AIS 5G ประสานพลัง เพาเวอร์บาย เชื่อมต่อคนไทยกับโลกดิจิทัล ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านร้านAIS เทเลวิซกว่า 400 สาขาทั่วไทย ปรับโมเดลช่องทางขายด้วย e-Ordering ขนทัพสินค้าไอที พร้อม บริการครบ จบในที่เดียว
AIS 5G ต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญกับ เพาเวอร์บาย ผู้นำธุรกิจค้าปลีก เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ อันดับหนึ่ง ของไทย ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผสมผสานช่องทางการขาย (Cross Channel Platform) กับร้าน AIS เทเลวิซกว่า 400 สาขา ในทุกชุมชนทั่วไทย เชื่อมต่อผู้บริโภคใน Touch Point ต่างๆ ผ่านเทคโนโลยี เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงสินค้าและบริการไอที อิเล็คทรอนิคส์ ด้วยการเปิดบริการ e-Ordering กับทัพสินค้าคุณภาพจากเพาเวอร์บาย ผ่านพนักงานที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยช้อปส่วนตัว ให้บริการครบ จบในที่เดียว
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS อธิบายว่า “เรายังคงมุ่งเน้นที่จะนำโครงข่ายดิจิทัล เข้าไปเป็นตัวกลางเชื่อมต่อกับบริการรวมถึงไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นเหมือนเครื่องมือหลักในการใช้ชีวิต ทั้งการทำงาน เรียนหนังสือ ค้าขาย ในยุคโควิดให้แก่คนไทย ซึ่งการผลักดันเรื่องดังกล่าวของ AIS ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชื่อว่าสามารถส่งผลเชิงบวกทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการฟื้นฟูประเทศในมิติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากกับภาคธุรกิจค้าปลีกที่จะมีผลต่อภาพใหญ่ของประเทศ ทำให้เราเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีเป้าหมายการทำงานเดียวกันที่จะส่งต่อบริการดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ก้าวไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี จึงเป็นความยินดีอย่างยิ่งที่การทำงานร่วมกับเพาเวอร์บายในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมผลักดันทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจฐานรากของประเทศในช่วงเวลาท้าทาย รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างครบถ้วน”
นายวรวุฒิ พงศ์ชินภัค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “สถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ที่เกิดขึ้น สร้างพฤติกรรมใหม่ๆให้กับผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการช้อปปิ้ง มีการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ลูกค้าไม่ยึดติดกับการเห็นสินค้าก่อนการซื้ออีกต่อไป ทำให้ E-Catalog หรือ E-Ordering เข้ามามีบทบาทให้การนำเสนอสินค้าและบริการมากขึ้น สำหรับเพาเวอร์บาย เราเป็นผู้นำในธุรกิจที่มีกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้าแบบหลากหลายช่องทาง เราเห็นถึงโอกาสในการจับมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ สามารถขยายฐานลูกค้าให้ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับAIS และร้านเทเลวิซ ซึ่งมีสาขาอยู่กว่า 400 สาขาทั่วประเทศในการเปิดจุดจำหน่ายพิเศษ (E-Ordering) ขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เพาเวอร์บายเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมประสบการณ์การการเข้าร้าน Telewiz ให้มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย”
จากการดูแลลูกค้ากว่า 43.2 ล้านรายทั่วประเทศของ AIS ทำให้เข้าใจถึงความต้องการเข้าถึงสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต ความร่วมมือกับเพาเวอร์บาย ณ ร้านAIS เทเลวิซ นับเป็นนวัตกรรมของช่องทางการขายรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าด้วยเทคโนโลยี e-Odering โดยนำสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสารอินเทอร์เน็ต, Home Wifi Broadband ได้ เช่น ทีวี เครื่องเสียง หรือสินค้าไอทีอื่นๆ โดยพนักงานขายร้านAIS เทเลวิซ ในพื้นที่หัวเมือง และต่างจังหวัด กว่า 400 สาขา จะเป็นเหมือน Personal Shopper หรือผู้ช่วยช้อปส่วนตัว ผ่านแทบเล็ตจะนำเสนอสินค้าของเพาเวอร์บายถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน เปรียบเทียบข้อมูล และราคาสุดพิเศษ การชำระเงิน การจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน ไปจนถึงบริการหลังการขายที่สะดวกสบาย สามารถให้บริการได้จบ ครบในจุดเดียว ทำให้ผู้บริโภคในเขตหัวเมือง และต่างจังหวัดได้รับประสบการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ครอบคลุมครบทุกความต้องการดิจิทัลไลฟ์สไตล์
นายวรวุฒิ กล่าวต่อไปอีกว่า “ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ เพาเวอร์บายได้จัดทำจุดจำหน่ายช่องทาง E-Ordering ในร้าน Telewiz ทั่วประเทศ ผ่าน E-Catalog โดยเน้นสินค้าโทรทัศน์ เครื่องเสียง และแก็ดเจ็ตต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ โดยลูกค้าที่เข้าร้าน Telewiz สามารถเลือกสินค้าผ่านแท็ปแล็ต เลือกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เลือกช่องทางการขนส่ง และเมื่อชำระค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า ลูกค้าจะได้รับหลักฐานการซื้อสินค้าทันที ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านร้าน Telewiz จะได้รับบริการครบวงจร เช่นเดียวกับที่ซื้อจากร้านเพาเวอร์บายโดยตรง อาทิ การส่งฟรีในพื้นที่ที่กำหนด การรับประกันอย่างครบวงจร บริการให้คำปรึกษาต่างๆ ผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ของเพาเวอร์บายได้โดยตรง ดังนั้น ไม่ว่าจะช้อปที่เพาเวอร์บาย หรือช้อปหน้าร้าน Telewiz ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด และเป็นสินค้าจากแบรนด์ดังของแท้ 100% ทุกชิ้น”
นายปรัธนา กล่าวในตอนท้ายว่า “ความสำคัญของดิจิทัลเทคโนโลยีจะส่งผลต่อการทำงานเชิงรุกของภาคธุรกิจต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา การทำงานของ AIS กับเพาเวอร์ยบายครั้งนี้ฉายภาพเป้าหมายของเราในฐานะของการเป็น Digital Life Service Provider ได้อย่างชัดเจน ในมุมของการยกระดับประสบการณ์ การสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคนไทยด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีให้เข้าถึงคนไทยตั้งแต่ในเมืองไปจนถึงทุกชุมชนของประเทศ”
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1420 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 43.2 ล้านเลขหมาย (ณ มิถุนายน 2564) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ AIS eSports, AIS Insurance Service ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน
เกี่ยวกับเพาเวอร์บาย
เพาเวอร์บาย (Power Buy) บริษัทในเครือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสาขาครอบคลุมกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ
อีกทั้งเพาเวอร์บายยังได้พัฒนาช่องทาง Omni Channel การเชื่อมช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์เข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์ในการจับจ่ายให้ผู้บริโภค ช่วยสร้าง Brand Experience ที่ดีให้กับลูกค้าเพิ่มสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
“นอกจากนี้ เพาเวอร์บายยังมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 20,000 รายการ พร้อมบริการที่หลากหลาย มีบริการ Power Guru ผู้ช่วยช้อป “โทร 1324 กด 8 เห็นสินค้าจริง ก่อนซื้อ ผ่าน VDO Call” , บริการ 1Hour Pick Up ” ซื้อสินค้าออนไลน์ นัดรับสินค้าที่ร้านภายใน 1 ชั่วโมง ที่สาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ ,บริการ “ส่งด่วน” ภายใน 3 ชั่วโมง สำหรับการสั่งซื้อ สินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก Gadget และอุปกรณ์เสริม ผ่านหน้าเว็ปไซต์ของเพาเวอร์บาย เพื่อยกระดับการบริการตอบโจทย์ลูกค้ายุค New Normal ที่รวดเร็วทันใจ จัดส่งครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ กว่า 36 เขต พร้อมบริการส่งและติดตั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และบริการหลังการขายจากทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้บริการติดตั้งและการดูแลตลอดการใช้งานอีกด้วย”
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีกซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,687 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น เน้นสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ภายใต้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente); (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ เน้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ภายใต้ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, และเมพ(e-book); (3) กลุ่มฟู้ด เน้นสินค้าของสดและของใช้บริโภคในครัวเรือน ภายใต้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท; และ (4) กลุ่มพร้อพเพอร์ตี้ เน้นให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกแก่บุคคลภายนอกและร้านค้าในเครือฯ ภายใต้ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า, และบิ๊กซี/โก! โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 54 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 39 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564)
ที่มา: แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส