- Quantum Origin เป็นสินค้าตัวแรกของโลกที่สร้างโดยควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซึ่งมอบผลลัพธ์ที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปให้ไม่ได้
- Quantum Origin เป็นแพลตฟอร์มแรกที่สร้างกุญแจเข้ารหัสลับโดยใช้ศักยภาพของควอนตัมคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างหลักประกันว่าข้อมูลจะได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความซับซ้อน
- ปกป้องข้อมูลขององค์กรและหน่วยงานรัฐบาลจากภัยคุกคามด้านความมั่นคง ซึ่งเกิดจากปัญหาการใช้ระบบสุ่มตัวเลข (RNG) ที่ไม่รัดกุม
- Quantum Origin ยังช่วยป้องกันการโจมตีแบบ “hack now, decrypt later” ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต
- กุญแจเข้ารหัสลับเชิงควอนตัมที่สร้างขึ้นโดย Quantum Origin จะเป็นการสุ่มควอนตัมแบบค่าสุ่มจริง และใช้งานได้กับระบบที่มีอยู่เดิม โดยกระบวนการทั้งหมดจะใช้ฟีเจอร์ Entanglement ซึ่งเป็นกลไกทางควอนตัมแบบพิเศษ
- Quantum Origin รองรับการใช้งานอัลกอริทึมแบบดั้งเดิม อาทิ RSA หรือ AES รวมถึงอัลกอริทึมการเข้ารหัสลับแบบ Post-quantum ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐ (NIST)
Cambridge Quantum (CQ) ผู้นำซอฟต์แวร์ควอนตัมระดับโลกในเครือ Quantinuum ซึ่งเป็นบริษัทประมวลผลควอนตัมแบบบูรณาการชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัว Quantum Origin แพลตฟอร์มสร้างกุญแจเข้ารหัสลับตัวแรกของโลกที่ใช้ระบบการสุ่มควอนตัมแบบค่าสุ่มจริง อีกทั้งยังเป็นสินค้าตัวแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์เทคโนโลยี NISQ (Noisy Intermediate-Scale Quantum) และได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลทั่วโลกจากภัยคุกคามด้านการเข้ารหัสทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ระบบการสุ่มมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโซลูชันความมั่นคงทางข้อมูลในปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยปกป้องระบบจากภัยคุกคามด้านควอนตัมในอนาคต เนื่องจากการโจมตีดังกล่าวจะทำให้วิธีการสร้างตัวเลขสุ่มแบบ Deterministic นั้นอ่อนแอลงมากกว่าเดิม รวมถึงวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ค่าสุ่มจริงและไม่ได้มาจากเทคโนโลยีควอนตัม
ระบบในปัจจุบันได้รับการปกป้องด้วยมาตรฐานการเข้ารหัสที่เรียกว่า RSA และ AES ความยืดหยุ่นของระบบนั้นขึ้นอยู่กับการที่ไม่สามารถ “แยก” สายที่เกิดจากการสร้างตัวเลขแบบสุ่ม (RNG) ได้ อย่างไรก็ตาม ระบบ RNG ในปัจจุบันนั้นยังขาดการสุ่มตัวเลขแบบสุ่มค่าจริงอยู่ ซึ่งตัวเลขที่สร้างขึ้นมานั้นอาจจะยังไม่แข็งแรงพอและยังคาดเดาได้อยู่ ด้วยเหตุนี้ RNG จึงเป็นจุดอ่อนในการโจมตีทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ปัจจุบันภัยคุกคามจากการโจมตีด้านควอนตัมยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังกระตุ้นให้แฮกเกอร์ขโมยข้อมูลที่ถูกส่งต่อบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาถอดรหัสในภายหลังโดยใช้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกการโจมตีในรูปแบบนี้ว่า “hack now, decrypt later”
Quantum Origin เป็นแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ช่วยปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยใช้กลไกควอนตัมที่มีลักษณะคาดเดาไม่ได้มาสร้างกุญแจเข้ารหัสลับเชิงควอนตัมแบบสุ่มค่าจริงจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ H-Series ของ Quantinuum ซึ่งขับเคลื่อนโดย Honeywell นอกจากนี้ Quantum Origin ยังรองรับอัลกอริทึมแบบดั้งเดิม อาทิ RSA หรือ AES รวมถึงอัลกอริทึมการเข้ารหัสลับแบบ Post-quantum ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐ (NIST)
“เราทำงานมาหลายปีแล้ว เพื่อให้ใช้ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อปกป้องลูกค้าของเราจากศัตรูและอาชญากรทั้งในปัจจุบันและอนาคตเมื่อควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นที่แพร่หลาย” อิลยาส ข่าน ซีอีโอของ Quantinuum และผู้ก่อตั้ง Cambridge Quantum กล่าว พร้อมเสริมว่า “Quantum Origin ช่วยให้เราปลอดภัยจากภัยคุกคามที่ซับซ้อนและทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงภัยคุกคามจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ในอนาคต”
ดันแคน โจนส์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์จาก Cambridge Quantum กล่าวว่า “เมื่อเราพูดถึงการปกป้องระบบโดยใช้เทคโนโลยีควอนตัม เราไม่ได้หมายถึงการปกป้องจากภัยคุกคามในอนาคตเพียงเท่านั้น เพราะภัยคุกคามเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแฮกกวาดล้างองค์กรต่าง ๆ ไปจนถึงแฮกเกอร์ระดับประเทศ และความกังวลที่อาจถูกโจมตีแบบ “แฮกตอนนี้ ถอดรหัสภายหลัง” ซึ่งหลายอย่างก็น่าจะคงอยู่ไปอีกนาน องค์กรที่รับผิดชอบจำเป็นต้องใช้การป้องกันทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปกป้องสูงสุดในระดับการเข้ารหัสทั้งในวันนี้และวันหน้า”
กุญแจที่ยกระดับด้วยควอนตัมตามต้องการ
ด้วย Quantum Origin เมื่อองค์กรต้องสร้างกุญแจที่ยกระดับด้วยควอนตัม ก็เรียกใช้ได้ผ่าน API โดย Quantum Origin สร้างกุญแจก่อนที่จะทำการเข้ารหัสด้วยกุญแจการขนส่ง และส่งกลับไปยังองค์กรอย่างปลอดภัย และเพื่อให้องค์กรต่าง ๆ เชื่อมั่นได้ว่า กุญแจที่เข้ารหัสของพวกเขาไม่สามารถคาดเดาได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ Quantum Origin จึงทดสอบผลที่ได้ทั้งหมดจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้แน่ใจว่ากุญแจแต่ละตัวได้รับมาจากการสุ่มแบบควอนตัมที่ตรวจสอบได้
จากนั้นกุญแจเหล่านี้จะผสานรวมกับระบบที่มีอยู่เดิมของลูกค้าได้โดยง่าย เพราะอยู่ในรูปแบบที่รองรับระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม แนวทางแบบครบวงจรนี้ทำให้แน่ใจว่ากุญแจสร้างขึ้นได้ตามต้องการ และปรับขนาดตามการใช้ได้ โดยยังคงปลอดภัยแน่นหนา
Quantum Origin ในการใช้งานจริง
กุญแจ Quantum Origin เหมาะกับการนำไปใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง ในตอนเปิดตัวนั้น CQ จะเสนอ Quantum Origin ให้แก่บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก่อนจะขยายไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ ที่มีความสำคัญสูง เช่น โทรคมนาคม พลังงาน การผลิต กลาโหม และรัฐบาล
เทคโนโลยีดังกล่าวมีการนำไปใช้แล้วในหลาย ๆ โปรเจกต์ของพันธมิตร เช่น Axiom Space ใช้ Quantum Origin เพื่อทำการทดสอบการสื่อสารที่ถูกเข้ารหัสแบบ post-quantum ระหว่าง ISS กับโลก โดยส่งข้อความ “Hello Quantum World” กลับสู่โลกที่เข้ารหัสด้วยกุญแจ post-quantum ที่ได้จากการสุ่มแบบควอนตัมที่ตรวจสอบได้ ขณะที่ Fujitsu ผนวกรวม Quantum Origin ลงใน software-defined wide area network (SDWAN) ด้วยการใช้กุญแจที่ยกระดับด้วยควอนตัมควบคู่ไปกับอัลกอริทึมแบบดั้งเดิม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- กรณีตัวอย่างจากพันธมิตรที่ใช้ Quantum Origin
- แบบสำรวจผู้นำระดับโลกของ Cambridge Quantum/Dimensional Research
- ข้อมูลจำเพาะของ Quantum Origin
เกี่ยวกับ Cambridge Quantum
Cambridge Quantum ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์ควอนตัมและอัลกอริทึมควอนตัมที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากฮาร์ดแวร์ควอนตัมคอมพิวติ้งที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Quantinuum ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก Cambridge Quantum มีสำนักงานในยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CQ ได้ที่ http://www.cambridgequantum.com และ LinkedIn เข้าถึงซอร์สโค้ด lambeq, TKET, Python และอื่น ๆ ได้ที่ GitHub
เครื่องหมายการค้า Powered by Honeywell นำมาใช้โดยได้รับการอนุญาตจาก Honeywell International Inc. ซึ่งทาง Honeywell ไม่ได้เป็นตัวแทนหรือรับรองในส่วนที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการนี้