ESRI ชูบริการเรือธง ArcGIS Business Analyst ตัวช่วยปรับกลยุทธ์เสริมโอกาสธุรกิจ ติดอาวุธชุดข้อมูลวิเคราะห์โลเกชันเชิงลึก!

บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ จากความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ArcGIS ล่าสุดได้พัฒนาบริการเรือธง ArcGIS Business Analyst เสริมศักยภาพ 4 อุตสาหกรรมหลัก อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก สินค้าอุปโภคและบริโภค (FMCG) และธนาคาร เพื่อช่วยวิเคราะห์มุมมองทางธุรกิจด้วย Location Data ชุดข้อมูลอัจฉริยะเพื่อการวิเคราะห์ตำแหน่งที่ตั้งเชิงลึก ตัวช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการวางแผนการตลาด การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม และการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลบนแผนที่ในรูปแบบ Interactive ทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและนำไปใช้งานต่อ ย้ำโลเกชันคืออีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของทุก ๆ องค์กร เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ

นางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในยุคที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันฟาดฟันกันด้วยข้อมูลมหาศาล หรือบิ๊กดาต้า (Big Data) เปรียบเสมือนขุมสมบัติ ที่ยิ่งมีมากยิ่งได้เปรียบ ส่งผลให้ Location Data เป็นอีกหนึ่งคลังข้อมูลที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อหลายธุรกิจ โดยไม่ใช่แค่แผนที่ระบุตำแหน่งที่ตั้ง แต่คือการนำข้อมูลระดับบิ๊กดาต้า มาทำการวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด และสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจ แต่ในทางกลับกัน กลับพบจำนวนคลังข้อมูลเหล่านั้น ไม่มีการนำกลับมาสร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรเท่าที่ควร ด้วย pain point ดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ArcGIS Business Analyst เพื่อเป้าหมายในการช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลสำคัญขององค์กรไปใช้ประโยชน์ได้จริง และเดินหน้าธุรกิจได้อย่างมั่นคง

“ArcGIS Business Analyst เป็นซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์เพิ่มมุมมองทางธุรกิจด้วยการใช้ Location data หรือชุดข้อมูลอัจฉริยะเพื่อการวิเคราะห์ตำแหน่งที่ตั้งเชิงลึก เพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการวิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่และกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เข้าใจลูกค้ามากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย โดยล่าสุดมีธุรกิจเริ่มให้ความสนใจติดต่อเพื่อขอใช้บริการ ตั้งเป้ายกระดับการทำงานผ่านการให้บริการซอฟต์แวร์ดังกล่าวให้แก่ลูกค้าปัจจุบัน และมุ่งขยายเพิ่มไปสู่ลูกค้าใหม่ ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก สินค้าอุปโภคและบริโภค (FMCG) และธนาคาร รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับองค์กรและผู้บริหารในการลงทุนหรือบริหารจัดการธุรกิจ ช่วยลดต้นทุนในการสำรวจ ด้วยซอฟต์แวร์ของเราที่ได้รวบรวมทุกข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประชากรทั่วโลก (Demographic Data) และข้อมูลสถานที่สำคัญ (POI : Point of interest) ให้บริการในรูปแบบเครดิตในราคาที่จับต้องได้ ยกให้เป็นบริการเรือธงของอีเอสอาร์ไอในปี 2564 นี้” นางสาวธนพร กล่าว

นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ ArcGIS Business Analyst ยังได้พัฒนาให้สามารถพร้อมใช้งานผ่าน Web Application และ Mobile Application ที่ลูกค้าสามารถดึงชุดข้อมูลสำคัญที่จัดเก็บบนคลาวด์ (Cloud) นำมาวิเคราะห์และใช้งานได้ตามความต้องการ ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมทั้งยังนำเสนอผลลัพธ์ในรูปแบบแผนที่และอินโฟกราฟิก สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายและนำไปต่อยอดใช้งานได้อย่างทันที พร้อมฟังก์ชันที่ผู้ใช้งานสามารถนำชุดข้อมูลเดิมจากองค์กรนำมาประกอบการวิเคราะห์ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ที่แม่นยำ ความละเอียดสูง จนได้ผลลัพธ์เป็นชุดข้อมูลที่น่าเชื่อถือ สู่การพัฒนาและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจต่อไป

สำหรับซอฟต์แวร์ ArcGIS Business Analyst พัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อช่วย 4 อุตสาหกรรมหลัก ดังนี้

  1. อสังหาริมทรัพย์ หรือเรียลเอสเตท (Real Estate) วิเคราะห์ศักยภาพและเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในการลงทุน เช่น แปลงที่ดิน หรือพื้นที่โดยรอบ เพื่อประเมินศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต โดยสามารถเลือกปัจจัยการวิเคราะห์ เช่น สถานที่สำคัญ (POI) ประเมินศักยภาพการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ในอนาคต
  2. ค้าปลีก หรือ รีเทล (Retail) วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเปิด-ปิดสาขา รวมถึงการปรับ-รวม-ย้ายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการลูกค้าและตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยการกำหนดกลุ่มเป้าหมายมาวิเคราะห์ร่วมกับตำแหน่งที่สนใจ ประกอบกับปัจจัยที่ส่งผลต่อศักยภาพของพื้นที่ ทั้งปัจจัยเชิงบวก เช่น ตำแหน่งลูกค้า สถานีรถไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย หรือปัจจัยเชิงลบ เช่น ตำแหน่งคู่แข่ง ตำแหน่งพื้นที่กำจัดขยะ เป็นต้น
  3. สินค้าอุปโภค/บริโภค (FMCG : Fast-moving consumer goods) วิเคราะห์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด เน้นการวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูล ร้านค้าในพื้นที่ และการวิเคราะห์ขอบเขตพื้นที่การขาย (Territory design) การแบ่งพื้นที่การขาย เพื่อความสมดุลของลูกค้า โดยดูจากลูกค้าที่กระจายตัวอยู่ในแต่ละพื้นที่ ช่วยในการบริหารจัดการการขายได้อย่างชัดเจน เสริมประสิทธิภาพการขาย และลดต้นทุนค่าเดินทาง รวมทั้งการเลือกตำแหน่งจุดกระจายสินค้าที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งและกระจายสินค้าได้เร็ว ตอบโจทย์ธุรกิจเดลิเวอรี่
  4. ธนาคาร หรือ แบงก์กิ้ง (Banking) วิเคราะห์เพื่อปรับตำแหน่งสาขา (Relocate) ให้ตรงกับความต้องการการใช้บริการของลูกค้าในพื้นที่ รวมถึงการวางตำแหน่งตู้ ATM ที่เหมาะสม โดยอาศัยการวิเคราะห์จากข้อมูลสถานที่สำคัญ (POI) และปัจจัยอื่น ๆ ที่สนใจ รวมทั้งสามารถนำมาวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจจากภาพรวมตลาด เพื่อดูพื้นที่ที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ในยุคที่ข้อมูลมหาศาลเปรียบเสมือนอาวุธสำคัญในการทำธุรกิจ Location จะเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ทุก ๆ องค์กร ควรหันมาให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ

สำหรับองค์กรที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ArcGIS Business Analyst หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.esrith.com

ที่มา: แอบโซลูท พีอาร์