Huawei Mobile Services (HMS) ประกาศเปิด DIGIX Lab ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมสำหรับนักพัฒนาแอปมือถือในภูมิภาค ในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิด ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ และสนับสนุนความร่วมมือ
Lab แห่งนี้มาพร้อมกับ AR, VR, AI, เครื่องมือ HMS Core และขีดความสามารถทางเทคโนโลยีแบบเปิดอื่น ๆ มอบพื้นที่แก่นักพัฒนาในการเชื่อมต่อและสัมผัสทรัพยากรนักพัฒนา HMS เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ DIGIX Lab ยังเปิดให้เข้าถึงบริการได้แบบออนไลน์ เปิดทางให้นักพัฒนาทั่วภูมิภาคใช้ทรัพยากรได้แบบเสมือนจริง
Shane Shan ผู้อำนวยการ Asia Pacific Huawei Consumer Cloud Service กล่าวว่า “ในยุค 5G HMS มีเป้าหมายที่จะสร้างระบบ Eco-System ในมือถือที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์แบบ ‘1+8+N’ และสร้างพลังแก่นักพัฒนาและพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคในการคิดค้นนวัตกรรมและสร้างอนาคตดิจิทัล โดย DIGIX Lab ใหม่นี้ทำหน้าที่เป็น ศูนย์รวมนวัตกรรมครบวงจร ที่ให้สิ่งจำเป็นทั้งหมดที่นักพัฒนาต้องการเพื่อความสำเร็จ Huawei จะเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และสถาบันต่าง ๆ ในชุมชนต่อไป พร้อมบ่มเพาะแหล่งรวมบุคลากรหัวกะทิด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่พร้อมรับกับทุกสถานการณ์”
ภายใต้กลยุทธ์ “1+8+N” Seamless AI Life สมาร์ทโฟนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งเดียว (1) ขณะที่พาร์ทเนอร์ในระบบ Eco-System ของ Huawei เชื่อมโยงเข้าหากันผ่าน 8 อุปกรณ์ของ Huawei (8) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม IoT ที่เชื่อมต่อกันเต็มรูปแบบพร้อมบริการที่ไร้ขีดจำกัด (N) HMS สนับสนุนกลยุทธ์นี้โดยการเป็นสะพานเชื่อมแอปมือถือระดับนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ IoT ผ่านทางขีดความสามารถด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Huawei ซึ่งเมื่อรวมกับระบบ AI และโซลูชันประมวลผลคลาวด์ของ Huawei แล้ว ท้ายที่สุดจะสามารถสร้างระบบ AI ในทุกสถานการณ์สำหรับผู้ใช้ปลายทางของ Huawei
เชื่อมต่อ สื่อสาร และร่วมมือที่ Huawei DIGIX Lab
DIGIX Lab แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ๆ ซึ่งนักพัฒนา พาร์ทเนอร์ และผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี สามารถเชื่อมต่อ สื่อสาร และร่วมมือกันภายในชุมชนแห่งนี้
1. โซนสัมผัสประสบการณ์ : พื้นที่สำหรับผู้มาเยือนในการสัมผัสประสบการณ์ระบบ Eco-system ครบวงจรแบบ “1+8+N” พื้นที่นี้จัดแสดงสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด และอุปกรณ์ 8 ชนิดของ Huawei ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต พีซี อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ และแว่น VR อัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังจัดแสดงผลิตภัณฑ์ IoT ที่ใช้ในบ้านของแบรนด์อื่นที่รองรับ HUAWEI HiLink ด้วย
2. โซนปฏิสัมพันธ์ : โซนอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ร่วมมือและห้องฝึกปฎิบัติการเพื่อสนับสนุนการสร้างชุมชน โดยโปรแกรมสำหรับนักพัฒนา เช่น กิจกรรมฝึกอบรม เวิร์กชอป อีเวนต์ระดับอุตสาหกรรม และการสร้างเครือข่ายนั้นสามารถจัดในพื้นที่นี้ได้ ขณะเดียวกัน ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีหรือนักพัฒนาทั้งหลาย ก็จองพื้นที่เพื่อจัดอีเวนต์ชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอปมือถือได้เช่นกัน
3. โซนสนับสนุน : โซนนี้ประกอบด้วยห้องประชุม 3 ห้อง ซึ่งนักพัฒนาที่กำลังเผชิญกับอุปสรรคระหว่างพัฒนาแอปสามารถพบกับวิศวกรหรือทีมธุรกิจของ Huawei เพื่อรับความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีศูนย์แก้จุดบกพร่อง 4 แห่งภายในแล็บแห่งนี้ เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาด้วยทรัพยากรที่จำเป็น
ผู้เยี่ยมชมจากทั่วภูมิภาคทัวร์ชม DIGIX Lab แบบเสมือนจริงได้ทาง https://developer.huawei.com/consumer/en/DIGIXLab-Offline?page=0 โดยนอกเหนือจากการเดินผ่านพื้นที่ต่าง ๆ แบบเสมือนจริงแล้ว ผู้เข้าชมทางออนไลน์ยังสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรและบริการล่าสุดของ HMS สำหรับนักพัฒนา พร้อมเข้าร่วม Developer Programs ของ Huawei รวมถึงเว็บบินาร์ (webinars) และเชื่อมต่อเพื่อรับความช่วยเหลือด้านเทคนิค นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถเข้าถึงบริการทางไกล เช่น Cloud Debugging และ Cloud Testing ซึ่งเปิดทางให้สามารถแก้ไขจุดบกพร่องและทดลองใช้แอปทางไกลจากอุปกรณ์ล่าสุดของ Huawei ชนิดไหนก็ได้ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง HUAWEI P Series และ HUAWEI Mate Series
สนับสนุนนักพัฒนาสร้างนวัตกรรมผ่านทาง Huawei Mobile Services Ecosystem
การเปิด DIGIX Lab ช่วยเติมเต็มเครื่องมือและโปรแกรมอื่น ๆ สำหรับนักพัฒนาในภูมิภาคเพื่อสร้างนวัตกรรมผ่านทางระบบนิเวศ HMS
เมื่อเร็ว ๆ นี้ HMS เปิตตัวแอป HUAWEI Developers ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับนักพัฒนา Huawei ในการบริหารจัดการระบบหลังบ้านของแอป พร้อมเข้าถึงกิจกรรมล่าสุดของนักพัฒนา และรับการแจ้งเตือนอีเวนต์ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ HMS จะเปิดตัวโครงการชุมชนนักพัฒนาใหม่ 3 โปรแกรมใน APAC ปีนี้ ซึ่งประกอบด้วย HUAWEI Student Developers (HSD), HUAWEI Developer Groups (HDG) และ HUAWEI Developer Experts (HDE) เพื่อช่วยนักพัฒนาในทุกระดับเติบโตไปกับระบบ Eco-system HMS โดยนักพัฒนาใน APAC จะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมคอร์สฝึกอบรม เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องมือพัฒนา HMS ในแอปของพวกเขา และรับ “Huawei Developer Certification” เมื่อสำเร็จคอร์ส
เพิ่มคุณค่าให้กับเจ้าของและนักพัฒนาแอปด้วย HMS
ระบบ Eco-system HMS เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก จนปัจจุบันติด Top 3 ระบบ Eco-system มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลก โดยเมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2020 มี HUAWEI Developers ที่ลงทะเบียนกว่า 2.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 77% ในช่วงเวลา 1 ปี
เจ้าของแอปที่ต้องการให้แอปของพวกเขาเข้าไปอยู่ในระบบ Eco-system HMS จะสามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งของ HMS ผ่านทางแพลตฟอร์มไฮบริดหลายช่องทาง เช่น HUAWEI AppGallery, HUAWEI Browser และ Petal Search
HMS Core 5.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด ประกอบด้วยขีดความสามารถแบบเปิด 56 อย่าง และ API 12,981 รายการ มอบฟังก์ชันที่ครอบคลุมเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาในการบูรณาการแอปอย่างง่ายดาย นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถเข้าถึงทีมเทคนิค HMS ในพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือในระหว่างกระบวนการ
สำหรับอนาคตข้างหน้า HMS จะเดินหน้าลงทุนในด้านขีดความสามารถทางเทคโนโลยี และสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่แก่นักพัฒนา เพื่อช่วยสร้างนวัตกรรมบนมือถือในภูมิทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1441143/DIGIX_Lab_1.jpg
รูปภาพ – https://mma.prnewswire.com/media/1442624/DigixLabHDS_4266.jpg