บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) เสริมแกร่งผู้นำตลาดทีวีพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวนวัตกรรมทีวีใหม่ประจำปี 2564 ครบทุกไลน์อัพ นำโดยทีวีระดับเรือธงอย่าง LG SIGNATURE OLED 8K TV ซีรี่ส์ Z1 ขนาด 88 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมทีวีด้วยเทคโนโลยี OLED evo วิวัฒนาการอันก้าวล้ำของหน้าจอ OLED ที่สว่างยิ่งขึ้น จึงแสดงภาพและคอนทราสต์ได้คมชัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เสริมความล้ำให้แก่ทั้ง LG SIGNATURE OLED 8K TV ซี่รี่ส์ Z1 และ LG OLED 4K TV ซีรี่ส์ G1 ใหม่ ในขนาด 77, 65 และ 55 นิ้ว มาพร้อมไลน์อัพ OLED TV ใหม่ล่าสุดอีกสามซีรี่ส์ ได้แก่ซีรี่ส์ C1, B1, และ A1 หลากหลายยิ่งขึ้นทั้งในด้านขนาดและราคา มาให้เลือกตั้งแต่ 48 นิ้วไปจนถึง 77 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 45,990 บาท และลูกค้าในไทยยังจะได้สัมผัสอีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่แอลจีเปิดตัวเป็นครั้งแรกอย่าง LG QNED Mini LED ยกระดับการแสดงภาพในทีวี LCD ด้วยการผสานเทคโนโลยี Quantum Dot และ NanoCell เข้าไว้ด้วยกัน ทำงานร่วมกับหลอดไฟ Mini LED ขนาดจิ๋วอีกมากกว่าหนึ่งหมื่นเจ็ดพันหลอด เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการแสดงสีสันเจิดจรัสแม่นยำยิ่งกว่าทีวี LCD รุ่นอื่น ๆ มาในสองซีรี่ส์ ได้แก่ ซีรี่ส์ QNED99 8K ขนาด 75 นิ้ว พร้อมชิปประมวลผลอัจฉริยะ ? (อัลฟ่า) 9 Gen4 AI Processor 8K และซีรี่ส์ QNED91 4K ขนาด 75 และ 65 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิป ? (อัลฟ่า) 7 Gen4 AI Processor
นอกจากนี้ แอลจียังเปิดตัว LG NanoCell 4K TV ใหม่อีกห้าซีรี่ส์ ในขนาดตั้งแต่ 43 นิ้วจนถึง 86 นิ้ว รวม 16 รุ่น และ LG UHD TV ใหม่อีกสี่ซีรี่ส์ รวม 20 รุ่น มาพร้อมเทคโนโลยีภาพ เสียง และฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายใหม่ล่าสุดอีกมากมาย ตอบโจทย์ทั้งการรับชมภาพยนตร์ เล่นเกม และดีไซน์เรียบหรูลงตัวทุกการตกแต่ง ซึ่งนวัตกรรมทีวีใหม่ของปี 2564 นี้ นับว่าเป็นไลน์อัพที่มีความหลากหลายที่สุดจากแอลจี ทั้งในด้านเทคโนโลยี ดีไซน์ ขนาด และราคา ครอบคลุมทุกความต้องการด้านความบันเทิงของผู้บริโภคชาวไทย
คุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การปรับตัวรับวิถีชีวิตแบบใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจและลงทุนกับเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างความบันเทิงที่บ้านมากขึ้น จึงทำให้ตลาดทีวียังคงมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มทีวีพรีเมียมที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในระดับกลางจนถึงระดับบน ประกอบกับข้อเสนอพรีออเดอร์ LG OLED TV ซีรี่ส์ B1 ที่เรานำเสนอไปในเดือนที่ผ่านมาก็ได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจ ด้วยปัจจัยสำคัญนี้ ทำให้เรามั่นใจว่าตลาดไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโต และมีแนวโน้มที่จะตอบรับนวัตกรรมทีวีใหม่จากแอลจีเป็นอย่างดี โดยในปีนี้เราได้สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญของหน้าจอ OLED ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2556 ด้วยเทคโนโลยี OLED evo ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แอลจีครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของเซกเมนต์ OLED และภายในปี 2564 นี้เรายังตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย OLED อีกสามเท่า ขยายส่วนแบ่งตลาดของแอลจีในตลาดทีวีถึง 80%”
“นอกจากนี้ ไลน์อัพใหม่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่แอลจีพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อยกระดับประสบการณ์บันเทิงและไลฟ์สไตล์ครบทุกด้านตามแนวคิด Innovation for a better life ทั้งการรับชมความบันเทิง เล่นเกม ไลฟ์สไตล์ ตลอดจนถึงรูปโฉมการดีไซน์แบบแกลเลอรี่ที่สามารถแขวนผนัง ตั้งโต๊ะ หรือใช้ขาตั้ง Gallery Stand ได้อย่างกลมกลืนสวยงาม” คุณอำนาจกล่าว
Watch: เทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุด ยกระดับทั้งภาพและเสียงเพื่อการรับชมที่สมบูรณ์แบบทีวีใหม่ล่าสุดจากแอลจีมาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่พัฒนาประสิทธิภาพจากรุ่นก่อนหน้าให้สามารถยกระดับประสบการณ์ทั้งภาพและเสียงเพื่อมอบการรับชมทุกความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ชิปประมวลผลอัจฉริยะใหม่ ? (อัลฟ่า) 9 Gen4 AI Processor ที่ขับเคลื่อนการทำงานระบบต่าง ๆ ของทีวีให้รวดเร็วและมีความเสถียรยิ่งขึ้น พัฒนาการแสดงภาพด้วย AI Picture Pro วิเคราะห์และอัปเกรดความคมชัด สีสัน และรายละเอียดต่าง ๆ ของคอนเทนต์แต่ละประเภทให้มีมิติสมจริงยิ่งขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Scene Detection เจาะลึกการวิเคราะห์ภาพในระดับฉากต่อฉาก เพื่อดึงความโดดเด่นของสีสันพร้อมสร้างมิติความดำสนิทให้รายละเอียดเด่นชัดสมจริงกับการแสดงภาพในแต่ละฉาก ขณะที่เทคโนโลยี AI Sound Pro ก็พัฒนาให้สามารถเสริมความทรงพลังของเสียงได้ในระดับ 5.1.2 แชนแนล พร้อมฟีเจอร์ Auto Volume Leveling ใหม่ล่าสุด ปรับรักษาระดับเสียงให้สม่ำเสมอโดยอัตโนมัติไม่ว่าจะมาจากต้นฉบับแบบใด เติมเต็มอรรถรสในการรับชมไปอีกขั้น
คอภาพยนตร์ยังสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกได้อีกมากมาย รองรับทั้ง Dolby Vision IQ, Dolby Atmos, HDR10 PRO และ Filmmaker Mode สร้างความสมจริงทรงพลังเทียบชั้นโรงภาพยนตร์ จากคอนเทนต์คุณภาพระดับ Dolby ได้มากกว่า 3,800 รายการ จากหลากหลายแอปพลิเคชั่นยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Prime Video, Apple TV+ และแอปอื่น ๆ อีกมากมาย
Play: ตอบสนองเร็วทันใจ ราบรื่นทุกความเคลื่อนไหว ปลดล็อกความมันส์ได้ทุกเกมสำหรับเกมเมอร์ ทีวีใหม่จากแอลจียังการันตีความมันส์ในการเล่นเกมทุกประเภททั้งคอนโซลและพีซี โดยทีวี OLED, QNED Mini LED และ NanoCell รุ่นใหม่จะมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะอย่าง Game Optimizer รวมการตั้งค่าเฉพาะสำหรับการเล่นเกมต่าง ๆ ไว้ที่เดียว เพื่อปรับการแสดงภาพและเสียงให้เหมาะสมกับประเภทเกมที่เล่นได้อย่างง่ายดาย และสำหรับทีวี OLED ยังมาพร้อมอัตราการตอบสนองต่ำสุดเพียง 1ms อัตรารีเฟรชภาพ 120Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC(R) Compatible, FreeSync(TM) และ VRR ให้ช่วงชิงชัยชนะได้แบบเรียลไทม์
ส่วนคอกีฬาก็สามารถตามติดทุกศึกของทีมโปรดได้ด้วยฟีเจอร์ Sports Alert แจ้งเตือนก่อนเริ่มเกม อัปเดตคะแนนแบบเรียลไทม์ระหว่างการแข่งขัน และแจ้งกำหนดการแข่งขันในรอบถัดไป เชียร์เกมได้อย่างถึงใจยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ Bluetooth Surround Ready เชื่อมต่อลำโพงผ่านบลูทูธได้ถึง 2 ตัวพร้อมกัน เพื่อสร้างบรรยากาศเสียงทรงพลังรอบทิศทางประหนึ่งอยู่ในสนาม มาพร้อมมุมมองการรับชมที่กว้างถึง 180 องศา ให้เชียร์ศึกสำคัญร่วมกับเพื่อนได้ถึงใจยิ่งขึ้น
Adore: ดีไซน์บางเฉียบกลมกลืนทุกการตกแต่ง พร้อม Home Screen โฉมใหม่ ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
การพัฒนาของทีวีใหม่จากแอลจีในปีนี้ ยังครอบคลุมถึงรูปลักษณ์การดีไซน์ที่คำนึงถึงสุนทรียภาพด้านการตกแต่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะทีวี LG OLED ซีรี่ส์ G1 ที่สามารถเลือกติดตั้งแบบแกลเลอรี่แขวนแนบชิดติดผนังด้วยหน้าจอที่บางเพียง 4 มิลลิเมตร และสำหรับทีวี OLED (C1, B1, A1), NanoCell และ UHD (UP80, UP77) ยังสามารถเลือกติดตั้งได้ถึง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แขวนผนัง วางบนโต๊ะ และใหม่ล่าสุดกับขาตั้งพื้นแบบ Gallery Stand ที่เนรมิตทีวีประหนึ่งงานศิลป์ ออกแบบให้สามารถเก็บความเรียบร้อยของสายไฟได้อย่างกลมกลืน
นอกจากนี้ ทีวีรุ่นใหม่จากแอลจียังปรับโฉมหน้า Home Screen ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด webOS 6.0 พัฒนาการประมวลผลให้ค้นหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น เสริมความสะดวกสบายด้วยเมจิกรีโมทดีไซน์ใหม่ ออกแบบรูปทรงให้กระชับมือยิ่งขั้น สามารถชี้หรือเลื่อนได้เสมือนเมาส์ไร้สาย รองรับคำสั่งเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษผ่านเทคโนโลยี ThinQ AI พร้อมเสริมปุ่มลัดไปยัง Netflix หรือ Prime Video ได้เพียงกดปุ่มเดียว จึงใช้งานได้สะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย
LG SIGNATURE OLED TV 8K ซีรี่ส์ Z1 ขนาด 88 นิ้ว ราคา 1,999,990 บาท LG OLED TV 4K ซีรี่ส์ G1, C1, B1 และ A1 ราคาเริ่มต้น 45,990 – 219,990 บาท LG NanoCell TV ซีรี่ส์ NANO91, NANO86, NANO80, NANO77, NANO75 ราคาเริ่มต้นที่ 20,790 – 109,990 บาท และ LG UHD TV ราคาเริ่มต้นที่ 15,990 – 89,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของแอลจี และสำหรับ LG QNED Mini LED TV ซีรี่ส์ QNED99 และ QNED91 ราคาเริ่มต้น 104,990 – 229,990 บาท จะมาให้ลูกค้าชาวไทยเป็นเจ้าของตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี
0-2878-5757 หรือ https://www.lg.com/th/tv
ที่มา: แอลจี-วัน ประเทศไทย