Igloo อินชัวร์เทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือกับไทยไพบูลย์ ประกันภัย เปิดตัวประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคล

Igloo อินชัวร์เทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือกับไทยไพบูลย์ ประกันภัย เปิดตัวประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคล ช่วยปกป้องผู้ใช้งานชาวไทยจากอาชญากรรมออนไลน์

Igloo ผู้นำด้านอินชัวร์เทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ไทยไพบูลย์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันภัยในกลุ่มบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในการเปิดตัวประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคล ที่จะช่วยคุ้มครองผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยจากอาชญากรรมไซเบอร์ โดยประกันภัยไซเบอร์ได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) ที่ทำหน้าที่ในการกำหนดกฎเกณฑ์ด้านประกันภัย ได้อนุมัติให้นำเสนอประกันภัยไซเบอร์ผ่านตัวแทนจำหน่ายของไทยไพบูลย์ เช่น บูธเอสซีบีเอ็ม ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และสยามพารากอน (ยกเว้นเดอะมอลล์โคราช และบลูพอร์ตหัวหิน) ทั้งนี้ จากพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยบนโลกดิจิทัล ไทยไพบูลย์ ตระหนัก ถึงไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้ร่วมมือกับ Igloo พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยดังกล่าวนี้เพื่อรองรับกับความเสี่ยงอาชญากรรมทางไซเบอร์ให้กับผู้ใช้งานในประเทศไทย ทั้งนี้ จากศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ (Thai Computer Emergency Response Team หรือ ThaiCERT) พบอาชญากรรมทางไซเบอร์ในประเทศไทยเกิดขึ้นอย่างน้อย 2,250 ครั้ง ในปี 2563 ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศจะมีการเติบโตสูงขึ้น

ลูกค้าสามารถเลือกแผนคุ้มครองได้ 3 แผนที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง หรือแผนสำหรับครอบครัวที่คุ้มครองสูงสุด รวม 4 คน โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 371 บาท ต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 1 บาท ผลิตภัณฑ์ประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคลนี้ให้ความคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจาก การโจรกรรมเงินทางอินเทอร์เน็ต การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลทางอินเทอร์เน็ต การกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตรวมถึงครอบคลุมการโจรกรรมทางไซเบอร์ในรูปแบบใหม่ๆ ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต และการติดตั้งระบบบ้านอัจฉริยะ

มิสเตอร์ ราวนัค เมธา ซีซีโอของ Igloo กล่าวว่า “พฤติกรรมของผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนแปลงได้จากปัจจัยภายในและภายนอก ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เช่น แมชชีน เลิร์นนิ่ง (machine learning), บิ๊กดาต้า (Big data) และเอไอ (ai) ด้านประกันภัย Igloo จึงพยายามสร้างโซลูชันที่จำเป็น เพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราเชื่อว่าในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านประกันภัย Igloo สามารถทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน”

ด้วยเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1.59 ล้านล้านบาท โดยประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจดิจิทัลอันดับต้น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขยายตัวของดิจิทัลถูกเร่งให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่มีการล็อคดาวน์ทั่วโลก คนไทยใช้เวลาออนไลน์โดยเฉลี่ย 4.6 ชั่วโมงต่อวัน โดยใช้อินเทอร์เน็ตในการทำธุรกรรมดิจิทัล เช่น การซื้อของออนไลน์ การสั่งอาหาร การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และการเสพสื่อโซเชียล พฤติกรรมเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงของผู้ใช้งานชาวไทยที่จะตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมถึงการฉ้อโกง การแพร่กระจายของมัลแวร์ การฉ้อโกงจากการซื้อของผ่านออนไลน์ และการแสวงหาประโยชน์ทางออนไลน์ – อาชญากรรมทางไซเบอร์ยังคงเกิดขึ้นจำนวนมากในประเทศไทย

นางสาวจันทร์จรัส จันทรกานต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Igloo กล่าวว่า “อาชญากรรมทางไซเบอร์ เป็นภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนมากขึ้นในทุกๆ วัน แม้ว่าเราจะมีเครื่องมือป้องกันไว้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะไม่ตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามทางไซเบอร์ ความร่วมมือกับไทยไพบูลย์ ประกันภัย ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยจะช่วยชดเชยความเสียหายจากภัยไซเบอร์ให้ลดน้อยลง”

นายยูจีน ฟง จูน เซียง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การใช้เทคโนโลยีของ Igloo ทำให้เราสามารถตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในรูปแบบดิจิทัลได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า โซลูชั่นของ Igloo เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรรองรับต่อกิจกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ถือกรมธรรม์สามารถเข้ามาดูกรมธรรม์ได้อย่างง่ายดาย และสามารถสร้างขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางออนไลน์โดยตรงผ่านพอร์ทัลลูกค้าของ Igloo ซึ่งใช้งานง่าย ทำให้ลูกค้าอุ่นใจได้ว่า แม้หากโดนโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้เกิดความเสียหายแล้ว ก็ยังมีการประกันภัยที่วางใจได้”
Igloo เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกจากการเป็นพันธมิตรกับฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนัก โดยเปิดตัว PandaCare เพื่อปกป้องผู้ขับขี่ในการจัดส่งอาหารในขณะที่ไปทำงานประจำวันและการเดินทาง นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 มีกรมธรรม์ 100 ล้านฉบับขายบนแพลตฟอร์มของ Igloo ในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย เพื่อขยายและกระจายการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ในปีนี้ Igloo วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคล ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปกป้องภูมิภาคซึ่งถือเป็นประเทศเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งมีผู้ใช้งานดิจิทัล 400 ล้านคนในปี 2563 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับ Igloo
Igloo หรือก่อนหน้านั้นรู้จักภายใต้ชื่อ “Axinan” เป็นอินชัวร์เทคแห่งแรกจากสิงคโปร์ที่เป็น Full-stack Insurtech ปัจจุบันมีสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยมีศูนย์เทคโนโลยีของตนเองในประเทศจีนและไต้หวัน ด้วยพันธกิจในการตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้บริการประกันสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทางบริษัทจึงพัฒนาระบบบิ๊กดาต้า การประเมินความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ และการจัดการการเรียกร้องสินไหมได้แบบอัตโนมัติแบบครบวงจร เพื่อสร้างโซลูชั่นการประกันแบบ B2B2C เพื่อการใช้งานของแพลตฟอร์มสำหรับองค์กร พันธมิตร และบริษัทประกัน โซลูชั่นการประกันของ Igloo จะช่วยให้องค์กรลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน สร้างรายได้จากช่องทางใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับสินค้าและบริการที่มีอยู่ ล่าสุดในเดือนเมษายนปี 2563 Igloo ประสบความสำเร็จในการปิดรอบการระดมทุน ซีรี่ส์ A+ มูลค่า 8.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยระดมทุนมาแล้วทั้งสิ้น 16 ล้านเหรียญสหรัฐจากนักลงทุนทั่วโลก

Igloo นำทีมโดยแกนหลักจากบริษัทดาวเด่นในวงการเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมประกัน เช่น เฟซบุ๊ค แกร็บ ฟลิปคาร์ท การีน่า แมนูไลฟ์ ช้อปปี้ ยาฮู! และซาโลร่า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ https://www.iglooinsure.com/

ที่มา: พรีเชียส คอมมูนิเคชั่น