevention Day)” และ “วันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day)” ภายใต้แคมเปญ #ดูแลใจไปด้วยกันหรือ #mentalhealthawareness ที่มียอดวิวสูงถึง 6 พันล้าน และมีวิดีโอที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นสูงถึง 1.4 ล้านวิดีโอ โดยทั้ง 2 แคมเปญมีกระแสตอบรับดีจากจำนวนผู้ชมไลฟ์สูงถึงกว่า 30,000 คน รวมถึงการสร้างความเข้าใจเรื่องความสำคัญของความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ผ่านแคมเปญ #ไพรเวทสิ เรื่องของเรา อย่าให้เค้าเอาไป จับมือกับ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยและสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย
- สิ่งแวดล้อม (Environment):ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ปัญหาสัตว์ป่าที่สร้างผลกระทบต่อสังคมและโลก ถูกยกให้เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ TikTok พร้อมจะมีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี อาทิ
- แคมเปญ #ฉลองไม่ฉลามร่วมมือกับ Wild Aid Thailand กระตุ้นเตือนให้ผู้คนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกและรณรงค์ปกป้องฉลามทั่วโลก ด้วยการอ่านเรื่องด่วนของฉลามให้ไปถึง ‘หู’ ทุกคน ทำให้มียอดวิวสูงถึง 22.5 ล้าน และมีการสร้างสรรค์วิดีโอมากกว่า 3 พันวิดีโอ
- แคมเปญ #อิ่มดีรักษ์โลก”โครงการรณรงค์ร่วมสร้างระบบอาหารยั่งยืนในประเทศไทย” ที่ TikTok จับมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยสำนักการเกษตรต่างประเทศ (BOFFA) ท้านักสร้างสรรค์ครีเอทวิดีโอสั้นทำเมนูโละตู้เย็นจากวัตถุดิบที่เหลือในบ้าน พร้อมแชร์เคล็ดลับ วิธีแก้ไขการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และขยะที่เกิดจากอาหาร (Food Waste) ทำให้มียอดวิวสูงถึง 16.4 ล้าน และยังมีจำนวนการสร้างสรรค์วิดีโอสูงถึง 1.6 พันวิดีโอ
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญสร้างสรรค์สังคม #BetterBattle เปิดก่อนได้เปรียบ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์รูปแบบใหม่ที่ดึง NGO มาร่วมเพื่อช่วยสนับสนุนการใช้ TikTok ในการสร้างการรับรู้ (Awareness) ไปสู่การกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to Action) ซึ่งเป็นตัวอย่างแคมเปญภายใต้แนวคิด TikTok For Good ที่ขับเคลื่อนโดยมีครบทั้ง 5 มิติ ได้แก่ Digital Economy, Education, Diversity and Inclusion, Digital Wellbeing และ Environment โดยร่วมกับมูลนิธิเพื่อคนไทย และร้อยพลังเปลี่ยนประเทศ จัดประกวดแข่งขันคิดแคมเปญสร้างสังคมดี ที่ยิ่งแข่งกัน สังคมยิ่งดีกว่าเดิม เปิดโอกาสให้ 30 องค์กรภาคีภาคสังคมได้ร่วมเวิร์คชอป จัดทำไอเดียสนุกๆ และส่งข้อเสนอแผนแคมเปญสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมที่ทำได้บนแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งมียอดวิวสูงถึง 7.2 ล้าน รวมถึงการสร้างสรรค์วิดีโอมากกว่า 370 วิดีโอ
สำหรับเป้าหมายที่จะสร้างประโยชน์ให้กับสังคมภายใต้แนวคิด ‘TikTokFor Good’ ยังแสดงให้เห็นผ่านแคมเปญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของ COVID ด้วยการสร้างความตระหนักและให้ความสำคัญของการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือเกี่ยวกับ COVID ผ่านชาเลนจ์ต่างๆ อาทิ
- #Safehand #ล้างมือ40วิ ที่มียอดวิวสูงถึง 5.5 พันล้าน และมีการสร้างสรรค์วิดีโอสูงถึง 2.4 หมื่นวิดีโอ หรือ #อย่าเพิ่งจับอย่าเพิ่งทัช กับยอดวิวที่สูงถึง 27.9 ล้าน พร้อมด้วยจำนวนการสร้างสรรค์วิดีโอมากกว่า 3 พันวิดีโอ ที่ชวนคนมาทำคลิปโชว์ไอเดียการทำความสะอาดและหลีกเลี่ยงจุดสัมผัส COVID #จัดบ้านจัดใจ ที่รณรงค์การจัดบ้าน และสำรวจจิตใจตัวเองให้รู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ซึ่งมียอดวิวถึงสูงถึง 18.4 ล้าน พร้อมด้วยวิดีโอที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมากกว่า 1 พันวิดีโอ รวมถึง #เก้าอี้เสกร่าง ที่รณรงค์ในเรื่องการออกกำลังกายที่บ้านต้าน COVID ฟิตแอนด์เฟิร์มห่างไกลออฟฟิศซินโดรม ที่มียอดวิวมากถึง 5.8 ล้าน และจำนวนการสร้างสรรค์วิดีโอมากกว่า 980 วิดีโอ
- การช่วยเหลือร้านอาหาร ในแคมเปญ #เซฟร้านทั่วไทยกับtiktok ที่เปิดโอกาสให้เหล่าครีเอเตอร์ ร่วมช่วยเหลือร้านอาหารายย่อยให้ผ่ายพ้นวิกฤตไปด้วยกัน ผ่านการสร้างคอนเทนท์รีวิวบอกต่อหรืออุดหนุนร้านโปรดประจำตัวตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งมียอดวิวสูงถึง 1 พันล้าน ในขณะเดียวกันมีผู้เข้าร่วมด้วยการสร้างสรรค์วิดีโอถึง 1.7 ล้านวิดีโอ
และยังสนับสนุนในการช่วยเพิ่มการมองเห็นคอนเทนท์หรือเนื้อหาสำหรับ 4 องค์กรชั้นนำได้แก่ ไทยรู้สู้โควิด (@thaimoph), สสส. (@thaihealth), กรมสุขภาพจิต (@thaidmh) และ Creative Citizen (@creativecitizen) เพื่อให้เกิดการเผยแพร่คอนเทนท์ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ให้กับผู้คนวงกว้างในช่วง COVID
ทั้งหมดนี้เป็นสรุปแคมเปญไฮไลท์ส่วนหนึ่งภายใต้แนวคิด ‘TikTok For Good’ ที่เกิดขึ้นในปี 2021 จาก TikTok แพลตฟอร์มที่หลายองค์กรเลือกใช้ในการสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ผ่านแคมเปญต่างๆ นับจากนี้ไป TikTok ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสร้างประโยชน์ดีๆ ให้กับสังคมผ่านแนวคิด ‘TikTok For Good’ ต่อไป เพื่อสร้างชุมชนที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ชุมชนที่ผู้คนมีจิตใจที่เข้มแข็ง และชุมชนเดียวกัน
นี่เองจะเต็มไปด้วยพลังบวกและแรงบันดาลใจดีๆ ที่พร้อมจะแชร์และส่งต่อให้แก่กันไม่รู้จบ
ที่มา: ชมฉวีวรรณ