หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ (CSA) ของประเทศสิงคโปร์ได้เปิดตัวโครงการใหม่ความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศสิงคโปร์ (SG Cyber Safe Partnership Programme) ภายในงาน Singapore International Cyber Week (SICW) 2021 โดยได้ร่วมมือกับบริษัทผู้นำด้าน ICT ระดับโลกอย่างหัวเว่ย ในฐานะหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่เป็นตัวแทนสำหรับการสนับสนุนช่วยเหลือองค์กรธุรกิจต่างๆ ของประเทศสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่มาตรการป้องกันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
ทั้งนี้ แขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานดังกล่าว ได้แก่ คุณทาน เกียต โฮว รัฐมนตรีด้านการสื่อสารและสารสนเทศ ได้ส่งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่คุณฟู ฟาง ยง ประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย อินเตอร์แนชันแนล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่าง CSA กับหัวเว่ย อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งโครงการนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทเพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่หน่วยงาน CSA ได้เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภาพรวมของประเทศ
ในฐานะที่หัวเว่ยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของของโครงการนี้ในฐานะผู้สนับสนุน หัวเว่ยจะร่วมมือกับทาง CSA อย่างแข็งขันและลงลึกถึงรายละเอียดผ่านการพัฒนาโครงการร่วมกันและการขยายผลไปสู่องค์กรธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนภารกิจด้านความปลอดภัยทางไซบอร์ของสิงคโปร์อีกทางหนึ่ง โดยหัวเว่ยจะทำงานร่วมกับ CSA เพื่อร่วมกันจัดตั้งงานสัมนาออนไลน์ (webinar) สำหรับภาคองค์กรธุรกิจในประเทศในหัวข้อที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้แก่ การสำรองข้อมูลขององค์กรธุรกิจและการปกป้องข้อมูล เป็นต้น นอกจากนี้หัวเว่ยยังจะพัฒนาคอนเทนท์ที่เต็มไปด้วยสาระความรู้สำหรับใช้เผยแพร่บนช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook และ LinkedIn ของหัวเว่ยในประเทศสิงคโปร์ เพื่อยกระดับความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ธุรกิจและชุมชนในประเทศสิงคโปร์ในวงกว้าง
ในการร่วมมือครั้งนี้ หัวเว่ยยังจะเข้าให้คำปรึกษาในฐานะตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงาน CSA เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางที่ทาง CSA นำเสนอในเรื่องเครื่องหมายแห่งความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศสิงคโปร์ (SG Cyber Safe Trustmark) และเครื่องหมายด้านปลอดภัยทางไซเบอร์ (mark of cyber hygiene)
“เมื่อมีจำนวนองค์กรธุรกิจที่ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องมีองค์ความรู้และอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างครบครัน เพื่อให้สามารถรับรู้ได้ถึงภัยทางไซเบอร์และหาทางลดความเสี่ยงจากโปรแกรมแรนซัมแวร์และการโจมตีด้านซัพพลายเชนได้ โดยการจะสร้างโลกไซเบอร์ที่มีความปลอดภัยและมีระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งได้นั้น จะต้องอาศัยการร่วมมือกันระหว่างผู้เล่นและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนในชุมชน เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงาน CSA ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศสิงคโปร์ เรามุ่งหวังที่จะได้ทำงานร่วมกันกับ CSA อย่างใกล้ชิดและทำหน้าที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มีความรับผิดชอบ ทั้งยังช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่ธุรกิจต่างๆ ด้วยโซลูชัน เครื่องมือ และองค์ความรู้ในการเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์” คุณฟูกล่าว
ที่มา: คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์