ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีความตื่นตัวและความต้องการเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ DeepTech ซึ่งเทคโนโลยีนี้ มีศักยภาพมากพอจะช่วยผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีในประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น นอกจากนั้น DeepTech ยังเป็นที่สนใจและสามารถดึงดูดนักลงทุนได้เพราะ DeepTech คือเทคโนโลยี ขั้นสูงที่ถูกสร้าง ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะด้าน ซึ่งจะเกิดจากการนำเทคโนโลยีเดิมมาประยุกต์ใช้ในเชิงลึก โดยมีรากฐานในทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมขั้นสูงที่มีประสิทธิภาพและยากต่อการลอกเลียนแบบ และสามารถดึงดูดการลงทุนได้เพราะถือเป็นธุรกิจที่มี ทรัพย์สินทางปัญญาที่มีคุณค่าและเน้นการแก้ปัญหาขนาดใหญ่ในสังคมถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงทั้งในเชิงเทคนิคและการตลาดอีกทั้งการวิจัยและการพัฒนายังต้องใช้ระยะเวลานานและมีค่าใช้จ่ายที่สูงแต่การลงทุนเพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจก็ยังคงดำเนินต่อไป จากรายงานของ Hello Tomorrow และ Boston Consulting Group ในปี 2021 การลงทุนใน DeepTech เติบโตเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัวในปี 2016 จาก 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020
Techsauce หนึ่งในผู้ก่อตั้งระบบนิเวศทางเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย ได้ผนึกกำลังกับ Hello Tomorrow Asia Pacific ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบนิเวศด้าน DeepTech ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับองค์กรในประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ Startup ด้าน DeepTech ซึ่ง Techsauce และ Hello Tomorrow Asia Pacific จะร่วมมือเพื่อเป็นพันธมิตรกัน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ การถ่ายทอดองค์ความรู้ การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ไปจนถึงการช่วย Transform องค์กรขนาดใหญ่ของไทย โดยทาง Techsauce จะช่วยเฟ้นหาเทคโนโลยีที่ เหมาะสมและตอบโจทย์กลยุทธ์องค์กรในภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ เช่น พลังงานหมุนเวียน ,ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI , หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ,อาหารและการเกษตร ,วัสดุใหม่ (New material) และด้านการดูแลสุขภาพ เป็นต้น
“เราได้เห็นความต้องการจากหลายภาคส่วน ทั้งองค์กรต่างๆ นักลงทุน และภาครัฐ ที่จะสนับสนุนด้าน DeepTech เพื่อสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับโลกใบนี้ ให้กับสังคมและภาคอุตสาหกรรมด้วยการจับมือร่วมกับ Techsauce ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่เล็งเห็นถึงคุณค่าร่วมกันและมีเป้าหมายเดียวกัน เราสามารถเชื่อมโยงระบบนิเวศของไทยให้เข้าถึง ทรัพยากรต่างๆ ด้าน DeepTech จากทั่วโลกได้ และนำมาซึ่งประโยชน์ให้กับองค์กรต่างๆ” นายเออเนส ซู Head of Hello Tomorrow Asia Pacific กล่าว
นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ CEO และ Co-Founder ของ Techsauce กล่าวว่า “DeepTech มีบทบาทสำคัญ ในการยกระดับ อุตสาหกรรมหลักของประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DeepTech มีจุดแข็งที่ไม่ใช่ใคร ก็ได้จะทำซ้ำ หรือลอกเลียนแบบได้ง่าย ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด สอดคล้อง กับเป้าหมาย ของเราที่จะทำให้บริษัทไทยต่างๆ มีเครื่องมือในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ในตลาดโลก นับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้าน DeepTech อย่าง HelloTomorrow”
HelloTomorrow เป็นแพลตฟอร์มและระบบนิเวศด้าน DeepTech นับตั้งแต่ปี 2011 ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำงานร่วมกับ Startup ผ่านโครงการ Global Challenge, Incubation, Acceleration และโปรแกรมด้านการศึกษามากมาย โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำและ accelerators กว่า 250 แห่งทั่วโลกเพื่อค้นหาโซลูชั่น DeepTech และพัฒนา ระบบนิเวศในการทำงานร่วมกันระหว่าง Startup, มหาวิทยาลัย, นักลงทุน, Accelerator, ภาครัฐ และองค์กรขนาดใหญ่ อีกทั้งบริการให้คำปรึกษา, บริการด้านนวัตกรรม และการวิเคราะห์แนวโน้มด้าน DeepTech
ความร่วมมือครั้งนี้จัดทำขึ้นเพื่อมอบโอกาสพิเศษสำหรับองค์กรในการใช้ประโยชน์จากโซลูชั่น DeepTech และหวังเป็น ส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศไทยอีกด้วย
สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนี้ ติดต่อเพิ่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
ที่มา: ChomPR