บรรยากาศการเรียนโฉมใหม่จะคึกคักขึ้นมากเมื่อมีเพื่อนหุ่นยนต์มาเรียนด้วย ประดิษฐกรรมจากอนาคต ฝีมือนักประดิษฐ์ชาวจุฬาฯ ประกันประสิทธิภาพด้วยรางวัลเหรียญทองและ Innovation Excellence Award จากการประกวดนวัตกรรมนานาชาติ “International British Innovation, Invention, Technology Expo 2020” ประเทศอังกฤษ
การเล่นเกมกับการเรียนของเด็กๆ จะไม่ใช่คนละเรื่องอีกต่อไป หลังการเปิดตัวหุ่นยนต์ช่วยสอนตัวล่าสุด “อวตาร” นวัตกรรมความร่วมมือระหว่างนักวิชาการจากสองคณะ คือครุศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้งานวิจัย “TARAL : หุ่นยนต์ช่วยสอนแบบมีปฏิสัมพันธ์เพื่อการเรียนรู้เชิงรุก”
“เราพัฒนาหุ่นยนต์ช่วยสอนต่อมาจากหุ่นยนต์ตุ๊กตาหมีแต่งตัวได้ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่เคยส่งประกวดนวัตกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้ จุดเด่นของอวตารคือลูกเล่นใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนที่น่าเบื่อเป็นการเล่นที่จะสนุกกับเนื้อหาในบทเรียน เพลินกับการเลี้ยงหุ่นยนต์อวตารให้โตขึ้นจาก QR Code ซึ่งมาจากการตอบคำถามในแบบทดสอบ เราเรียกกระบวนการนี้ว่า Gamification กระตุ้นความรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้จนอาจลืมไปเลยว่ากำลังเรียนหนังสืออยู่” ศ.ดร.เนาวนิตย์ สงคราม ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์ ซึ่งคิดค้นหุ่นยนต์เรซิ่นขนาดความสูง 10 นิ้ว “อวตาร” ร่วมกับ รศ.ดร.เกริก ภิรมย์โสภา ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เผยจุดเด่นและเบื้องหลังสำคัญของผลงาน
“เรานำระบบการจัดการการเรียนรู้ที่เรียกว่า Learning Management System หรือ LMS มาใช้ ในกระบวนการทำงานซึ่งทำให้อวตารในระบบ LMS โตขึ้น ๆ (ในระบบ) ยิ่งนักเรียนตอบคำถามมากเท่าไหร่ อวตารก็จะเติบโตขึ้นมากเท่านั้น การเรียนกับการเล่นจึงเป็นเรื่องเดียวกันไปโดยปริยาย”
นอกจากระบบ LMS แล้ว อีกลักษณะพิเศษที่เพิ่มเข้ามาในนวัตกรรมนี้คือระบบ Moodle ซึ่งทำให้ผู้สอนสามารถบรรจุเนื้อหาหรือปรับเปลี่ยนบทเรียนในอวตารได้ตามต้องการ และทุกรูปแบบสื่อการเรียน การสอน ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือจะฝากลิงค์ URL ก็ทำได้ด้วยระบบนี้
“แม้แต่แบบทดสอบแบบเติมคำเติมข้อความหรือประโยคคำตอบก็ทำได้ พร้อมยังสรุปผลวิเคราะห์ การเรียนแบบ Real Time ได้อีกด้วย”
ศ.ดร.เนาวนิตย์ กล่าวทิ้งท้ายว่าปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างยื่นขอจดอนุสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้และขยายผลโครงการกับโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกายสำหรับใช้ทดสอบสมรรถภาพของนักเรียนด้านพลศึกษาด้วย
ที่มา: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย