- การเติบโตของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC ส่งผลให้มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพโดยโปรเซสเซอร์ AMD เพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ระหว่างงานประชุม Supercomputing Conference 2021 หรือ SC21 – AMD (NASDAQ: AMD) ได้เผยให้เห็นความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมที่ต้องการการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ด้วยนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมและการนำผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ดกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ของ AMD มาใช้ ลูกค้าในอุตสาหกรรม HPC ยังคงมีการขยายการนำโปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct มาใช้ในการขับเคลื่อนงานวิจัยที่ล้ำสมัย ซึ่งจำเป็นต่อการรับมือกับความท้าทายยิ่งใหญ่ของโลก เช่น สภาพอากาศ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ยารักษาโรค และในด้านอื่นๆ
การเติบโตของ AMD แสดงให้เห็นจากรายชื่อการจัดอันดับ Top500 ครั้งล่าสุด ในปัจจุบัน มีการนำผลิตภัณฑ์ AMD ไปใช้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์จำนวน 73 เครื่อง เปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2563 ที่มีเพียง 21 เครื่องเท่านั้น หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ 10 อันดับแรกของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ AMD อยู่ถึง 4 เครื่อง รวมไปถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) โดยโปรเซสเซอร์ซีรีย์ AMD EPYC 7003 ที่เปิดตัวไปเมื่อแปดเดือนก่อนหน้านี้ ถูกนำมาใช้บนซูเปอร์คอมพิวเตอร์จำนวน 17 เครื่องจากจำนวน 75 เครื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับด้านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นล่าสุดอย่างรวดเร็ว
ฟอเรสต์ นอร์ร็อต รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Data Center และ Embedded Solution Business บริษัท AMD กล่าวว่า “ความต้องการของผู้ใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่โลกก็พยายามเร่งการค้นคว้า และลดระยะเวลาในการค้นหาข้อมูล เรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct เพื่อขยายขอบเขตของเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิจัยให้รวดเร็วยิ่งขึ้น มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกมากขึ้น”
AMD ยังได้รับรางวัลประจำปี HPCwire Readers’s และ Editors’ Choice Award จากงาน SC21 ด้วย โดย AMD ได้รับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 10 รางวัล ประกอบด้วย Best Sustainability Innovation in HPC, Best HPC Server Product และ Outstanding Leadership in HPC Award ซึ่งมอบให้แก่ ดร.ลิซ่า ซู ประธานและซีอีโอ บริษัท AMD
การขยายฐานลูกค้า
AMD มีส่วนร่วมอย่างมากกับอุตสาหกรรมด้าน HPC ในการส่งมอบประสิทธิภาพบนผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct ให้เข้ากับระบบนิเวศน์แบบเปิด ROCm เพื่อเพิ่มความเร็วในด้านการวิจัยให้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง เช่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Frontier” ในห้องปฎิบัติการ Oak Ridge National Laboratory โดย AMD กำลังนำเทคโนโลยีการประมวลผลและความต้องการด้านประสิทธิภาพเข้ามารองรับการพัฒนางานด้านการวิจัยทั่วโลกในปัจจุบันและในอนาคต จุดเด่นของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Frontier” และระบบ HPC ใหม่ ในอุตสาหกรรม ประกอบด้วย:
- “Adastra” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ HPE ที่มี 2 พาติชั่นที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลโดยโปรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ด AMD เปิดตัวโดย GENCI หน่วยงานด้าน HPC ประเทศฝรั่งเศส และ CINES หน่วยงานแห่งชาติด้านการประมวลผลระดับอุดมศึกษา พาติชั่นแรกของ Adastra ใช้ขุมพลังของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นใหม่ โค้ดเนม “Genoa” และพาติชั่นที่สองใช้โปรเซสเซอร์ 3rd Gen AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct MI250x
- ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นทดสอบ “Polaris” ในห้องปฎิบัติการแห่งชาติ Argonne National Laboratory ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ซีรีย์ AMD EPYC 7003 ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์และนักพัฒนารับมือกับโครงการด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ได้อย่างกว้างขวาง
- ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่ที่สร้างขึ้นโดย HPE ใช้ขุมพลังการประมวลผลโปรเซสเซอร์ AMD EPYC เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการพยากรณ์อากาศและการวิจัยสภาพอากาศให้กับ National Center of Meteorology ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย HPE ยังคงอัปเดตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Eni เพื่อเร่งประสิทธิภาพการค้นพบแหล่งพลังงานต่าง ๆ ผ่านขุมพลังการประมวลผลโปรเซสเซอร์ AMD EPYC
- “Frontier” คอมพิวเตอร์ระดับ exascale ของ Oak Ridge National Laboratory – ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลโดยโปรเซสเซอร์ 3rd Gen AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct MI250x
- Texas Advanced Computing Center ของมหาวิทยาลัย University of Texas ในออสติน เปิดตัว “Lonestar6” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของบริษัท Dell Technologies ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลโดยโปรเซสเซอร์ซีรีย์ AMD EPYC 7003
- Advanced Computing Core ของมหาวิทยาลัย University of Vermont ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลโดยโปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct เพื่อนำมาใช้ในงานวิจัยเกี่ยวกับโรค COVID-19 และโซลูชั่นการแก้ปัญหาภัยคุกคามต่าง ๆ ระดับโลกที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในอนาคต
- เทคโนโลยีการทำคลัสเตอร์ขั้นสูงของมหาวิทยาลัย Washington University ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลโดยโปรเซสเซอร์ AMD EPYC เพื่อนำมาศึกษาเกี่ยวกับโรค COVID-19 และเป็นที่ตั้งโครงการ Folding@home
ปีแห่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการวิจัย
ปีนี้ AMD เปิดตัวผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ซีรีย์ AMD EPYC 7003 โปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก นับตั้งแต่วันเปิดตัว พาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมต่างๆ นำไปใช้อย่างแพร่หลายเพื่อผลักดันการค้นคว้าในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านชีวการแพทย์ การทำนายภัยพิบัติทางธรรมชาติ, พลังงานทดแทน เซมิคอนดักเตอร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และในด้านอื่นๆ
เร็ว ๆ นี้ AMD ได้แสดงตัวอย่างการทดสอบโปรเซสเซอร์ 3rd Gen EPYC with AMD 3D V-cache ซึ่งเป็นการพัฒนาฟีเจอร์ของโปรเซสเซอร์ซีรีย์ AMD EPYC 7003 ด้วยการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเลเยอร์ในแคช L3 ของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC 7003 เทคโนโลยี AMD 3D V-cache นำเสนอประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในเวิร์คโหลดด้านการประมวลผลทางเทคนิคที่มีความแพร่หลายในงานด้าน HPC โดยเครื่องเวอร์ชวลแมชชีน Microsoft Azure HPC ที่ใช้ขุมพลังการประมวลผลโปรเซสเซอร์ 3rd Gen EPYC with AMD 3D V-Cache พร้อมให้ใช้งานแล้วในรูปแบบ Private Preview และจะพร้อมให้ใช้งานทั่วโลกเร็ว ๆ นี้
AMD ยังได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดสำหรับงานด้าน HPC และ AI ที่รวดเร็วที่สุดโลกในชื่อ AMD Instinct MI250X ได้รับการออกแบบบนสถาปัตยกรรม AMD CDNA 2 โดยกราฟิกการ์ดซีรีย์ AMD Instinct MI200 เสนอประสิทธิภาพรูปแบบ FP64 เพิ่มขึ้นสูงสุด 4.9 เท่า เมื่อนำไปเทียบกับกราฟิกการ์ดดาต้าเซ็นเตอร์คู่แข่ง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการประมวลผลด้าน HPC เช่น การจำลองสภาพอากาศ2 ผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ดซีรีย์ AMD Instince MI200 เป็นกราฟิกการ์ดตัวแรกที่มีความจุหน่วยความจำแบนด์วิดท์มากกว่า 100GB โดยส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.2 เทราไบต์ต่อวินาที ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดที่มีแบนด์วิดท์ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง